มาชมรถยนต์ Classic ที่ผ่านการยัดไส้ด้วยขุมพลังไฟฟ้าในชื่อ Jaguar E-Type Zero กันบ้าง ซึ่งผู้พัฒนาไม่ใช่นักดัดแปลงที่ไหน แต่กลับเป็นศูนย์ฟื้นฟูอย่างเป็นทางการ Jaguar Land Rover Classic นั่นเอง โดยขุมพลังดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ เพื่อรถยนต์ (ไฟฟ้า) คลาสสิกคันนี้โดยเฉพาะ
มาเริ่มต้นกับภายนอกของ Jaguar E-Type Zero กันก่อนซึ่งมีพื้นฐานมาจาก E-Type ตัวถัง Roadster โฉม 1.5 ที่ผ่านการฟื้นฟูให้งามดังเดิม พร้อมซ่อนลูกเล่นใหม่เล็กน้อยกับไฟ LED เพื่อให้เข้ากับแนวคิดรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความประหยัดพลังงาน สำหรับภายในมีการติดตั้งหน้าจอแสดงสถานะของแบตเตอรี่เพิ่ม พร้อมกับถอดด้ามเกียร์ทิ้ง
จุดที่น่าสนใจ Jaguar E-Type Zero คือระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 40 kWh ติดตั้งด้านหน้าตำแหน่งเดียวกับที่อยู่เดิมของเครื่องยนต์ ทั้งยังมีน้ำหนักและมิติเท่ากับเครื่องยนต์ XK 6 สูบ ติดรถยนต์ดั้งเดิม ส่วนตำแหน่งเกียร์ของเดิมถูกแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยติดตั้งอยู่หลังแบตเตอรี่เลย
Jaguar E-Type Zero ให้กำลังสูงสุด 299 แรงม้า (PS) ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.5 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วกว่า Jaguar E-Type รุ่นแรกเสียอีก และแม้ว่าจะเปลี่ยนขุมพลังชนิดข้ามสายพันธุ์ แต่น้ำหนักตัวกลับลดลง 46 กิโลกรัม ทั้งยังสามารถใช้เบรก และ ช่วงล่างชุดเดิมได้โดยมีการปรับเพียงเล็กน้อย ยิ่งกว่านั้น อัตราส่วนการกระจายหน้า : หลัง ยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเสียด้วย
ขุมพลังเดิมของ Jaguar E-Type เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ความจุ 3.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 269 แรงม้า (PS) ส่งกำลังลงล้อคู่หลัง ผ่านเกียร์ธรรมดา 4 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0 – 96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 241 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Jaguar E-Type Zero ยังผ่านการทดสอบภายใต้สภาวะการใช้งานจริงมาแล้วว่า สามารถเดินทางเป็นระยะทางสูงสุด 270 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สำหรับช่วงเวลาการชาร์จไฟจนเต็มนั้นอยู่ที่ 6 – 7 ชั่วโมง หรือ 1 คืน ซึ่งจะแปรผันไปตามที่มาของแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้า
แน่นอนว่า Jaguar Land Rover Classic ไม่ได้พัฒนา Jaguar E-Type Zero ขึ้นมาเพื่อจำหน่าย แต่มีการระบุไว้ว่าขุมพลังเดิมใน Jaguar E-Type ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตระกูล XK 6 สูบ ถูกติดตั้งในรถยนต์ปี 1949 – 1992 ดังนั้นขุมพลังไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถนำไปติดตั้งในรถยนต์รุ่นใดก็ได้ที่ใช้เครื่องยนต์ XK 6 สูบมาก่อน ทำให้น่าฉุกคิดว่าถ้าผู้ผลิตเกิดทำขายขึ้นมาจริงๆ จะถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการฟื้นฟูรถยนต์คลาสสิกอย่างแน่นอน แต่จะทำจริงหรือไม่นั้น อันนี้คงต้องรอติดตามกันไปก่อน
ที่มา: jaguar
ผู้ที่สนใจประวัติอย่างคร่าวๆ ของ Jaguar E-Type พร้อมข้อมูลของ Eagle Spyder GT ซึ่งเป็นผลงานการบูรณะ Jaguar E-Type พร้อมยัดไส้ใหม่โดย Eagle สามารถอ่านได้ ที่นี่