เป็นข่าวใหญ่ข่าวโตไปทั่วโลกเลยทีเดียว เมื่อเมือง Detroit ในรัฐ Michigan ของประเทศสหรัฐอเมริกา
อันเปรียบเสมือนบ้านเกิดของอุตสาหกรรมรถยนต์ในแดนมะกัน ต้องเข้าฟ้องล้มละลายสู่ ‘Chapter 9’
หลังเกิดวิกฤตการเงินในเมืองนี้อย่างหนัก จนมีหนี้สะสมกว่า 18 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และแทบไม่เหลือเงินสด
ให้เมืองเดินหน้าต่อไป กลายเป็นการเข้าสู่ภาวะล้มละลายที่ยิ่งใหญ่และอื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

Rick Snyder ผู้ว่าการรัฐ Michigan ได้แถลงถึงกรณีนี้ว่า การเข้าสู่ภาวะล้มละลายของเมือง Detroit
เปรียบเสมือนการเดินทางก้าวสุดท้ายที่จะช่วยกอบกู้ให้เมืองนี้กลับมามีฐานะทางการเงินที่ดี และเป็นเมืองที่น่าอยู่
เหมือนเดิม หลังจากดีทรอยท์มีพลเมืองลดลง 7% จากปี 2010 เหลือเพียง 707,000 คน สถานการณ์ในตอนนี้
ส่งผลให้ชาวดีทรอยท์มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเพียง 28,000 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับพื้นที่
อื่นๆในสหรัฐอเมริกาที่มีรายได้เฉลี่ย 49,000 เหรียญสหรัฐฯ/ครัวเรือน จนในปัจจุบันชาวเมือง Detroit ต้องตก
อยู่ในสภาวะยากจนเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนถึง 36% ของพลเมืองทั้งหมดเลยทีเดียว

alt

ด้วยวิกฤตด้านเศรษฐกิจและการเงินภายในเมืองดีทรอยท์ ทำให้มีการตัดสินใจพาเมืองดีทรอยท์ ฟ้องล้มละลายเข้าสู่
Chapter 9 อันเป็นรหัสสำหรับการสั่งฟ้องของเทศบาล ซึ่งแตกต่างจาก Chapter 11 ที่มีไว้สำหรับการสั่งฟ้องล้มละลาย
ของบริษัท นำมาซึ่งความหวาดกลัวของพลเมือง Detroit ว่าจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่กว่าปัจจุบัน ด้วยสวัสดิการ
ที่อาจขาดหายไป และสภาวะทางการเงินที่ไม่แน่นอนของตัวเมือง

สาเหตุของสภาวะการเงินอันฝืดเคืองในเมืองดีทรอยท์ มีการกล่าวว่ามาจากกองทุนหลักของเมือง ที่ใช้จ่ายสวัสดิการพื้นฐาน
เช่น ตำรวจ และนักดับเพลิง รวมถึงสวัสดิการเกษียณแก่พลเมืองกว่า 18,500 ราย ซึ่งมีการกล่าวว่าต้องจ่ายมากถึง
163 ล้านเหรียญสหรัฐฯ/ปีงบประมาณ เลยทีเดียว ซึ่งในปีที่แล้วดีทรอยท์เคยกู้เงินจำนวน 92.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯมาแล้ว
และในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็ยังมีการค้างจ่ายเงินอีกมากมาย

ด้าน Steven Rattner นักการเงินที่มีความคุ้นเคยในวงการรถยนต์ กล่าวว่ากรณีการเข้าสภาวะล้มละลายของ
เมืองดีทรอยท์ มีความคล้ายคลึงกับเมื่อ General Motors และ Chrysler ต้องเข้าสู่ Chapter 11 เมื่อปี 2009
อย่างไรก็ตามเขาได้แสดงความเห็นว่า ถึงแม้ Chrysler และ GM จะสามารถลุกขึ้นยืนอีกครั้งอย่างสวยงาม
หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ แต่สำหรับกรณีของเมืองดีทรอยท์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เพราะนี่คือเมือง
ที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริง หมายถึงความยุ่งเหยิงและความซับซ้อนในการแก้ปมปัญหาที่มากกว่า เพราะไม่ใช่เพียง
บริษัทที่มีเฉพาะคนทำงานในองค์กร

สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในเมืองนี้ General Motors บริษัทซึ่งมีเมืองดีทรอยท์เป็นบ้านเกิดของตน ได้กล่าว
ให้กำลังใจและหวังว่าเมืองดีทรอยท์จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ซึ่ง GM เองในปัจจุบันมีพลเมืองดีทรอยท์กว่า 4,000 ชีวิต
ทำงานอยู่ในองค์กร ทั้งที่สำนักงานใหญ่ในเขต Renaissance Center และโรงงานผลิตรถยนต์ของตนในเขต Detroit-Hamtramck

ด้าน Chrysler อีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์อเมริกาที่มีเมืองดีทรอยท์เป็นบ้านเกิด มีพลเมืองดีทรอยท์ทำงานในบริษัท
ของตนกว่า 5,800 คนเช่นกัน ซึ่งเป็นการทำงานในโรงงานผลิตรถยนต์ Jefferson North เป็นส่วนใหญ่ อันเป็น
โรงงานผลิต Jeep Grand Cherokee และ Dodge Durango และมีอีกส่วนหนึ่งทำงานในสำนักงานใหญ่ Chrysler House
ซึ่ง Chrysler แสดงความเห็นต่อกรณีเข้าสู่ภาวะล้มละลายในครั้งนี้อย่างชัดเจนว่า จะช่วยเป็นอีกหนึ่งแรงหลักที่จะ
ฟื้นเมืองดีทรอยท์ขึ้นมาอีกครั้ง

ส่วน Ford แม้จะไม่ได้มีบ้านเกิดเป็นดีทรอยท์โดยตรง แต่ก็อยู่ในรัฐ Michigan เหมือนกัน ได้แสดงความเห็นว่า
ทางบริษัทหวังว่าการเข้าสู่สภาวะล้มละลายในครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีอีกครั้งให้กับเมืองดีทรอยท์

อย่างไรก็ตาม ด้านผู้จัดงาน North American International Auto Show งานแสดงรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดใน
สหรัฐอเมริกา ที่จัดขึ้นในเมืองดีทรอยท์ จนรู้จักกันในอีกชื่อว่า Detroit Auto Show ได้กล่าวว่า การเข้าสู่ Chapter 9
ของเมืองดีทรอยท์ดังกล่าว ไม่ส่งผลอะไรกับการจัดงานทั้งสิ้นและงานแสดงรถยนต์ NAIAS ที่จะจัดขึ้นอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า
จะยังถูกจัดขึ้นตามกำหนดเดิม ณ หอประชุม Cobo Hall ที่กำลังทุ่มทุนกว่า 299 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการตกแต่งสถานที่ใหม่
และจะทำการเพิ่มความเข้มงวดของระบบความปลอดภัยเป็นพิเศษในปีนี้ หลังเกิดโศกนาฏกรรมวางระเบิดใน
งานแข่งวิ่งมาราธอนในเมือง Boston เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ที่มา : Automotive News
ที่มาภาพ : Wheels