ช่วงนี้ Carlos Ghosn ซีอีโอใหญ่แห่ง Renault-Nissan Alliance เยือนประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย เพื่อเตรียมความพร้อมในการควบรวมธุรกิจรถยนต์ Mitsubishi ให้อยู่ในกลุ่ม Renault-Nissan Alliance อย่างมีประสิทธิภาพ แต่แทบทุกประเทศที่ Carlos Ghosn ไปเยือนล้วนแต่มีส่วนแบ่งการตลาดที่ไม่น่าพึงพอใจจนถึงขั้นต้องปริปากออกมาหลายครั้ง
ล่าสุด Carlos Ghosn ได้มาเยือนประเทศออสเตรเลียเพื่อดูความคืบหน้าของธุรกิจ Renault-Nissan Alliance อันประกอบไปด้วยแบรนด์ Nissan, Renault และ Mitsubishi ซึ่งเขาก็พบว่าส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มบริษัทนี้ไม่เป็นที่น่าพอใจยิ่งนัก
Ghosn ยอมรับไม่ได้เลยที่ส่วนแบ่งการตลาด Renault-Nissan Alliance น้อยในตลาดออสเตรเลีย และพวกเขาก็กำลังจะเข้าสู่โหมดรุกตลาดอย่างดุกร้าวเพื่อหวังแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดมาได้ โดยปล่อยให้แต่ละแบรนด์ทั้ง Nissan ,Renault และ Mitsubishi รุกตลาดอย่างหนักนอกเหนือจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์, เทคโนโลยี, ศูนย์บริการและอื่น ๆ
Renault-Nissan Alliance มีส่วนแบ่งการตลาดจากยอดขายรถ 3 ยี่ห้อรวมกับในออสเตรเลียได้เพียงแค่ 12.5% ในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2017 ผิดกับ Toyota ที่มียอดขายรถจากแบรนด์เดี่ยว ๆ มากถึง 18% (หากรวม Lexus เข้าไปด้วยจะได้ถึง 19%)
Ghosn ยังพูดอีกว่า Nissan ในตลาดอเมริกาเหนือมีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 9.5% ถ้านับเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกาก็จะได้มากกว่า 10% ซึ่งเป็น 1 ในประเทศที่มีตลาดรถยนต์แข่งขันหนักมากที่สุดในโลก Ghosn จึงยากที่จะเข้าใจว่าทำไม Nissan ออสเตรเลียถึงไม่สามารถมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 6% ได้เลย
หากเจาะลึกส่วนแบ่งการตลาด Renault-Nissan Alliance ในออสเตรเลียตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2017 จะพบว่า Mitsubishi มีส่วนแบ่งการตลาดเพียงแค่ 6.5% แต่ก็ยังเหนือกว่า Nissan ที่ได้แค่ 5% ส่วน Renault ทำได้เพียง 0.9% และ Infiniti 0.1%
อย่างไรก็ตาม Carlos Ghosn เปิดเผยทัศนคติว่านี่คือโอกาส ไม่ใช่ปัญหา ทั้งสามแบรนด์สามารถเติบใหญ่และเป็นกำลังสำคัญในการรุกตลาดออสเตรเลียได้
ที่มา : Carshowroom