All NEW Lexus LS : 5th Generation เปิดตัวครั้งแรกในโลก เมื่อ 10 มกราคม 2017 ออกแบบภายใต้แนวคิด ” Omotenashi ” หรือ ความอบอุ่นแบบญี่ปุ่น ทีี่จะให้ความความสะดวกสบาย และ ให้รู้สึกผ่อนคลายปลอดภัยกับคนขับ และ คนนั่งโดยสาร ภายในห้องโดยสารยังคงใช้แนวคิด Takumi Craftsmanship ซึ่งเน้น เรื่องความสมบูรณ์แบบดังที่ Lexus LS รักษาเอาไว้ตลอดมา โดยในคราวนี้นำไม้ธรรมชาติที่ตัดแต่งด้วย Laser Cut มาประดับ เพื่อให้มีความแม่นยำในการตัดแต่งสูงสุด พร้อมกับใช้โทนสีเข้ม-อ่อน ต่างกันให้ห้องโดยสารหรูหราขึ้น
ตัวรถใช้พื้นฐานโครงสร้างใหม่ รถขับหลัง Premium Rear-Wheel drive ที่ Lexus เรียกว่า all-new Lexus global architecture for Luxury vehicles (GA-L) โครงสร้างตัวถังทำจากเหล็ก ultra-high tensile และ อลูมิเนียม ทำให้ลดน้ำหนักลงจาก LS รุ่นเดิมได้มากถึง 90 กิโลกรัม เป็นรถซีดานของ Lexus รุ่นแรกที่เป็น 6-Windows design (หรือที่เรามักเรียกกันว่า มีกระจกโอเปร่าที่เสา C-Pillar)
หลังจากที่เปิดตัว Lexus LS โฉมใหม่ไปได้ระยะเวลาหนึ่งกับรหัส LS500 ในงาน Geneva Motor Show จากนั้นในเดือน มีนาคม Lexus ก็ได้เปิดตัวรหัส LS500h ตามมา โดยใช้ขุมพลังเบนซิน Hybrid จากนั้นในเดือน มิถุนายน ก็มีการเปิดตัวรหัส LS350 ที่ประเทศจีน
ล่าสุด Lexus ประเทศไทย ก็มีแผนเตรียมที่จะเปิดตัว All NEW LS อย่างเป็นทางการในไทย ภายในเดือน พฤศจิกายน นี้ คงต้องมารอดูกันว่า เวอร์ชั่นไทย จะได้ขุมพลังไหนมาประจำการกับ Flagship Sedan ของค่าย
Dimension มิติตัวถัง
- ยาว x กว้าง x สูง : 5,235 x 1,900 x 1,450 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 3,125 มิลลิเมตร
เทียบกับรุ่นเดิม Long-Wheelbased (5,150 x 1,875 x 1,475) ระยะฐานล้อ 3,090 มิลลิเมตร จะพบว่ารุ่นใหม่ ยาวขึ้น 85 มิลลิเมตร, กว้างขึ้น 25 มิลลิเมตร เตี้ยลง 25 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาวขึ้น 35 มิลลิเมตร
Engine เครื่องยนต์
ในตลาดโลก อย่างที่กล่าวไปข้างต้น All NEW Lexus LS จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 ขุมพลัง ดังนี้
LS350
เครื่องยนต์เบนซิน Direct Injection รหัส 2GR-FE V6 3.5 ลิตร 3,456 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 315 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 4,800 – 4,900 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
LS500
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส V35A-FTS V6 3.5 ลิตร 3,444 ซีซี. เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ Direct Shift
LS500h
Lexus Multi Stage Hybrid System เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 8GR-FXS V6 3.5 ลิตร 3,456 ซีซี. กำลังสูงสุด 299 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 356 นิวตันเมตร ที่ 5,100 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า 300 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion ที่น้ำหนักเบากว่ารุ่นเดิม 20%
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้กำลังสูงสุด 359 แรงม้า (PS) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT ล็อคพูเล่ย์ 10 จังหวะ
สีตัวถังภายนอก ของ All NEW LS เวอร์ชั่นญี่ปุ่นมีให้เลือก 13 สี
- สีขาว Sonic Quartz
- สีขาวมุก White Nova Glass Flake
- สีเงิน Sonic Silver
- สีเทาอ่อน Sonic Titanium
- สีเทา Manganese Luster
- สีดำ Black
- สีเทาดำ Graphite Black Glass Flake
- สีแดง Red Mica Crystal Shine
- สีทอง Sleek Ecological Metallic
- สีอำพัน Amber Crystal Shine
- สีแดงม่วง Sonic Agate
- สีน้ำเงิน Heat Blue Contrast Layer Ring
- สีน้ำเงินเข้ม Deep Blue Mica
สีภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 11 รูปแบบ
- สีน้ำตาล Brown
- สีน้ำตาลเข้ม Noble Brown
- สีน้ำตาล Topaz Brown
- สีอิฐ Camel
- สีงาช้าง Ivory
- สีเบจ Chateau
- สีดำ Black
- สีดำ – แดง Crimson & Black
- สีดำ – เทา Black & White Gray
- สีขาว White
- สีแดง Flare Red
หากอ้างอิงจากราคาของ LS460 รุ่นปัจจุบันที่ขายอยู่ในไทย เริ่มต้นที่ 9,950,000 บาท คาดว่าเราคงจะได้เห็นราคาของ All NEW LS ระดับใกล้ๆ 10 ล้านบาทเหมือนเช่นเคย เพราะ ความจุเครื่องยนต์ของ LS ที่มีทั้งหมด เกิน 3,000 ซีซี. ทุกรหัส ทำให้เสียอัตราภาษีที่อยู่ในเกณฑ์สูงที่สุด เริ่มต้นที่ 40 – 50 % เช่นเดียวกันกับ Mercedes-Maybach S500 และ BMW M760Li ยกเว้นว่าจะมีเซอร์ไพรส์จาก Lexus ประเทศไทย
รายละเอียด – สเป็ค รวมถึงราคาอย่างเป็นทางการ ของ All NEW LS เวอร์ชั่นไทย ติดตามกันได้ ภายในเดือน พฤศจิกายนนี้
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/61732.0