ในงาน Gaikindo Indonesia International Auto Show (GIIAS) 2017 ในปีนี้ถือเป็นงานแสดงรถยนต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในรอบหลายปี เพราะใช่ว่าจะมีแต่รถทรง MiniMPV อวดโฉมกันทั่วทั้งงาน แต่ก็มีรถยนต์แบบอื่น ๆ มาอวดโฉมด้วยเช่นกัน

Daihatsu DN F-Sedan Concept น่าจะเป็นรถยนต์ต้นแบบที่ดู Hot ในสายตาคนไทยด้วยกัน เพราะว่านี่คือรถยนต์ต้นแบบ 4 Door Coupe คันแรกของค่าย ที่น่าจะถูกจริตลูกค้าชาวไทยมากกว่ารถยนต์แบบท้ายตัดทั้งหลาย

มิติตัวถังภายนอก

• ยาว x กว้าง x สูง : 4,200 x 1,695 x 1,430 มิลลิเมตร
• ระยะฐานล้อ (Wheelbase) : 2,510 มิลลิเมตร

เปรียบเทียบมิติตัวถังภายนอกของรถยนต์ B-Segment Sedan และ Eco-Car Sedan ที่จำหน่ายในเมือง

• Honda City Minorchange (รุ่นปี 2017) มีความยาว x กว้าง x สูง : 4,440 x 1,695 x 1,471-1,477 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ : 2,600 มิลลิเมตร
• Mazda 2 Sedan มีความยาว x กว้าง x สูง : 4,320 x 1,695 x 1,470 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ : 2,570 มิลลิเมตร
• Toyota Vios Minorchange (รุ่นปี 2017) มีความยาว x กว้าง x สูง : 4,420 x 1,700 x 1,475 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ : 2,550 มิลลิเมตร
• Nissan Almera มีความยาว x กว้าง x สูง : 4,425 x 1,695 x 1,500 มิลลิเมตร (สำหรับ Almera E / V / VL Sportech จะมีความยาวเพิ่มขึ้นมาเป็น 4,512 มิลลิเมตร) มีระยะฐานล้อ : 2,600 มิลลิเมตร
• Mitsubishi Attrage มีความยาว x กว้าง x สูง : 4,245 x 1,670 x 1,510 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ : 2,550 มิลลิเมตร
• Honda Brio Amaze Minorchange มีความยาว x กว้าง x สูง : 4,085 x 1,680 x 1,485 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ : 2,405 มิลลิเมตร

เมื่อพิจารณาขนาดตัวถังภายนอกของ Daihatsu DN F-Sedan Concept จะพบว่ามันมีพิกัดที่ใกล้เคียงกับ Mitsubishi Attrage ซึ่งวางตำแหน่งเป็นรถยนต์ sub B-Segment คือ แทรกกลางระหว่าง A-Segment Sedan และ B-Segment นั่นเอง

ความพิเศษของ Daihatsu DN F-Sedan Concept คันนี้คือ ดีไซน์ ที่นำเส้นสายรถยนต์แบบ Sedan-Coupe จากแบรนด์รถพรีเมี่ยมทั้งหลายมาประยุกต์ลงในรถขนาดคอมแพคท์กะทัดรัด ภายใต้เส้นสายในแบบฉบับ Daihatsu ยุคใหม่ที่ทำตลาดในอินโดนีเซีย

จุดเด่นการออกแบบพิเศษของ Daihatsu DN F-Sedan Concept

• สัดส่วนตัวถังแบบ Sedan-Coupe สปอร์ตปราดเปรียวกว่ารถยนต์ B-Segment ที่จำหน่ายในตลาดอาเซียนทั้งหมด
• ดีไซน์ด้านหน้าเอกลักษณ์ใหม่กับกระจังหน้า 2 ชั้น (ที่ดูคล้ายรถยนต์ Honda บางรุ่น)
• ไฟหน้า LED
• เส้นสายตัวถังรอบคันคล้ายนำดีไซน์จากรถรุ่นใหญ่กว่ามาประยุกต์
• บั้นท้ายถูกออกแบบมาแปลกตาพรีเมี่ยม
• ไฟท้าย LED
• บานประตูห้องโดยสารแบบตู้กับข้าว

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 3NR-VE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วาล์วแปรผัน Dual VVT-I ขนาด 1.2 ลิตร 1,197 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 72.5 x 72.5 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 88 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 10.8 กิโลกรัมเมตรที่ 4,200 รอบ/นาที

Daihatsu ไม่ได้กล่าวเลยว่า Daihatsu DN F-Sedan Concept คันนี้จะเตรียมขึ้นสายการผลิตจริงได้เมื่อไร? แต่ก็น่าจะมีความเป็นไปได้สูงว่า ลูกค้าชาวอินโดนีเซียหรือไม่ก็ชาวมาเลเซียอาจจะมีสิทธิ์สัมผัสรถยนต์คันนี้ในอนาคต

ที่มา : Paultan / Indianautosblog

บทวิเคราะห์โดยผู้เขียน

Daihatsu DN F-Sedan Concept ยังคงเป็นรถยนต์ต้นแบบปริศนามิใช่น้อย เพราะ Daihatsu แทบไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรเลยเกี่ยวกับรถคันนี้ แต่ถ้าหาก Daihatsu กล้าสร้างรถยนต์ต้นแบบคันนี้ขึ้นมา ก็น่าจะเป็นการบ่งบอกสัญญาณอะไรบางอย่าง?

หรืออาจเป็นไปได้ว่า Daihatsu DN F-Sedan Concept จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจคท์ใหม่ที่จะนำแบรนด์ Daihatsu กลับมาทำตลาดในไทยอีกครั้ง ในราคาแค่เพียง 3-4 แสนบาท โดยการบริหารงานและพัฒนาใหม่โดย TDEM : Toyota Daihatsu Engineering & Manufacturing Co., Ltd. (อ่านข่าวย้อนหลัง Toyota มีแผนนำแบรนด์ Daihatsu มาทำตลาดในไทยอีกครั้ง วางช่วงราคา 3-4 แสนบาท ได้ที่นี่)

เหตุผลสนับสนุนในเบื้องต้นที่คาดการณ์กันว่า Daihatsu DN F-Sedan Concept น่าจะเป็นรถยนต์โปรเจคท์ใหม่ล่าสุดภายใต้การดำเนินงานโดย TDEM ก็เพราะมิติตัวถังภายนอกรถยนต์ต้นแบบคันนี้มีขนาดเล็กกว่า Toyota Vios และ Yaris Ativ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็สมเหตุสมผลในการวางตำแหน่งทางการตลาดและราคาให้ต่ำกว่ารถยนต์ขนาด B-Segment Sedan หรือแม้กระทั่ง Toyota Yaris Hatchback ตามข่าวที่เคยรายงานในเบื้องต้น

และหากมองรูปลักษณ์ภายนอกตัวรถ Daihatsu DN F-Sedan Concept จะพบว่า ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวรถที่เหมือนกับรถยนต์ Daihatsu ในตลาดโลกเลย ไม่เหมือนแม้กระทั่ง Perodua Bezza : A-Segment Sedan ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ Daihatsu พัฒนาขึ้นบนพื้นฐาน Ayla สำหรับตลาดมาเลเซียโดยเฉพาะ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า Daihatsu ได้หมายมั่นปั้นมือที่จะเจาะตลาดอาเซียนอย่างจริงจังตามยุทธศาสตร์ระยะยาว D-Challenge 2025 ด้วยการศึกษาข้อมูลพฤติกรรมการซื้อรถยนต์ขนาด B-Segment ของลูกค้าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างดี ทำให้ Daihatsu จำเป็นต้องพัฒนางานดีไซน์ให้ถูกใจลูกค้าแถบนี้มากที่สุด เพราะรูปลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับกลุ่มลูกค้าในตลาด B-Segment ซึ่งแปรผกผันกับยอดขายโดยตรงนั่นเอง

งานนี้ เชื่อว่าโปรเจคท์การกลับมาของ Daihatsu ในเมืองไทยอาจจะสนุกสนานกว่าที่คิด