ปัญหาสำคัญของ GM ในยุโรปก็คือความล้มเหลวในการทำกำไรภายใต้แบรนด์ Opel และยังไม่ประสบความสำเร็จใน
การทำตลาดรถยนต์ Chevrolet เสียเท่าไรนัก เพราะตัวรถยังไม่มีจุดเด่นมากพอที่จะแข่งขันในตลาดได้ ในเบื้องต้น GM
จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการวางตำแหน่งแบรนด์ Opel ให้สูงกว่า Chevrolet และพยายามดันแบรนด์ Opel ไม่ให้ลง
มาแข่งขันด้านราคากัน
และตอนนี้ GM ก็ยังคงยืนยันว่าจะวางตำแหน่งแบรนด์ Opel ให้อยู่ในระดับบนกว่ารถยุโรปทั่ว ๆ ไปอยู่ เพื่อเป็นการเพิ่ม
ส่วนต่างผลกำไรให้สามารถหักลบกลบหนี้เก่าที่เคยทำขาดทุนมานานถึงสิบปีได้ระยะเวลาอันสั้น ก็แน่นอนว่าผลผลิตจาก
ภายใต้แนวคิดดังกล่าวก็ทำให้ Opel Adam มีราคาสูงโด่งกว่า A-Segment ทั่วไปและ Opel Mokka ก็มีราคาไม่ถูก แต่
ทั้งสองรุ่นถือเป็นรถที่ประสบความสำเร็จพอสมควร
และยิ่ง Opel ประสบความสำเร็จกับการอัพราคาได้มากเท่าไร ก็จะมีที่ยืนให้กับแบรนด์ Chevrolet ได้มากยิ่งขึ้น เพราะ
แบรนด์ Chevrolet ในยุโรปจะเน้นความคุ้มค่าของสินค้ามากกว่าการสร้างมูลค่านั่นเอง
อย่างไรก็ตาม Christian Mayes นักวิเคราะห์จากสำนักวิเคราะห์ Edward Jones ได้ลงความเห็นว่ากลยุทธ์แบบนี้ก็ยังมี
หนทางของความล้มเหลว เพราะไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ Opel จะพยายามอัพเกรดตนเองเข้าสู่ระดับบน หากย้อนกลับไปปี
2010 Nick Reilly อดีตผู้บริหาร Opel สมัยนั้นวางนโยบายแบรนด์ Opel ให้กลายเป็นผู้ผลิตชั้นนำแห่งสินค้าที่มีคุณภาพ
โดยงานวิศวกรรมเยอรมัน เพื่อมาต่อกรกับ Volkswagen
แน่นอนว่า Opel สามารถผลิตรถยนต์ให้มีคุณภาพเทียบชั้นกับ Volkswagen แต่สิ่งที่ยังเทียบไม่ได้ก็คือภาพลักษณ์
เพราะภาพลักษณ์ของ Opel จะชัดมากเมื่อเทียบกับ Chevrolet ด้วยกัน แต่ถ้าเทียบก็บคู่แข่งรายอื่น ๆ ก็ถือว่าไม่ชัดเจน
ในภาพลักษณ์แต่อย่างใด
Karl-Friedrich Stracke ผู้บริหารคนปัจจุบันได้ลงความเห็นว่า ผู้บริหารคนเก่าเร่งเปลี่ยนตำแหน่งแบรนด์ Opel เร็วเกิน
จนลูกค้าจะรับไหว และทิศทางของ Opel – Chevrolet ก็จะคล้าย ๆ กับการวางตำแหน่งของ Volkswagen – Skoda
นั่นเอง