ไม่น่าเชื่อว่า Opel/Vauxhall Insignia จะถูกเปิดตัวมาถึง 5 ปีเต็มแล้ว เพราะจากยอดจำหน่ายและความนิยม
จากคนยุโรปที่ยังคงสูงอยู่ ชี้ให้เห็นว่าตัวรถนั้นสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภค จนสามารถทำตลาดได้ 5 ปีเต็ม
แบบสบายๆ โดยที่ไม่ผ่านการปรับโฉมอย่างจริงจังเลยสักครั้งเดียว
แต่หากจะปล่อยให้ตัวรถทำตลาดโดยที่ไม่อัพเดทให้ตามทันคู่แข่งที่เริ่มเปิดตัวใหม่หรือกำลังเตรียมจะเปลี่ยนโฉม
ก็อาจจะทำให้ Insignia อาจเสียความนิยมไปไม่น้อย Opel จึงจัดการเผยโฉม Insignia รุ่นปรับโฉมในวันนี้ เพื่อ
เตรียมโชว์ตัวจริง ณ งานแสดงรถยนต์ Geneva Motor Show ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายน
รูปลักษณ์ภายนอก ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ให้มีความสะอาดตา หรูหรามากขึ้น โดยเฉพาะในรูปลักษณ์ด้านหน้า
ที่ถูกเปลี่ยนชุดกันชนหน้าใหม่ พร้อมกระจังหน้าเข้าธีมงานออกแบบของ Opel ยุคใหม่มากขึ้น รวมถึงโคมไฟหน้า
ที่มีการออกแบบและใช้เทคโนโลยีไฟ LED ได้อย่างลงตัว พร้อมกับขยายช่องดักลมด้านล่างที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ส่วนด้านท้าย ออกแบบฝากระโปรงท้ายพร้อมโคมไฟท้ายใหม่ เชื่อมต่อแถบโครเมี่ยมเข้ากับตำแหน่งไฟถอยหลัง
ได้อย่างลงตัว พร้อมกับชุดกันชนหลังที่ถูกออกแบบให้มีความหรูหรา ลงตัวมากยิ่งขึ้น
ส่วนภายในห้องโดยสาร ถูกปรับโฉมด้วยการออกแบบใหม่ ให้ลดความยุ่งเหยิงของปุ่มกดลง รวมถึงออกแบบ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันใหม่ พร้อมกับการใช้วัสดุในการประกอบให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีออพชันระบบ
อินโฟเทนเมนต์พร้อมระบบหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และระบบป้อนข้อมูลด้วยลายมือให้ติดตั้งกันอีกด้วย
ทัพเครื่องยนต์ที่นำมาใช้กับ 2013 Opel Insignia เป็นการยกชุดมาจากรุ่นปัจจุบันเสียส่วนใหญ่ ซึ่งได้แก่
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง พร้อมเทอร์โบ CDTI ขนาด 2.0 ลิตร 120 แรงม้า และ 140 แรงม้า ที่สามารถ
สร้างความประหยัดน้ำมันได้มากถึง 27 กม./ลิตร รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง เทอร์โบคู่ CDTI ขนาด 2.0 ลิตร
ที่สร้างแรงม้าได้ 195 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร
ส่วนฟากเครื่องยนต์เบนซินก็ยกชุดจาก Insignia ด้วยเช่นกัน ได้แก่เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็ก 4 สูบเรียง 1.6 ลิตร
พร้อมเทอร์โบ SIDI สร้างกำลังได้ 170 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร และพิเศษด้วยการนำเสนอ
เครื่องยนต์ใหม่เอี่ยมสำหรับ Insignia รุ่นปรับโฉม ได้แก่เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ SIDI
ที่แรงถึง 250 แรงม้า ซึ่งสามารถเลือกจับคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อได้อีกด้วย นอกจากนี้ Opel ยังมีทางเลือกเครื่องยนต์
พลังงานก๊าซธรรมชาติอีกด้วย ด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.4 ลิตร 140 แรงม้า ที่ปล่อยก๊าซ CO2 ออกมาต่ำเพียง 124 กรัม/กม.
โดยขุมพลังทั้งหมดจะเชื่อมต่อสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าหรือสี่ล้อ ผ่านเกียร์ธรรมดาหรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ
2013 Opel/Vauxhall Insignia จะถูกเปิดผ้าคลุมต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการในงาน Geneva Motor Show
ปีนี้ ที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายน ก่อนจะเริ่มส่งมอบให้แก่ลูกค้าในยุโรปในเดือนธันวาคมนี้