ศักดิ์ศรีความยิ่งใหญ่ของงาน Frankfurt Motorshow นั้นไม่เป็นรองงานแสดงรถยนต์ระดับโลกงานอื่นเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำ สถานที่จัดงานยังเป็นประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดแบรนด์รถยนต์ที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก อันมีส่วนช่วยในการกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกอีกด้วย

แต่ทว่าด้วยสภาวะการณ์โลกในปัจจุบัน ก็ล้วนมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนเอาเสียเลย จึงทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกหลายรายเริ่มตัดสินใจ งดจัดแสดงบูธภายในงาน Franfurt Motorshow ประจำปี 2017 เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และโยกย้ายงบการจัดแสดงบูธมาจัดกิจกรรมทางการตลาดที่สร้างความสนใจให้แก่ลูกค้าที่มีประสิทธิภาพกว่า

ผู้ผลิตรถยนต์ 9 ราย ที่จะไม่เข้าร่วมจัดแสดงในงาน Frankfurt Motorshow 2017 ได้แก่

  1. Alfa Romeo
  2. DS
  3. Fiat
  4. Infiniti
  5. Jeep
  6. Mitsubishi
  7. Nissan
  8. Peugeot
  9. Volvo

Ian Fletcher นักวิเคราะห์จากสำนักวิเคราะห์ข้อมูลยานยนต์ IHS Markit เปิดเผยว่า ผู้ผลิตรถยนต์มีแนวโน้มลดความสนใจที่จะจัดแสดงใน Motorshow ลง เพราะการจัดแสดงในงาน Motorshow แต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ๆ เมื่อเทียบกับประสิทธิผลด้านการขายที่แลดูจะไม่คุ้มค่ามากนัก

นอกจากนี้เทรนด์ของการจัดแสดงรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดก็กำลังจะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน จากเดิมการจัดงาน Motorshow คือศูนย์กลางกิจกรรมการเปิดตัวรถยนต์รุ่นสำคัญระดับโลก ที่จัดอยู่ภายในอาคาร/ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ แต่ปัจจุบัน ผู้ผลิตหลายรายเริ่มหันมามองเทศกาลรถยนต์ที่จัดกลางแจ้ง ภายใต้บรรยากาศธรรมชาติอันร่มรื่นแทนเสียแล้ว

(เทศกาล Goodwood Festival of Speed  กลายเป็นสถานที่เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่/รถยนต์ต้นแบบ ที่มีค่าใช้จ่ายโดยรวมต่ำกว่ามาก แต่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารสูงกว่าการอวดโฉมที่งาน Motorshow ใหญ่ๆ)

Goodwood Festival of Speed คือเทศกาลแสดงรถยนต์และแข่งขันรถยนต์ในประเทศอังกฤษ ที่กำลังมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น ทุกปี ๆ มีผู้เข้าชมเพียงแค่ 200,000 กว่าคน ถือว่าน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับงานแสดงรถยนต์ระดับยักษ์อย่าง Frankfurt Motorshow เมื่อปี 2015 ที่มีผู้เข้าชมกว่า 900,000 คน แต่ที่น่าทึ่ง คือ เทศกาล Goodwood กลับมีประสิทธิภาพในการกระจายข่าวผ่านสื่อ Social Media ได้ดีกว่า โดยวัดได้จากผู้สนใจรับชม VDO ที่เกี่ยวข้องกับภายในงานมากถึง 1 ล้านชั่วโมงแล้ว

ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการจัดแสดงรถยนต์รุ่นใหม่ในเทศกาล Goodwood Festival of Speed ที่ถูกกว่างาน Motorshow ใหญ่ ๆ ถึง 3 เท่า จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมผู้ผลิตรถยนต์จึงหันเหความสนใจการจัดแสดงรถยนต์มายังเทศกาลเล็ก ๆ มากขึ้น

เหตุผลอีกประการที่ผู้ผลิตรถยนต์เริ่มให้ความสนใจที่จะจัดแสดงงานตามงาน Motorshow ใหญ่ ๆ น้อยลง นั่นคือ ผู้ผลิตกลัวไม่ได้รับความสนใจจากสื่อ/ลูกค้า เท่าที่ควรจะเป็น เพราะ ผู้ผลิตหลายราย ต่างฝ่ายต่างแข่งกันประกาศข่าวสารออกมาให้เด่น ให้ดังมากที่สุด

(บรรยากาศงาน Geneva Motorshow 2017 ที่สามารถควบคุมการสื่อสารให้เท่าเทียมกันทุกค่าย)

นอกจากนี้กฏเกณฑ์/ข้อกำหนด ของผู้จัดงาน Motorshow ที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ ก็มีส่วนกำหนดทิศทางการสื่อสารสู่สาธารณะชนด้วย ยกตัวอย่าง งานจัดแสดงรถยนต์ Geneva Motorshow ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีข้อกำหนดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เท่าเทียมกัน เพื่อป้องกันผู้ผลิตรถยนต์รายใดรายหนึ่ง ทุ่มเงินเพื่อครองพื้นที่สื่ออย่างผูกขาด โดยอนุญาตประชาสัมพันธ์แค่เพียงตัวแบรนด์และรถยนต์เท่านั้น แตกต่างจากงาน Frankfurt Motorshow ประเทศเยอรมนี และ Paris Motorshow ประเทศฝรั่งเศส ที่มีผู้ผลิตรถยนต์ท้องถิ่นของประเทศผู้จัดงานสามารถครองอำนาจในการสื่อสารได้

ทางออกที่ดีที่สุด คือ ผู้ผลิตหลายรายจึงขอจัดกิจกรรมเป็นของตนเอง เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถควบคุมประสิทธิภาพการสื่อสารได้ดีที่สุด เมื่อเร็ว ๆ นี้ Jaguar ก็เพิ่งจัดงาน Jaguar Art of Performance tour ในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีโอกาสทดลองขับรถยนต์ Jaguar ได้ทุกรุ่น หรือในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Audi ลงทุนเชิญสื่อมวลชนและดีลเลอร์ร่วม 2,000 ชีวิต เข้าร่วมงาน Audi Summit ที่มีการจัดแสดงความเป็นมาของแบรนด์และเปิดตัว All NEW Audi A8 ผ่านแสง, สีและเสียง ล้ำสมัย โดยคาดหวังว่าจะไม่มีอุปสรรคใด ๆ มาขัดขวางการสื่อสารสู่สาธารณะชนได้

ที่มา : Automotive News