ชื่อชั้นของ Toyota Auris ที่คนส่วนใหญ่รู้จักมันคือรถยนต์ C-Segment Hatchback ทางเลือกใหม่นอกเหนือจาก Toyota Corolla ซึ่งเป็นรถยนต์ C-Segment Sedan ของผู้คนทั่วโลก โดย Toyota พยายามวางตำแหน่ง Auris ให้กลายเป็นรถยนต์ Hatchback ที่จับตลาดคนรุ่นใหม่ ติดสปอร์ตเล็กน้อย แตกต่างจาก Corolla ที่มีบุคลิกความสุขุมเพื่อรองรับลูกค้าทุกระดับ

แต่อีกไม่นานชื่อ Toyota Auris อาจจะกลายเป็นความทรงจำในอนาคต

(นิตยสาร Mag-X ได้วาดภาพ All NEW Toyota Auris ที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Corolla Hatchback)

ล่าสุดก็มีรายงานข่าวว่า Toyota จะยุติชื่อ Toyota Auris แล้วกลับมาเรียกเป็น Toyota Corolla Hatchback เหมือนในอดีตสำหรับรถยนต์ C-Segment Hatchback ในรุ่นถัดไป หลังจากยุติการใช้ชื่อ Corolla Hatchback มายาวนานถึง 11 ปี

จากการวิเคราะห์ในเบื้องต้น คาดว่าชื่อชั้นของ Toyota Corolla มีความแข็งแกร่งมากในกลุ่มตลาดรถยนต์นั่งขนาด C-Segment ทั่วโลก จึงไม่มีความจำเป็นต้องแยกชื่อเรียกให้แตกต่างกันตามแต่ละตัวถังและแต่ละภูมิภาคอีกต่อไป ประกอบกับมีความเป็นไปได้สูงว่า All NEW Toyota Corolla จะกลายเป็นรถยนต์ระดับโลกที่กลับมามีเอกภาพด้านรูปลักษณ์และตำแหน่งการตลาดอีกครั้ง (Global Model) โดยไม่จำเป็นจะต้องพัฒนา Corolla ให้แตกต่างตามภูมิภาคอีกต่อไป

(Toyota Auris รุ่นปัจจุบันปรับโฉม Minorchange)

ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า All NEW Toyota Corolla Hatchback และ Sedan จะมีใบหน้าที่เหมือนกันหมด ไม่เว้นแม้แต่ Toyota Corolla เวอร์ชันญี่ปุ่นที่อาจจะต้องมีดีไซน์ภายนอก-ภายในห้องโดยสารเป็นแบบเดียวกันทั่วโลก และนั่นก็อาจทำให้ Toyota Corolla เวอร์ชันญี่ปุ่นจะมีขนาดความกว้างตัวถังเกิน 1,695 มิลลิเมตรเป็นครั้งแรก

All NEW Toyota Corolla Hatchback จะถูกพัฒนาขึ้นบนชุดโครงสร้างพื้นตัวถังและงานวิศวกรรมร่วม TNGA-C Platform ร่วมกับ Toyota Prius และ C-HR โดยจะเพิ่มระยะความยาวฐานล้ออีก 100 มิลลิเมตร เป็น 2,700 มิลลิเมตร ที่ช่วยเพื่อความกว้างสบายให้แก่ผู้โดยสารตอนหลัง

ขุมพลัง All NEW Toyota Corolla Hatchback จะติดตั้งเครื่องยนต์ 3 แบบได้แก่

  • เบนซิน 1.2 ลิตร เทอร์โบ คาดว่าจะเป็นเครื่องยนต์รหัส 8NR-FTS บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว D-4T พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-iw Atkinson Cycle – Intercooler Turbo 1,196 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก : 71.5 x 74.5 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.0 : 1 ให้กำลัง 116 แรงม้า (PS) ที่ 5,200 – 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 18.9 กิโลกรัมเมตร (185 นิวตันเมตร) ที่ 1,500 – 4,000 รอบต่อนาที
  • ดีเซล 1.5 ลิตรแบบใหม่
  • Hybrid รุ่นปรับปรุงใหม่ที่คาดว่าจับคู่เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรรหัส 2ZR-FXE บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-I Atkinson Cycle 1,797 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก : 80.5 × 88.3 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.6 : 1 ให้กำลัง 99 แรงม้า (PS) ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 14.5 กิโลกรัมเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที (142 นิวตันเมตร) ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น 3JM ให้กำลัง 82 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 21.1 กิโลกรัมเมตร (207 นิวตันเมตร) มีการปรับปรุงสมรรถนะจนน่าจะได้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจาก 30.4 กิโลเมตรต่อลิตรตามมาตรฐาน JC08 กลายเป็น 34.6 กิโลเมตรต่อลิตร

All NEW Toyota Corolla Hatchback จะอวดโฉมในคราบรถยนต์ต้นแบบเป็นครั้งแรกที่งาน Paris Motorshow 2017 เดือนกันยายนนี้ และจะอวดโฉมรถยนต์เวอร์ชันขึ้นสายการผลิตจริงที่งาน Geneva Motorshow 2018 มีนาคมปีหน้า


ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Toyota Auris

(Toyota Auris โฉมแรกเมื่อเปิดตัวในปี 2006)

Toyota ได้แนะนำ Auris : C-Segment Hatchback รหัสตัวถัง E150 ในช่วงกลางปี 2006 ที่พยายามพลิกภาพลักษณ์ใหม่ให้กลายเป็นรถยนต์ขวัญใจคนรุ่นใหม่ เพื่อแยกภาพลักษณ์ให้แตกต่างจากรถซีดานตระกูล Corolla ให้ชัดเจนขึ้น ถึงขั้นเปิดตัวก่อน Toyota Corolla เจเนเรชั่นที่ 10 รหัส E140 ก่อนเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

ชื่อของ Auris เป็นการนำคำภาษาละติน ‘Aurum’ ที่แปลกว่า ทองคำ ที่คาดว่ารถยนต์คันนี้จะกลายเป็นรถยนต์ทรงคุณค่าที่มีความร้อนแรงดุจทองคำ โดยตั้งเป้าทำตลาดในยุโรปที่มีการแข่งขันกันในกลุ่ม C-Segment Hatchback อย่างรุนแรง และยุติการทำตลาดในโฉมนี้เมื่อปี 2012

(Toyota Auris เจเนเรชั่นที่ 2 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012)

Toyota Auris เจเนเรชั่นที่ 2 รหัสตัวถัง E180 เปิดตัวในปี 2012 จนถึงปัจจุบัน ถือเป็นรุ่นที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จในตลาดยุโรปเพราะสามารถครองอันดับยอดขายรถยนต์ C-Segment ในระดับ Top 10 ได้ตลอดมา อีกทั้งในตลาดออสเตรเลีย (จำหน่ายในชื่อ Corolla Hatchback ) ยังได้รับความนิยมสูงมากจนนำพาชื่อ Corolla ติดอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์คอมแพคท์ในตลาดออสเตรเลียอย่างยาวนาน ส่วนในตลาดอเมริกาจะใช้ชื่อ Toyota Corolla iM