ในขณะที่แบรนด์รถยนต์ในยุโรปอย่าง Volkswagen Group อาจจะต้องซบเซาจากพิษเศรษฐกิจในยุโรป แต่สำหรับ
General Motors ยักษ์ใหญ่จากแดนมะกันแล้ว ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาถือว่าทำผลงานได้ดีทีเดียว ด้วยการเดินหน้า
เพิ่มยอดขายทั่วโลกมากขึ้น 4% เป็นผลจากความต้องการรถยนต์ในเครือ GM ของตลาดสหรัฐอเมริกาและจีน

alt

โดยช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา GM สามารถจำหน่ายรถยนต์นั่งและรถกระบะได้รวมกันมากกว่า
4.85 ล้านคัน ซึ่งในตลาดสหรัฐอเมริกาและจีนถือว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 7% ผลของการเติบโตนี้
ทำให้ยอดขายรถยนต์ของ GM ยังคงนำหน้า Volkswagen Group ที่ต้องการขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้านยอดขาย
ภายในปี 2018 อย่างไรก็ตาม ด้านยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่าง Toyota ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขยอดขาย 6 เดือนแรก
ของปีนี้ออกมา

ในปีที่แล้ว Toyota ถือว่าเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ขายรถยนต์ได้มากที่สุดในโลก ด้วยตัวเลข 9.75 ล้านคัน ในขณะที่
GM อยู่ในอันดับ 2 (9.28 ล้านคัน) ตามมาด้วย Volkswagen Group ที่ 9.07 ล้านคัน

alt

สำหรับยอดขายกว่า 4.85 ล้านคันของรถยนต์ในเครือ GM ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา Chevrolet เป็นรถยนต์ที่ได้รับ
ความนิยมมากที่สุด ด้วยการขายได้ 2,479,124 คัน มีภาพรวมโตขึ้น 1.4% โดยเฉพาะใน 2 ตลาดใหญ่อย่าง
สหรัฐอเมริกาที่ขายได้มากกว่าเดิม 5.6% และประเทศจีนที่ขายได้มากขึ้น 6.1% เช่นกัน ในขณะที่ตลาดบราซิล
ก็เพิ่มขึ้นถึง 5.1% เช่นกัน

แบรนด์ที่ขายดีรองลงมาในเครือ GM ได้แก่ Buick ที่สามารถขายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 16% โดยยอดขายส่วนใหญ่
มาจากประเทศจีน ตามมาด้วย GMC ที่มีตลาดหลักอยู่ที่แดนมะกันและแคนาดา ก็เติบโตขึ้น 9.7% เช่นกัน ส่วน
Cadillac แม้จะขายได้เพียง 111,991 คัน แต่ก็ถือว่าขายได้เพิ่มขึ้นถึง 31% เลยทีเดียว

ที่มา : Automotive News