สำหรับผู้ที่ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์มาบ้าง ก็คงจะทราบถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ในการพัฒนารถยนต์ขึ้นมาสักคันหนึ่ง ต้องใช้งบประมาณลงทุนที่สูงมาก ทั้งการพัฒนา การทดสอบ การขึ้นแบบ Tooling เพื่อใช้ในการผลิต แต่ขั้นตอนที่ใช้จำนวนเงินมากที่สุดก็คงจะเป็นการก่อสร้างตัวโรงงานผลิตรถยนต์นั่นเอง

สำหรับบริษัทรถยนต์ที่สายป่านยาวก็อาจจะไม่ค่อยมีความเสี่ยงมาก แต่สำหรับบริษัทรถยนต์ขนาดเล็ก หรือบริษัทที่เพิ่งจะก่อตั้ง การที่จะสร้างโรงงานรถยนต์ขึ้นมาสักแห่งนั้น เป็นความเสี่ยงอันใหญ่หลวง อันเนื่องมาจากจำนวนเม็ดเงินที่มหาศาลนั้นเอง

Faraday Future เป็นหนึ่งในบริษัท ที่พยายามจะพัฒนารถยนต์ขึ้นมาใหม่ เมื่อต้นปีนี้ พวกเขาได้เปิดตัวรถต้นแบบ SUV รุ่น FF91 ออกมาให้ได้รับชมกัน รถรุ่นนี้ถูกวางตลาดไว้เป็นคู่แข่งรถไฟฟ้าอย่าง Tesla ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พละกำลังถึง 1,065 แรงม้า ชาร์จไฟ 1 ครั้งวิ่งได้ 622 กิโลเมตร ตัวรถอัดแน่นมาด้วยเทคโนโลยีต่างๆ และจะมาพร้อมกับระบบขับขี่อัตโนมัติ ทำงานด้วยระบบเรดาร์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว 13 ตัว, กล้องความละเอียดสูง 10 ตัว, เซนเซอร์ Ultrasonic 12 ตัว และ 3D Lidar อีก 1 ตัวที่สามารถซ่อนเก็บในฝากระโปรงได้ Faraday Future มีแผนที่จะผลิตรถรุ่นนี้ในโรงงานที่ตั้งขึ้นใหม่ในรัฐ Nevada สหรัฐอเมริกา

แต่แล้ว เป้าหมายก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน Faraday Future ตั้งงบในการสร้างโรงงานไว้ที่ 1,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3 หมื่น 3 พันล้านบาท) ถ้าสร้างเสร็จ มันจะเป็นโรงงานที่มีขนาดใหญ่ มีกำลังผลิตที่สูง แต่สัญญาณที่ไม่ดีก็ปรากฎขึ้น เพราะอุปสงค์ของรถอาจจะมีไม่มากเท่ากำลังการผลิต จึงได้มีการประกาศว่าจะลดขนาดของโรงงาน ลดแผนกำลังการผลิตที่วางเอาไว้ จนเมื่อไม่กี่เดือนก่อนก็มีข่าวออกมาว่า Faraday Future หยุดการพัฒนาแผนก่อสร้างโรงงานขนาดยักษ์นี้

ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา Faraday Future ก็ได้ส่งจดหมายไปยังสำนักงานเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ (Governor’s Office of Economic Development – GOED) ของรัฐ Nevada และ ได้ประกาศหยุดแผนการสร้างโรงงานอย่างเป็นทางการ ซึ่งนั่นหมายความว่า Faraday Future จะต้องคืนเงินที่ได้จาก Tax break ให้กับรัฐ Nevada เป็นจำนวน 620,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (20 ล้านบาท)

แต่นั่น ไม่ได้หมายความว่านี่คือจุดจบของ Faraday Future ทางบริษัทยังยืนยันว่าการพัฒนายังมีอยู่ และ ได้มีการเช่าโรงงานที่มีขนาดเล็กกว่าในรัฐ California เพื่อเตรียมพร้อมในการผลิต FF91 เวอร์ชั่นจำหน่ายจริงในปีหน้า

ก็คงน่าเสียดายถ้าเกิด Faraday Future FF91 ไม่ได้ถูกพัฒนาต่อจนสามารถวางจำหน่ายได้ แต่นี่ก็เป็นสิ่งยืนยันว่า การจะอยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ง่ายเลยทีเดียว การพัฒนารถสักรุ่น หรือวางแผนก่อสร้างโรงงานนั้น ต้องใช้การคาดเดาสถานการณ์ไปนานหลายปี ถ้าเดินพลาด และไม่มีเงินทุนที่หนาพอ ก็มีโอกาสที่จะล้มได้อย่างง่ายๆ แม้แต่บริษัทรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่มาก เงินทุนหนา ก็ยังล้มไม่เป็นท่ามานักต่อนักแล้ว

ที่มา : motortrend