หลังมีการรายงานว่า 2014 BMW i8 จะพร้อมเปิดตัวในงาน Frankfurt Motor Show ณ ประเทศเยอรมนี
เดือนกันยายนนี้ ตามหลังการเปิดตัวของ i3 ที่นำร่องมาก่อนไปติดๆ วันนี้มีรายละเอียดคร่าวของรถยนต์รุ่นนี้
หลุดออกมาแล้ว พร้อมอัพเดทให้คุณผู้อ่าน Headlight Magazine รู้กันก่อนใคร

2014 BMW i8 ถือว่าเป็นความพัฒนาแบบก้าวกระโดดสำหรับรถยนต์สปอร์ตคูเป้จาก BMW เลยทีเดียว
เพราะหลังจาก BMW M1 แล้ว ค่ายใบพัดสีฟ้าก็ร้างลาการผลิตรถยนต์กลุ่มซูเปอร์คาร์ออกมาพอสมควร
นอกจากนี้ BMW i8 จะเป็นรถยนต์ Plug-in Hybrid คันแรกของค่าย โดยจะไม่เน้นกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้ามาก
และนำเอาเครื่องยนต์เบนซินมาช่วย แตกต่างจาก i3 ชัดเจน

alt

รูปลักษณ์ภายนอก โดยรวมแล้วจะหยิบยกมาจาก BMW i8 Concept ที่โชว์ออกมาก่อนหน้านี้ แต่จะมี
การปรับรายละเอียดให้เหมาะสมกับชีวิตจริงมากขึ้น พร้อมช่วงโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าที่สั้น หลังคาลาดเท
พร้อมแนวกระจกช่วงหลังแบบคอขวด อันเป็นเอกลักษณ์งานออกแบบของ BMW i อีกทั้งยังมีการออกแบบ
รายละเอียดด้านท้ายให้มีลักษณะครีบรีดอากาศชิ้นใหญ่ ส่งผลให้มีความลู่ลม จนทำตัวเลขสัมประสิทธิ์
แรงเสียดทานอากาศอยู่ที่ 0.26

ส่วนห้องโดยสาร ยืนยันแล้วว่าจะเป็นการจัดวางตำแหน่งโดยสารแบบ 2+2 ที่นั่ง นอกจากนี้การตกแต่ง
ภายในยังคงเน้นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายง่าย เพื่อความรักษ์โลก เช่นเดียวกับ i3 อย่างแน่นอน

ขุมพลัง Plug-in Hybrid ที่นำมาใช้ เป็นการผสานเครื่องยนต์ขนาดจิ๋วกำลังแจ๋ว แบบเบนซิน 3 สูบเรียง
ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบแบบ TwinPower สร้างกำลังได้สูงถึง 231 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด
ที่ 320 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดกำลัง 131 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร
โดยจะแบ่งหน้าที่ชัดเจน มอเตอร์ไฟฟ้ารับหน้าที่ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนเครื่องยนต์เบนซินจะติดตั้งกลาง
ลำตัวรถ รับหน้าที่ขับเคลื่อนล้อหลัง

ดังนั้น การทำงานของระบบขับเคลื่อน สามารถแยกกันอิสระ หรือสามารถช่วยกันเค้นกำลังได้รวมถึง 362 แรงม้า
พร้อมแรงบิดสูงสุดรวมมากถึง 570 นิวตัน-เมตร ช่วยทำให้ i8 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้
ในระยะเวลาเพียง 4.5 วินาที และถูกจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 250 กม./ชม. นอกจากนี้ ด้วยการแบ่ง
ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า-หลัง ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์สามารถแบ่งกำลังสู่ล้อเพื่อเพิ่มความเกาะถนน
ขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้

จุดเด่นของ 2014 BMW i8 อยู่ที่การเป็นรถยนต์ทรงพลัง แต่จิบน้ำมันเพียงเล็กน้อย ด้วยอัตราสิ้นเปลือง
เชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 40 กม./ลิตร ทั้งนี้เป็นเพราะมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถช่วยขับเคลื่อนตัวรถได้ไกล 35 กม.
(ล็อกความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าไว้ที่ 120 กม./ชม.)

จุดเด่นอีกจุดหนึ่งอยู่ที่การใช้โครงสร้างตัวรถแบบ LifeDrive ผสมผสานวัสดุ CFRP หรือคาร์บอนไฟเบอร์ผสม
พลาสติก เข้ากับแม็กนีเซียมและอะลุมิเนียม จนทำให้สามารถลดน้ำหนักลงได้ถึง 45% เมื่อเทียบกับ
โครงสร้างเหล็กกล้าทั่วๆไป อีกทั้งบานกระจกของตัวรถยังใช้ชนิดเดียวกันกับในสมาร์ทโฟน ช่วยลดน้ำหนัก
ได้จากปกติ 50% ทั้งหมดนี้ ช่วยให้ตัวรถมีน้ำหนักรวมที่ประมาณ 1,490 กก.

ชาวบิมเมอร์ อดใจรออีกสักนิด เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ 2014 BMW i8 ก็จะพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
แล้ว ซึ่งเมื่อเผยโฉมออกมา Headlight Magazine จะรีบอัพเดทข้อมูลให้ทราบกันโดยเร็ว