ปี 2017 คือปีทองของ Volkswagen เพราะในปีนี้ Volkswagen เร่งเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาเรียกน้ำย่อยกันชนิดที่ลืมวิกฤตการณ์ Dieselgate ไปชั่วคราวกันเลยทีเดียว ล่าสุดก็ได้เปิดตัว Volkswagen T-Roc : Compact Crossover คันใหม่ที่สร้างขึ้นบนชุดโครงสร้างตัวถังและงานวิศวกรรมร่วม MQB เหมือนกับ Volkswagen Golf รุ่นปัจจุบัน เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2017

Volkswagen T-Roc จะเป็นการสลัดภาพใหม่เพื่อมุ่งไปสู่ความเป็นรถยนต์ Crossover อย่างเต็มตัว โดยสลัดภาพลักษณ์ความเป็น Golf ยกสูงออกไปให้หมด จนถึงขั้นลงทุนเปลี่ยนแปลงดีไซน์และรายละเอียดงานวิศวกรรมบางส่วนจนเรียกได้ว่าน่าจะเป็นรถรุ่นใหม่คันหนึ่งเลยจริง ๆ

Volkswagen จะวางตำแหน่งการตลาดของ T-Roc ให้เป็นรถยนต์ Compact Crossover ที่มีขนาดเล็กกว่า Tiguan ระดับหนึ่ง โดยที่ทาง Volkswagen ไม่ได้สื่อสารมาตรง ๆ ว่า T-Roc จะเป็นรถขนาด Segment ไหน? คงเพราะพวกเขาคงต้องการสร้างจุดขายด้านคุณภาพงานวิศวกรรมที่แบบรถยนต์ระดับ C-Segment มากกว่าจะมาแข่งขันกันด้านขนาดตัวถังและราคาจำหน่าย

มิติตัวถังภายนอก
ยาว x กว้าง x สูง : 4,234 x 1,819 x 1,573 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ (Wheelbase) : 2,603 มิลลิเมตร

— มิติตัวถังภายนอก B-SUV จากแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่น–

Honda HR-V
ยาว x กว้าง x สูง : 4,294 x 1,772 x 1,605 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ : 2,610 มิลลิเมตร

Toyota C-HR
ยาว x กว้าง x สูง : 4,360 x 1,795 x 1,565 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ : 2,640 มิลลิเมตร

Mazda CX-3
ยาว x กว้าง x สูง : 4,275 x 1,765 x 1,550 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ : 2,570 มิลลิเมตร

เมื่อนำ Volkswagen T-Roc มาเปรียบเทียบกับ B-SUV แบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นจะพบว่า Volkswagen T-Roc กลับมีความยาวตัวถังเล็กที่สุด แต่สามารถเอาชนะด้วยความกว้างตัวถังที่กว้างที่สุด ส่วนความสูงและระยะฐานล้อจะพอ ๆ กัน

ดีไซน์ภายนอกของ Volkswagen T-Roc ยังคงยึดแนวทางการออกแบบ Volkswagen SUV DNA แบบเดียวกับ Tiguan, Tiguan Allspace (หรือ Tiguan เวอร์ชันฐานล้อยาว), Atlas/Teramont และจะมีการนำทิศทางการออกแบบบางส่วนจากรถยนต์ต้นแบบ T-Prime Concept GTE ซึ่งรถต้นแบบคันนี้จะมีอิทธิพลต่อ Volkswagen SUV รุ่นถัด ๆ ไปด้วย

Volkswagen T-Roc จะรวมความสปอร์ต, ความงดงามทางสายตาและงานวิศวกรรมรวมเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้สัดส่วนตัวถังที่ปราดเปรียว มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเมื่อเทียบกับ SUV ทั่วไป  มีการออกแบบกระจังหน้าเชื่อมต่อกับไฟหน้า พร้อมไฟหน้า LED (เฉพาะรุ่นบนสุด) สิ่งที่ดูแปลกตามากที่สุดคือการย้ายตำแหน่ง ไฟ DRL LED ไปไว้บริเวณกันชนหน้า

เส้นสายด้านข้างตัวรถรอบคันสามารถสัมผัสถึงความตั้งใจในการออกแบบได้ไม่ยากนัก ทีมดีไซน์ได้ออกแบบเส้น Belt Line อันบางเฉียบที่เกือบจะบรรจบกับซุ้มล้อหลังที่ถูกออกแบบให้ดูเสมือนเป็นมัดกล้าม เข้าคู่กับซุ้มล้อด้านหน้า

นอกจากนี้ยังมีการกรุเส้นโครเมี่ยมเสา A ลากยาวไปจรดปลายเสา C โดย Volkswagen เคลมว่าการลาดเส้นโครเมี่ยมเช่นนี้จะทำให้ตัวรถดูคล้ายรถสปอร์ตหลังคา Targa ได้ อีกทั้งยังมีการสาดสีหลังคาเป็นสีดำที่ตัดกับสีตัวถังครึ่งคันล่างด้วย

การออกแบบบั้นท้ายจะเน้นความปลอดโปร่งของห้องโดยสารตอนหลัง ด้วยบานกระจกกระโปรงท้ายที่เน้นรัศมีแนวกว้างกินขอบเสา C เล็กน้อย อีกทั้งยังมีการออกแบบไฟท้าย LED 3 มิติ เพิ่มความสวยงามในแต่ละมุมมอง

ภายในห้องโดยสารถือเป็นจุดขายสำคัญของ Volkswagen T-Roc เพราะนี่คือการก้าวเข้าสู่ยุคภายในดิจิตอลอย่างแท้จริง สมบูรณ์แบบด้วยมาตรวัดแสดงผล Full Digital ‘Active Info Display’ พร้อมกับหน้าจอสัมผัส Infotainment ขนาด 8 นิ้ว ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งระนาบกัน แผงแดชบอร์ดก็ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาน และเน้นการติดตั้งอุปกรณ์แบบแนวตั้ง

ถึงแม้ขนาดตัวรถจะดูกะทัดรัดแต่ Volkswagen T-Roc กลับมีพื้นที่ห้องสัมภาระท้ายมากถึง 445 ลิตร ดีที่สุดใน Segment นี้ และเพื่อพับเบาะนั่งหลังลงทั้งหมดก็จะได้เนื้อที่มากถึง 1,290 ลิตร ไม่มี SUV ในขนาดเดียวกันรายใดทำได้

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย

  • ระบบปรับความแข็งของแดมเปอร์ Adaptive Chassis Control (DCC) รองรับการขับขี่โหมด Sport/Comfort/Normal
  • ระบบช่วยบังคับเลี้ยงพวงมาลัยขณะขับขี่แบบสปอร์ต Progressive Steering
  • กล้องตรวจจับ Monitor ด้านหน้าสามารถตรวจจับคนเดินทางเท้าได้
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ City Braking
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
  • ระบบอ่านป้ายจราจร Dynamic Road Sign Display
  • กล้องมองหลัง
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถยนต์วิ่งแทรกขณะเปลี่ยนเลน Lane Change System
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear Traffic Monitor
  • ระบบช่วยเตือนในจุดอับสายตา Blind Spot Monitor
  • ระบบควบคุมพวงมาลัย พร้อมระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถในช่องทาง Lane Assist lane keeping System
  • ระบบช่วยจอดรถแบบควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ สั่งยกเลิกการทำงานด้วยการแตะเบรก
  • ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า ภายใต้การจราจรที่ติดขัด Traffic Jam Assist
  • ระบบเตรียมรับความพร้อมก่อนเกิดอุบัติเหตุ Proactive occupant protection System
  • ระบบเตือนผู้ขับขี่ Driver Alert
  • ระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ

Volkswagen T-Roc จะมีขุมพลังเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายมาก ได้แก่

  • เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร TSI 115 แรงม้า (PS) แรงบิด 200 นิวตันเมตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
  • เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร TSI 150 แรงม้า (PS) แรงบิด 250 นิวตันเมตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ/เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ DSG 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
  • เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร TSI 150 แรงม้า (PS) แรงบิด 250 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ DSG 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อ 4 ล้อ 4MOTION
  • เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร TSI 190 แรงม้า (PS) แรงบิด 320 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ DSG 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อ 4 ล้อ 4MOTION
  • เครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร TDI 115 แรงม้า (PS) แรงบิด 250 นิวตันเมตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร TDI 150 แรงม้า (PS) แรงบิด 340 นิวตันเมตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ/เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ DSG 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร TDI 150 แรงม้า (PS) แรงบิด 340 นิวตันเมตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ/เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ DSG 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อ 4 ล้อ 4MOTION
  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร TDI 190 แรงม้า (PS) แรงบิด 400 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ DSG 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อ 4 ล้อ 4MOTION

Volkswagen จะเปิดช่วง Pre-Sale ในช่วงต้นเดือนกันยายน 2017 ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในยุโรปช่วงพฤศจิกายนนี้ โดยวางราคาเริ่มต้น Volkswagen T-Roc ไว้ที่ 20,000 ยูโร ในตลาดเยอรมนี ซึ่งถูกกว่า Toyota C-HR

ที่มา : Motor1