ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้รายงานไปว่า Takata ผู้ผลิตถุงลมนิรภัยรายใหญ่เตรียมที่จะยื่นล้มละลายในประเทศสหรัฐฯ และประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดมีการประกาศยืนยันเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการแล้ว ทั้งยังมีการเปิดเผยว่า KSS บริษัทผลิตชิ้นส่วนความปลอดภัยสัญชาติจีน ได้เตรียมเข้าครอบครองกิจการต่อเช่นกัน

สาเหตุการล้มละลายของ Takata เกิดจากถุงลมนิรภัยมรณะที่ก่อให้เกิดค่าเสียหายมากมายทั้งค่าปรับ, ต้นทุนการผลิตชิ้นส่วนทดแทน และค่าฟ้องร้องต่างๆ จนรายจ่ายของบริษัทติดลบมาเป็นเวลา 3 ปี โดยมูลค่าหนี้สินของบริษัท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2017 ที่ผ่านมา มีมูลค่าสูงถึง 380,000 ล้านเยน (ราว 115,000 ล้านบาท) ทั้งหุ้นในตลาดญี่ปุ่นยังเทกระจาดลงมาถึง 95% เมื่อเทียบกับมูลค่าในเดือนมกราคม 2014

Shigehisa Takada ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Takata ระบุหลังจากยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายว่า นี่เป็นหนทางที่ดีที่สุดในการรับมือกับปัญหาที่เผชิญอยู่ และมีการเปิดเผยด้วยว่าผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดจะลาออกเมื่อเวลาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริษัทมาถึง แต่ใช่ว่าจะไปลับ เพราะดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังคงมีส่วนในบริษัทอยู่ โดยลดบทบาทไปเป็นผู้ถือหุ้นแทน

ในส่วนของการผลิตชิ้นส่วนทดแทน Takata เปิดเผยว่าจะยังคงผลิตถุงลมนิรภัยต่อไปอีกอย่างต่ำ 5 ปีที่โรงงานในสหรัฐฯ, จีน และเม็กซิโก แต่จะไม่ผลิตที่โรงงานในเยอรมันอีกต่อไป สำหรับผู้ที่จะมาสานต่อภารกิจนี้คือ Key Safety System (KSS) ผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ตั้งอยู่ในรัฐ Michigan ประเทศสหรัฐฯ แต่มี Ningbo Joyson Electric Corp จากประเทศจีนเป็นเจ้าของ

สำหรับการเจรจาเข้าครอบครอง Takata โดยผู้ผลิตสัญชาติจีนรายนี้ใช้เวลานานถึง 16 เดือนซึ่ง KSS ระบุว่าพนักงานของ Takata ทั้งหมด 60,000 คนใน 23 ประเทศจะยังคงมีงานทำเช่นเดิม และไม่มีการแทรกแซงการทำงานตามปกติ เพื่อให้มีผลกระทบต่อการผลิตชิ้นส่วนน้อยที่สุด

 

แม้ว่า KSS จะเตรียมเข้าครอบครอง Takata แล้ว แต่คดีความต่างๆ รวมไปถึงการผลิตชิ้นส่วนยังคงดำเนินต่อไป เราจึงต้องจับตาดูว่าเจ้าของใหม่รายนี้ จะนำกลยุทธ์ใดมาใช้เพื่อนำพาธุรกิจออกจากวิกฤต และจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ Takata จะกลับไปยืนอยู่ในตำแหน่งผู้ผลิตชิ้นส่วนเพื่อความปลอดภัยชั้นนำระดับโลกอีกครั้ง

 

ที่มา/ ภาพ: reuters