Toyota Hilux JDM Spec
ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นคือถิ่นฐานกำเนิดรถกระบะตระกูล Toyota Hilux เป็นที่แรกในโลก แต่ในวันนี้กลับกลายเป็นว่าความนิยมของรถกระบะ Toyota Hilux ตลาดหลัก คือตลาดเมืองไทย, ออสเตรเลีย, แอฟริกาใต้, อเมริกาใต้ แทนที่ตลาดญี่ปุ่นไปเสียแล้ว เนื่องจากลูกค้าชาวญี่ปุ่น หันเหไปหารถเล็ก และ รถตู้อเนกประสงค์แทนในช่วงยุค ปลาย 90s จนถึงต้นยุค 2000
วันนี้ (12 กันยายน 2017) Toyota Motor ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัว All NEW Toyota Hilux อีกครั้ง ถือเป็นการหวนกลับมาทำตลาดรถกระบะ Toyota Hilux ในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่ยกเลิกสายการผลิตและการทำตลาดในญี่ปุ่นเมื่อปี 2005
Dimension มิติตัวถัง ของ Hilux JDM Spec
- ยาว x กว้าง x สูง : 5,335 x 1,855 x 1,800 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase : 3,085 มิลลิเมตร
Exterior ภายนอก
สิ่งที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นไทยคือ เวอร์ชั่นญี่ปุ่นจะมีการติด คิ้วโครเมียมบริเวณกรอบไฟตัดหมอก, กระจกมองมุมบริเวณด้านหน้าฝั่งซ้าย, ฝาปิดบริเวณที่ฉีดน้ำล้างไฟหน้า, โลโก้ที่กระจังหน้าจะมีพลาสติกครอบ, ไฟถอยหลังจะมีข้างเดียว (เหมือนเวอร์ชั่นไทย ก่อนปรับอุปกรณ์) และ กันชนท้ายโครเมียมที่ดีไซน์ต่างกันเล็กน้อย รวมถึงติดตั้งยางบังโคลนล้อหน้า และ เพิ่มความยาวยางบังโคลนล้อหลัง
- ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/65 R17
- ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED พร้อมระบบปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ
- ระบบฉีดน้ำล้างโคมไฟหน้า
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (เหมือนใน Fortuner MY2017)
- ไฟตัดหมอกหลัง
ภายในห้องโดยสาร Interior
ภายในของเวอร์ชั่นญี่ปุ่น จะแตกต่างจากของไทย ตรงที่เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าจะใช้โทนสีดำ ส่วนของไทยจะใช้สีน้ำตาล นอกนั้นแทบจะไม่ต่างกันเลย
- ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ
- ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน, โครเมียม และ สีดำ Piano Black
- เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าสีดำ
- เบาะนั่งด้านหลัง ส่วนรองนั่งแยกพับ 60 : 40
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้าแบบ One Touch ทั้ง 4 บาน
- ช่องเก็บของแบบรักษาความเย็น Cool Box
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง พร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง
- มาตรวัดเรืองแสดง Optitron
- จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- หน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมจอแสดงผลดิจิตอล
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- กุญแจ Smart Keyless Entry
Engine เครื่องยนต์ : มีให้เลือกเพียงเครื่องยนต์เดียว
เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 2GD-FTV ขนาด 2.4 ลิตร 2,393 ซีซี. VN-Turbo กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 92.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.6 : 1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Manaul Mode และ ปุ่ม Eco Mode / Power Mode อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 11.8 km/l (มาตรฐาน JC08)
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ – ระบบความปลอดภัย
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-time
- เฟืองท้าย Rear differential lock
- ระบบเบรก ABS / EBD / BA
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
- ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
- ระบบป้องกันการลื่นไถลแบบแอคทีฟ A-TRC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
- ระบบช่วยลงทางลาดชัน DAC
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Pre-Crash Safety with pedestrian detection
- ระบบเบรกอัตโนมัติ Automatic Brake
- ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง Drive Start Control
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร Lane Departure Alert
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด พร้อมเส้นกะระยะ
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-หัวเข่า)
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 5 สี
- สีขาว Super White
- สีเงิน Silver Metallic
- สีดำ Attitude Black Mica
- สีน้ำเงิน Nebula Blue Metallic
- สีแดง Crimson Spark Red Metallic
มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น (มีเฉพาะตัวถัง Double Cab 4 ประตู เท่านั้น) คือ
- 2.4 X A/T 4WD 3,267,000 เยน (หรือประมาณ 985,000 บาท)
- 2.4 Z A/T 4WD 3,742,000 เยน (หรือประมาณ 1,129,000 บาท)
โดยนำเข้ารถจากฐานการผลิตโรงงาน Toyota ประเทศไทย ถือเป็นครั้งแรกของตระกูล Hilux ที่ต้องนำเข้ารถจากฐานการผลิตนอกประเทศญี่ปุ่น
ที่มา : Toyota