สมัยที่ Tata เปิดตัว Nano ในปี 2008 ในฐานะรถขนาดเล็กที่มีราคาถูกที่สุดในโลกด้วยมูลค่า 3,000 ดอลลาร์หรือ
ประมาณแค่ 8 หมื่นกว่าบาทเท่านั้น ตอนนั้นหลายคนก็ฮือฮากับความถูกของมันเป็นอย่างมากและคาดว่าน่าจะมี
ยอดขายถล่มทลายในอินเดีย ทุกอย่างดูดีไปหมดแต่เมื่อวางขายจริงสักระยะก็พบว่า Tata Nano มีปัญหาด้านคุณภาพ
รถที่ตกต่ำเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีปัญหาด้านการผลิตมาตั้งแต่เริ่มทำให้คนที่สนใจรอ Tata Nano อดรนทนไม่ไหวหันไป
ซื้อรถที่พร้อมส่งมอบจะดีกว่า ทำให้ยอดขาย Tata Nano ในอินเดียทำได้แค่เพียง 4 หลักต่อเดือน แทนที่จะกวาดยอดขาย
เดือนละเป็นหมื่น ๆ ตามใจต้องการ

alt

Tata ส่ง Nano ขึ้นโชว์รูมในเดือนกรกฎาคม 2009 จนมียอดขายรวมถึงตอนนี้เพียงแค่ 229,157 คัน ถือว่าต่ำกว่าที่คาด
พอสมควรเมื่อเทียบกับราคาที่ถูกเอามาก ๆ ขนาดนี้

Karl Slym ผู้อำนวยการทั่วไปแห่ง Tata Motor ได้เปิดใจว่า Tata ยังคิดจะรักษาชื่อ Nano เอาไว้อยู่ แต่เขาวิเคราะห์
สาเหตุของความล้มเหลวในครั้งนี้ว่า กลุ่มเป้าหมายของ Nano (เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่คิดจะซื้อรถยนต์) มีพฤติกรรม
การซื้อรถที่แปลก ๆ คือ พวกเขามองว่า Tata Nano ไม่ใช่รถยนต์ เขามองเป็นแค่สกู๊ตเตอร์ติดเครื่องยนต์เท่านั้น ดังนั้นเขา
จึงไปเลือกรถรุ่นอื่นที่เหมาะสม

วิธีแก้ปัญหาของ Tata คือต้องทำ Nano ให้ดูเป็นรถยนต์ขนาดเล็กในสายตากลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยจะอ้างอิงงาน
ออกแบบจากรถต้นแบบ Tata Pixel และจะมีช่วงราคากว้างมากให้ลูกค้าได้ซื้อกัน แต่จะไม่โปรโมตว่าเป็นรถราคาถูก
มาก ๆ เหมือนเช่นรุ่นปัจจุบัน