เป็นเวลา 12 ปีมาแล้ว ที่มีการจัดอันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก 100 อันดับแรกประจำปี Global BrandZ โดย Kantar Millward Brown ล่าสุดมีการประกาศผลของปี 2017 ออกมา เราจึงจะพาไปดูกันว่า 10 อันดับผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น มีใครกันบ้าง

ขั้นตอนการคำนวณมูลค่าของแบรนด์นั้น เริ่มจากการสัมภาษณ์ผู้บริโภคทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน เพื่อสอบถามมุมมองของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักในการคำนวณ ทั้งยังนำปัจจัย สภาวะทางการเงิน, สมรรถนะการทำงาน, การส่งมอบผลิตภัณฑ์, ตำแหน่งทางการตลาด และความเป็นผู้นำของบริษัท อันเป็นข้อมูลจาก Bloomberg และ Kantar Worldpanel มาร่วมคำนวณคิดเป็นมูลค่าของแบรนด์ด้วย

ส่วนผลลัพธ์นั้น เช่นเคยที่ Toyota ครองตำแหน่งแบรนด์รถยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุดในอุตสาหกรรม ซึ่งนี่เป็นปีที่ 10 จาก 12 ปีที่มีการจัดอันดับดังกล่าว ในปี 2017 มูลค่าของแบรนด์ได้ลดลงมา 3% เนื่องจากยอดขายถูกสกัดโดยเรื่องของค่าเงิน การลงทุนที่สูงขึ้น และการขึ้นค่าแรง โดย Peter Walshe ผู้ดำรงตำแหน่ง Director ของ Global BrandZ ระบุว่า ในสายตาของผู้บริโภค Toyota คือแบรนด์ที่มีมูลค่าในเรื่องของคุณภาพและความทนทาน

มาดู BMW กันต่อที่ยังคงรักษาอันดับที่ 2 เอาไว้ได้ แม้จะมีมูลค่าของแบรนด์ลดลง 8% เนื่องจากมีการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ รวมไปถึงยอดขายลดลงในประเทศสหรัฐฯ ซึ่ง Walshe วิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ทำให้ BMW ยังคงครองตำแหน่งผู้นำรถยนต์หรูเอาไว้ได้ เพราะคุณภาพการขับขี่ และนวัตกรรมต่างๆ จากผู้ผลิตที่ค่ายใบพัดฟ้าขาวส่งมอบให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ส่วนคู่แค้นตลอดกาลของ BMW อย่าง Mercedes-Benz นั้นยังคงรั้งอันดับ 3 เอาไว้ได้ ทั้งยังมีมูลค่าแบรนด์สูงขึ้น 4% อีกด้วย เนื่องจากมีผลกำไรมากขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนโครงสร้างของผู้แทนจำหน่ายที่ตนเป็นเจ้าของเองอยู่

อีกหนึ่งผู้ผลิตที่น่าสนใจคือ Tesla ที่เพิ่มมูลค่าของแบรนด์ขึ้นมาได้สูงถึง 32% จนแซง Land Rover และ Porsche มาได้ โดยในปีก่อนผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้อยู่ในตำแหน่งที่ 10 ของอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่ง Walshe ได้วิเคราะห์เรื่องราวของ Tesla ว่าน่าสนใจ เพราะพวกเขาไม่ได้ขายแค่รถเท่านั้น แต่พวกเขายังมีอนาคตให้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์การสร้างแบรนด์ที่น่าตื่นตา ทั้งยังมีผลไปยังผู้ที่ไม่ได้เจ้าของ Tesla เสียด้วย

Walshe ระบุด้วยว่าเขาไม่เคยเห็นผู้ผลิตรายใดใช้รูปแบบการสร้างแบรนด์แบบเดียวกับที่ Tesla ใช้มาก่อน นอกจาก Apple และ Facebook ในยุคที่พวกเขายังไม่จับตลาดกลุ่มใหญ่เหมือนในตอนนี้ ส่วน Land Rover นั้นสามารถสร้างผลงานด้วยการเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ได้สูงถึง 17% โดยเป็นผลมาจากตลาด SUV เติบโต

เมื่อนำมูลค่าของแบรนด์รถยนต์ 10 อันดับแรกมารวมกันจะพบว่ามีมูลค่าอยู่ 139,200 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 4,735,000 ล้านบาท) ซึ่งลดลงจากปี 2016 ที่ทำตัวเลขไว้ที่ 139,900 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 4,759,000 ล้านบาท) โดย Walshe วิเคราะห์ว่ามูลค่าโดยรวมลดลง เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ต้องนำเม็ดเงินมหาศาลไปลงทุนเพื่อรับมือกับ การเป็นเจ้าของรถยนต์รูปแบบใหม่ และเทคโนโลยีเชื่อมต่อในรถยนต์นั่นเอง

ที่มา: autonews, wpp