JATO Dynamics บริษัทสำรวจดัชนีรถยนต์ทั่วโลกประจำไตรมาส 1 ปี 2017 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ค่อยมีการเผยแพร่อย่างเป็นทางการมากนัก นอกจากนี้ก็ยังมีการเปิดเผยยอดขายรถยนต์รวมทั่วโลก แบ่งตามประเทศ แบ่งตามบริษัท แบ่งตามค่าย และแบ่งตามประเภทรถต่างๆอีกด้วย
JATO เผยว่ายอดขายรถยนต์ทั่วโลก (รวมรถยนต์นั่งและรถเพื่อการพาณิชย์) ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม ปี 2017 มียอดขายมากถึง 21.24 ล้านคันเติบโต 4.7% โดยแบ่งออกเป็น
- ตลาดจีน มียอดขาย 6.18 ล้านคัน (เติบโต 5%)
- ตลาดยุโรป, ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา มียอดขาย 5.48 ล้านคัน (เติบโต 7%)
- ตลาดอเมริกาเหนือ มียอดขาย 4.8 ล้านคัน (ไม่มีอัตราการเติบโต)
- ตลาดญี่ปุ่น และ เกาหลี มียอดขาย 1.97 ล้านคัน (เติบโต 6%)
- ตลาดเอเชีย-แปซิกฟิก มียอดขาย 1.09 ล้านคัน (เติบโต 5%)
- ตลาดอินเดีย มียอดขาย 901,000 คัน (เติบโต 10%)
- ตลาดอเมริกาใต้ มียอดขาย 767,000 คัน (เติบโต 12%)
แต่ถ้าหากแบ่งแยกออกเป็นประเทศที่มียอดขายรถยนต์สูงสุด แน่นอนว่าย่อมหนีไม่พ้น ประเทศจีน, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, อังกฤษ, เยอรมนี, อินเดีย, ฝรั่งเศส, อิตาลี, บราซิล และ แคนาดา
ส่วนประเทศไทย ยอดขายรถยนต์ในประเทศไตรมาส 1 ปี 2017 อยู่ที่ 210,490 คัน ถือว่ายังห่างจากอันดับที่ 10 อย่างแคนาดาถึง 2 เท่าตัว
ยอดขาย แบ่งตามบริษัทรถยนต์ (รวมกลุ่ม)
เช่น
– Toyota ประกอบไปด้วย Toyota, Daihatsu, Lexus และ Hino
– Renault-Nissan Alliance ประกอบไปด้วย Renault, Nissan, Mitsubishi, Avtovaz, Dacia
– Volkswagen Group ประกอบไปด้วย Volkswagen, Audi, Skoda, Seat, Bentley, Bugatti, Lamboborghini, Porsche, MAN, Scania
ยอดขายรถยนต์นั่งและเพื่อการพาณิชย์ทั่วโลก ประจำไตรมาสแรกของปี 2017 จำแนกออกเป็นบริษัทรถยนต์ 20 อันดับ ได้แก่
- Volkswagen Group
- Toyota
- Renault-Nissan
- GM
- Hyundai-Kia
- Ford
- Honda
- Fiat Chrysler Automobiles
- Suzuki
- PSA Group
- Daimler
- BMW Group
- Geely
- Mazda
- Chang’an
- Subaru
- Tata Group
- Dongfeng
- Great Wall
- GAC
จากชาร์ตดังกล่าวพบว่า Volkswagen Group สามารถขายรถยนต์ได้ดีในตลาดจีน ซึ่งมีส่วนแบ่งทางตลาดถึง 40% เหมือนจะเป็นเรื่องดี แต่ก็ยังไม่ถึงกับดีมากนัก เพราะ Volkswagen Group กำลังประสบชะตากรรมยอดขายรถในจีนตกลง 1.7% อย่างไรก็ตามทางบริษัทก็สามารถขายรถในกลุ่ม B-Car และ C-Car ได้ดีทั่วโลกพอสมควร
Toyota ยังคงครองตลาดในญี่ปุ่น, ตะวันออกกลางและอาฟริกาอย่างเหนียวแน่น แถมยังมีอัตราการเติบโตที่แรงกว่า Volkswagen Group เนื่องจากมียอดขายเพิ่มขึ้นในตลาดจีน ส่วนในตลาดเอเชีย-แปซิฟิก ที่ Toyota ครองตลาดก็มีอัตราการเติบโตด้วย
Renault-Nissan มียอดขายตามหลัง Toyota แค่เพียง 1,500 คันเท่านั้น และเติบโตพุ่งกระฉูด 10.4% เนื่องจากได้มีการควบรวมกิจการรถยนต์ Mitsubishi Motors เข้าไว้ด้วยกัน เหตุผลสำคัญที่ทำให้เติบโตขึ้นรวดเร็วก็เพราะ Nissan มียอดขายในตลาดจีนเพิ่มขึ้น และทั้ง Renault-Nissan ต่างก็มี SUV ขายดีหลายรุ่นจนถือเป็นกลุ่มผู้นำตลาด SUV ของโลก
ยอดขาย แบ่งตามค่ายรถยนต์ (ไม่รวมกลุ่มบริษัท)
แต่ถ้ามาจำแนกยอดขายรถยนต์นั่งและรถเพื่อการพาณิชย์ ประจำไตรมาสแรกของปี 2017 ตามแต่ละแบรนด์ก็พบว่ามีอันดับที่น่าสนใจพอสมควรดังนี้
- Toyota
- Volkswagen
- Ford
- Nissan
- Honda
- Hyundai
- Chevrolet
- Suzuki
- Mercedes-Benz
- Kia
- Renault
- BMW
- Audi
- Peugeot
- Fiat
- Mazda
- Buick
- Jeep
- Opel/Vauxhall
- Skoda
ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติม ลูกค้าทั่วโลกต่างหันมานิยมรถ SUV ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2017 มากถึง 6.5 ล้านคัน เติบโต 14.8%
ที่มา : JATO