ปัจจุบัน Tata Motor ขาย Tata Nano มานมนานถึง 4 ปีแล้ว ก็ถือว่ามันมีอายุตลาดที่ค่อนข้างนานเมื่อเทียบกับรถยุค
สมัยนี้ด้วยกัน ดังนั้น Tata Motor จึงจำเป็นจะต้องปรับปรุงความสดใหม่ให้แก่ Tata Nano มากยิ่งขึ้น แต่การปรับปรุง
ในครั้งนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงชนิดที่พลิกความคาดหมายอะไรเลย เพราะมันจะเป็นการปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น
นั่นเอง

alt

Tata Nano รุ่นปี 2013 จะมีการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกบางจุดด้วยการประดับแถบโครเมียมบริเวณปลายฝา
กระโปรงหน้าและเปลี่ยนกันชนหลังให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น พิเศษสุดลูกค้าสามารถเลือกชุดคิทอุปกรณ์ตกแต่งภายนอกมากถึง
4 แบบ ได้แก่ “Jet” “Remix” “Alpha” และ “Peach”

ภายในห้องโดยสารก็จะคงงานดีไซน์แผงคอนโซลไว้เช่นเดิมแต่เปลี่ยนรายละเอียดการตกแต่งใหม่ที่ทำให้รู้สึกว่ารถดูมี
มูลค่ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนปิดหุ้มเสารถ, ติดตั้งกล่องเก็บของบริเวณด้านบนคอนโซลทั้งฝั่งผู้โดยสารและผู้ขับขี่,
เปลี่ยนพวงมาลัยใหม่ ในรุ่น LX ก็จะตกแต่งภายในด้วยสีเบจพร้อมเบาะผ้า ส่วนภายในสีดำแบบสปอร์ตจะสำหรับรุ่น
Nano CX และ Dazzle Blue Nano LX และที่น่าแปลกใจอยู่อย่างหนึ่งคือ Tata เคลมว่า Nano รุ่นปี 2013 จะมีระบบ
ปรับอากาศที่ดีที่สุดในกลุ่มตลาดเดียวกัน คือสามารถกระจายความเย็นได้ทั่วถึงแม้วันร้อนจัด

และเพื่อยกระดับให้ Tata Nano สามารถต่อกรกับรถ A-Segment ในท้องตลาดได้ รถคันนี้จะติดตั้งระบบการฟังเพลง
AmphiStream ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน/เครื่องเล่นเพลงผ่าน Bluetooth กระจายเสียงผ่านลำโพง 4 ตัว พร้อม
ทั้งติดตั้งกุญแจรีโมต Keyless Entry ในรุ่น LX

เครื่องยนต์ยังคงใช้เครื่อง 624 ซีซี 38 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 51 นิวตันเมตร มีอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานสถาบันวิจัย
ยานยนต์อินเดียที่ 25.4 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียงแค่ 93.5 กรัมต่อกิโลเมตร

การเปิดตัว Tata Nano รุ่นปี 2013 ถือเป็นการแก้เกมที่ผิดพลาดทั้งหมดและเป็นการปรับตำแหน่งการตลาดใหม่เพื่อ
รองรับ Tata Nano เจเนเรชั่นใหม่ที่จะมาในคราบ A-Segment ราคาเหมาะสมแทนที่จะเป็นรถราคาถูกที่สุดในโลก

ที่มา : http://www.worldcarfans.com/113061959030/2014-tata-nano-unveiled-features-a-new-cng-engine