แม้ว่ารถไฟฟ้าคันแรกที่จะผลิตในเชิงพาณิชย์คันแรกของ Nissan จะเปิดเผยโฉมวันที่ 2 สิงหาคมนี้ประกาศศักดาความเป็นผู้นำตลาดรถไฟฟ้าของโลก แต่เพื่อให้ทุกคนเข้าใจเทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่พวกเขาอุตสาหะคิดค้นนานถึง 15 ปี บรรจุเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีสิทธิบัตรเยอะแยะไปหมด จึงต้องเปิดเผย EV (Electric Vehicle) Platform ผ่าให้เห็นงานวิศวกรรมพื้นฐานของแต่ละชิ้นส่วนให้สื่อมวลชนและประชาชนทั่ว โลกรับทราบ

อย่าแปลกใจรถต้นแบบ (prototype) ที่นำเสนอเทคนิครถ EV และแสดงการใช้งานในชีวิตประจำวัน คือ Tiida ที่นำมาครอบทับ EV Platform นั่นเอง กลัวว่าหลายคนจะเข้าใจผิดต้องอธิบายก่อนว่ารถ Tiida EV Prototype คันนี้จะเป็นรถสำหรับการเผยแพร่เทคโนโลยีนี้ทั่วโลกแทนคันจริง

แม้ รถ EV คันจริงจะเปิดเผยโฉมวันที่ 2 สิงหาคมนี้แต่เวลาจำหน่ายคือราวปี 2010 เฉพาะญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาในรูปแบบการขายยกเหมาเท่านั้น ปี 2012 คือเน้นการขายทั่วโลก จึงจำเป็นต้องมีรถคันนี้จัดแสดงความก้าวหน้าของตนเองและให้สื่อมวลชนทดสอบ ถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงก่อนวางจำหน่าย

ดังนั้นความสามารถต่าง ๆ รวมทั้งขนาดห้องโดยสารจะใกล้เคียงกับ EV คันที่เปิดตัวจริงครับ

ความ โดดเด่นของ EV Platform คือทนต่อการบิดตัวสูง,มอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง,แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน ขนาดเล็กกะทัดรัดแต่ให้ประจุไฟและกำลังที่สูง,คุณภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และความปลอดภัยสูงขณะที่เสียงการทำงานนั้นเงียบมาก ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของรถ EV แท้ ๆ

ประสิทธิภาพมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 80 กิโลวัตต์ หรือ 109 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 280 นิวตันเมตร ดูเหมือนแรงม้าจะน้อยแต่นี่คือรถไฟฟ้าไม่ต้องรอรอบ อัตราเร่งจึงดีสม่ำเสมอตั้งแต่ต้นจรดปลายที่สุดความเร็ว 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง

แพ๊คแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนยุคใหม่แบบผนึกลามิเนต ประจุไฟ 24 kWh ขนาดกะทัดรัดมาก ๆ ติดตั้งใต้พื้นตัวถังระบายอากาศได้จึงไม่เสียพื้นที่ห้องโดยสารและห้อง สัมภาระแต่อย่างใด สามารถใช้งานชีวิตประจำวันได้ยาวถึง 160 กิโลเมตรต่อวัน มากกว่ารถไฟฟ้าทั่ว ๆ ไปถึง 50-60 กิโลเมตร

หมดห่วงเรื่องไฟหมด สามารถชาร์จประจุผ่านสายไฟฟ้าตามบ้านเรือนและชาร์จไฟด่วนเต็มประจุเพียงแค่ 30 นาที รวมถึงการชาร์จนวตกรรมใหม่สำหรับรถไฟฟ้าคือผ่านแท่นชาร์จไร้สัมผัสคล้าย ๆ หลักการคล้ายแปรงสีฟันไฟฟ้า รวมทั้งระบบเพิ่มประจุไฟฟ้าทันทีที่ชะลอรถผ่านจานเบรคและเครื่องสร้างประจุ ขณะเบรค

เมื่อพื้นตัวถังต้องรับบทหนักขนาดนี้จึงต้องเสริมความแข็งแกร่งพอสมควรและต้องลดเสียงรบกวนต่าง ๆ ให้มากที่สุดด้วย

ระบบ EV-IT สองเทคโนโลยีเสริมกัน
Nissan ติดตั้งระบบการสื่อสารข้อมูลฝังในตัวรถ EV เพื่อติดต่อกับศูนย์ข้อมูล EV Server ที่เรียกว่า Global Data Center ที่ติดต่อผ่าน Telemetic ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือหรือผ่านอินเตอร์เน็ต ตลอด 24 ชั่วโมง อำนวยความสะดวกได้ดังนี้

*ขณะขับขี่ระบบสามารถใช้ระบบนำทางอัจฉริยะที่ไม่พาอ้อมไปมาลดการใช้พลังงานในประจุแบตเตอรี่และคำนวณระยะการใช้ประจุขณะเดินทาง

*อัพเดทสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าตลอดเวลานำพาไปยังที่สถานีนั้น หากอยากรู้รายละเอียดว่าแต่ละสถานีเป็นอย่างไรก็มีข้อมูลให้ดูตลอดเวลาครับ

*ตั้งเวลาเปิดแอร์ขณะชาร์จประจุใกล้แล้วเสร็จก่อนขับขี่และตั้งเวลาชาร์จประจุตอนกลางคืน

* ผู้ขับขี่สามารถดูสถานะการชาร์ตประจุผ่านเว็บไซต์และโทรศัพท์มือถือ ยกตัวอย่างเมื่อประจุเต็มแล้วระบบจะส่งข้อความเข้ามือถืออัตโนมัติ รวมถึงสั่งการให้ชาร์จประจุและเปิดแอร์ผ่านรีโมตคอนโทรลได้ด้วย

หากอยาก ดูภาพงานเปิดตัวรถ EV ครั้งแรกของนิสสันว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ดูผ่านเว็บไซต์ http://www2.nissan-zeroemission.com/EN/ วันที่ 2 สิงหาคมนี้ครับ