เมื่อไม่นานมานี้ Frank Van Meel หัวหน้าฝ่าย M Division ซึ่งเป็นแผนกออกแบบ และ พัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงของ BMW ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อออสเตรเลียว่า จะไม่มีรถ M ที่ใช้เครื่องยนต์ Downsizing เหลือ 4 สูบ เทอร์โบ เด็ดขาด จนกว่าพวกเขาจะสามารถหาทางที่จะพิชิตข้อเสียของเครื่องยนต์เหล่านี้ ในด้านประสิทธิภาพได้เสียก่อน
“พวกเราพึงพอใจในเครื่อง 6 สูบ สำหรับ BMW และ BMW M เพราะว่ามันเป็นเครื่องยนต์ที่ถูกใช้เป็นประเพณีตกทอดมานาน รถรุ่น M1 ซึ่งเป็นรถที่เริ่ม BMW M ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ ในด้านประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่มีมายาวนาน BMW เป็นบริษัทที่ใช้เครื่อง 6 สูบ และ สำหรับพวกเรามันถือว่าเป็นสิ่งที่โดดเด่น”
“ถ้าหากเราดูเครื่อง 4 สูบ ผมไม่เห็นคุณลักษณะของเครื่อง 4 สูบขนาดเล็กพ่วงด้วยเทอร์โบ ที่ผมอยากเห็นในรถ M เพราะฉะนั้นผมคงไม่ทำเครื่องยนต์ 4 สูบประสิทธิภาพสูง เพราะถ้าหากคุณอยากได้พละกำลังดี คุณจะเสียแรงบิดในรอบต่ำไป และ การขับขี่ที่ดีของรถ ก็จะสูญเสียไปด้วย”
ทั้ง 2 ส่วนนี้ อาจจะทำให้แฟนคลับ BMW เกิดความฉงนเป็นอย่างมาก เพราะว่า BMW ที่ได้รับชื่อเสียงถึงความเป็นรถยนต์ที่ขับขี่สนุก จนสร้างชื่อ และ มีสโลแกนที่ว่า ” Ultimate Driving Machine “ อย่าง BMW Neue Klasse (ซึ่งเป็นซีรี่ย์ที่เราจะรู้จักกันดีในชื่อ 2002) ไม่ได้มีเครื่อง 6 สูบให้เลือกเลยใน Line-up และ กว่าที่ BMW จะเปิดตัวเครื่องยนต์ 6 สูบ ” M30 ” ในตำนาน ที่ทำให้ใครๆก็หลงรักในเครื่องยนต์ 6 สูบของ BMW ก็ต้องรอไปจนกระทั่ง BMW New Six (E3) ที่เปิดตัวในปี 1968
ว่ากันตามตรงแล้ว ก็มีน้อยคนนักที่จะจำรถต้นตระกูลของ 7-Series รุ่นนั้นได้ และ BMW M3 รุ่นแรก ซึ่งเป็นที่รัก และ ชื่นชอบของแฟนคลับ BMW ทุกคน ก็ใช้เครื่องยนต์ S14 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบขนาดเล็ก ขนาดตั้งแต่ 2.3 ลิตร ถึง 2.5 ลิตร โดยที่เป้าหมายในการออกแบบ ไม่ได้มีเรื่องแรงบิดในรอบต่ำที่ทำให้การขับขี่นั้นทำได้ง่ายเข้ามาเกี่ยวข้องเลย
BMW M3 รุ่นแรก ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาดเล็ก รอบจัด เพราะมันเป็นเครื่องที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการแข่งขัน Motorsport
นี่อาจจะแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่เปลี่ยนไปของรถ BMW M แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติในวงการรถยนต์ ทิศทางในการพัฒนาแบรนด์ของรถมันเปลี่ยนไปได้เสมอ ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติอะไร เพราะ BMW M ก็ไม่ได้มีรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ ซึ่งถูกออกแบบขึ้นพิเศษสำหรับรถยนต์ตระกูล Motorsport มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และ ในพักหลัง รถ BMW M หลายรุ่น ก็ถูกโฟกัสไปที่การขับขี่อย่างรวดเร็ว และ สะดวกสบาย มากกว่าการที่จะไปเป็นรถใช้เครื่องยนต์รอบจัด เข้าโค้งแม่นยำ เหมือนกับหลุดออกจากสนามแข่งก็ไม่ผิด
นอกเหนือไปจากนั้น Frank Van Meel ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ของการลดทอนข้อเสียของเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาดเล็ก เทอร์โบ ด้วยระบบ Hybrid ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้าจะช่วยเสริมแรงบิดในรอบต่ำได้เป็นอย่างดี แต่ปัญหาที่ตามมาในเรื่องของน้ำหนักของแบตเตอร์รี่
ทำให้ในปัจจุบันนี้ การติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบในรถยนต์ BMW M นั้น ดูจะได้ไม่คุ้มเสีย แต่ในอนาคตนั้น BMW ได้เคยออกมายืนยันแล้วว่า จะมีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าในรถตระกูล M แต่ยังคงต้องรอการพัฒนาต่อไปอีกสักพัก
“ในยุคปัจจุบัน เครื่องยนต์แบบ “ประหยัด” นั้น ยังไม่มีประสิทธิภาพพอสำหรับรถ M และ ถ้าเกิดจะทำให้เป็นรถ Plug-in Hybrid ก็จะต้องเพิ่มน้ำหนักถึง 200 – 300 กิโลกรัม สำหรับรถอย่าง M3 / M4 ที่หนักประมาณ 1,500 กิโลกรัม จะทำให้รถสูญเสียสมดุลไป และ เราไม่สามารถจะทำให้มันเข้ากับปรัชญาของ M ได้”
“เพราะฉะนั้น สำหรับเทคโนโลยีปัจจุบัน เราไม่เห็นว่ามันจะใช้ได้ แต่ผมไม่สามารถบอกได้ว่าอนาคตของรถ BMW จะกลายเป็นเช่นไร” Frank Van Meel กล่าวปิดท้าย
ที่มา : caradvice, motorauthority