กลับมาอีกครั้งกับการแข่งขันรายการใหญ่ ADAC Zurich 24h-Rennen Nurburgring 2017 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 28 พฤษภาคม 2560 ที่สนาม Nurburgring ประเทศเยอรมนี ในปีนี้ Toyota Team Thailand มาในนาม Toyota Gazoo Racing Team Thailand ร่วมกับ Toyata Gazoo Racing จากประเทศญี่ปุ่น พร้อมส่งนักแข่งสัญชาติญี่ปุ่นมาร่วมทีม และส่ง New Toyota Corolla Altis Esport ลงแข่งจำนวน 2 คันเช่นเดิม โดยเข้าแข่งขันในรุ่น Super Production 3 (SP3) ผลการแข่งในปีที่แล้ว (2016) ถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างมาก ได้อันดับที่ 2 และ อันดับที่ 4 อ่านได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/toyota-team-thailand-2nd-rank-in-sp3-adac2016/
การแข่งขันในปี 2017 นี้ รายการ ADAC 24h มีรถแข่งเข้าร่วมทุกรุ่น รวมทั้งสิ้น 157 คัน แบ่งออกเป็น Class ต่างๆ 20 กลุ่ม ดังนี้
– AT
– CUP3
– CUP5
– SP10
– SP2T
– SP3
– SP3T
– SP5
– SP6
– SP7
– SP8
– SP9
– SP9-L
– SP-X
– TCR
– V3
– V4
– V5
– V6
– V2T
Toyota Corolla Altis อยู่ในกลุ่ม SP3 หรือชื่อเต็มคือ Super Production 3โดยจำกัดพิกัดขนาดเครื่องยนต์เอาไว้ที่ 1.8 – 2.0 ลิตร (1,800-2,000 ซีซี.) มีผู้เข้าร่วมในกลุ่ม SP3 นี้ทั้งหมด 15 คัน เป็นรถรุ่นต่างๆดังนี้
– Toyota GT86 จำนวน 3 คัน
– Renault Clio RS Cup จำนวน 2 คัน
– Renault Clio จำนวน 3 คัน
– Renault Clio III จำนวน 1 คัน
– VW Golf 3 16V จำนวน 1 คัน
– Opel Calibra จำนวน 1 คัน
– Opel Calibra TJ-R จำนวน 1 คัน
– Opel Manta จำนวน 1 คัน
– Toyota Corolla Altis ESport จำนวน 2 คัน
ในรถ Toyota Corolla Altis ESport ที่ใช้ในการแข่งขันทั้งสองคันเป็นรถ Production Car ที่ผลิตในสายการผลิตในประเทศ ใช้เครื่องยนต์ ขนาด 1.8 ลิตร 1,800 ซีซี. และ มีการปรับแต่งให้ผ่านมาตรฐาน ด้านความปลอดภัย รวมถึงมีการโมดิฟายเครื่องยนต์ให้แรงขึ้น ในกรอบกติกาของการแข่งขัน
รถแต่ละคันมีนักแข่งจำนวน 4 คน สลับหมุนเวียนกันขับตลอด 24 ชั่วโมง โดยในรถToyota New Corolla Altis Esport หมายเลข 123 ขับโดย
– คุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ (อาร์โต้)
– คุณณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ (วัว)
– คุณณัฐพงษ์ ห่อทองคำ (แมน)
– คุณมานัต กุละปาลานนท์ (ต้น)
ส่วนในรถหมายเลข 124 ขับโดย
– คุณอาทิตย์ เรืองสมบูรณ์ (หลุยส์)
– คุณเฉิน เจี้ยน หงษ์ (อาหงษ์)
– คุณกรัณฑ์ ศุภพงษ์ (จั้ม)
– คุณทากายูกิ คิโนชิตะ (นักแข่งจากประเทศญี่ปุ่น)
โดยก่อนวันแข่งจริงในวันที่ 23-24 เมษายน 2017 จะมีการแข่งขันในรอบ Qualify Race ของ ADAC Zurich 24h-Rennen Nurburgring 2017 ใช้เส้นทางวิ่งความยาวสนาม Nordschleife 20.832 กิโลเมตร และ GP Track 5.148 กิโลเมตร รวมความยาวสนามต่อ 1 รอบรวม 25.98 กิโลเมตร กว่า 73 โค้ง Toyota Gazoo Racing Team Thailand ทำเวลารอบดีที่สุด 9:58.613 นาที เข้าเส้นเป็นอันดับที่ 1 ในรุ่น SP3 และได้อันดับที่ 59 ของรถที่ร่วมเข้าแข่งทั้งหมด โดยวิ่งได้ 33 รอบ ในเวลา 6 ชั่วโมง อ่านได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/toyota-team-thailand-altis-qualify-adac-2017/
ในวันที่จับเวลาเพื่อหาตำแหน่งการออกตัวในวันแข่งจริง Co-Position ของรถToyota New Corolla Altis Esport คันหมายเลข 123 ได้ลับดับที่ 115 ส่วนหมายเลข 124 ได้ลำดับที่ 131 จากรถทั้งหมด 157 คัน คุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้จัดการทีม Toyota Gazoo Racing Team Thailand ได้ให้สัมภาษณ์ กับทางผู้สื่อข่าวว่าปีนี้เรามีประสบการณ์มากขึ้น จากการร่วมการแข่งรายการ ADAC Zurich 24h-Rennen Nurburgring มากว่า 3 ครั้ง ทีมจึงมีพร้อมและเรามีการปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าปีก่อนเพื่อหวังจะขึ้นอันดับที่ 1ให้ได้ ด้วยประสบการณ์ของนักแข่งและทีมงาน ปีนี้เราจึงคาดหวังตำแหน่งที่ดีขึ้น แต่เราก็ไม่ประมาทคู่แข่งเช่นกัน จนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม 2017 เวลา 15.30 น. รถในสนามกว่า 157 คันจอดเรียงราย ณ จุดปล่อยตัว
เริ่มการแข่งขันรถ Toyota New Corolla Altis Esport ทั้งสองคัน วิ่งเกาะกลุ่มผู้นำได้อย่างไม่มีปัญหา ผ่าน 2 ชั่วโมงแรก สิ่งที่ดูจะเป็นอุปสรรคในการแข่งขันครั้งนี้ ก็เริ่มส่งผลกระทบ สนาม Nurburing กับอากาศที่ร้อนเกินความคาดหมาย อุณหภูมิสูงที่สุดในรอบ 16 ปี ทำให้รถหลายคันประสบปัญหา และเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับยางรถยนต์อย่างต่อเนื่อง
และ แล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับทีม Toyota Gazoo Racing Team Thailand ก็เกิดขึ้น รถเริ่มมีปัญหากับระบบบังคับเลี้ยว และ ระบบส่งกำลัง ต้องเข้า Pit เพื่อทำการซ่อมแซม แล้วส่งรถกลับไปวิ่งในสนามต่อ
พระอาทิตย์ตกดิน รถทั้งสองคันก็ยังสามารถวิ่งในสนามขับเคี่ยวกับคู่แข่งชั่วโมงแล้ว ชั่วโมงเล่า มีการเข้ามาซ่อม เปลี่ยนยางเป็นระยะ และเสียเวลาในการเข้า PIT พอสมควร และ เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นก็แผดเผานรกสีเขียว สนาม Nurburgring แห่งนี้ ให้อุณหภูมิสูงถึง 32 องศา (ความเปลี่ยนแปลงเมื่ออากาศเย็นตอนกลางคืน และ อากาศร้อนตอนกลางวันสูงมาก) เป็นเหตุให้มีรถจำนวนมากไม่จบการแข่งขัน เกิดอุบัติเหตุเป็นระยะไม่ขาดสายเนื่องจากยางรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันทนต่อสภาพอากาศไม่ไหว
ส่วนนักขับของ Toyota Gazoo Racing Team Thailand ทั้ง 2 คัน ก็ประคับประคอง แล้ววิ่งเก็บรอบในสนามโดยไม่มีอุบัติเหตุ ในช่วงหนึ่งชั่วโมงสุดท้าย สภาพอากาศที่เลวร้ายก็แผลงฤทธิ์อีกครั้ง เทฝนห่าใหญ่ลงมาในด้านหลังของสนาม บางคันคาดการณ์ตัดสินใจเปลี่ยนยางก่อน ทำให้วิ่งได้อย่างราบรื่น บางคันเข้าเปลี่ยนไม่ทัน ต้องเจอกับถนนที่ลื่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากถนนที่เปียกก็ไม่น้อย ทำให้แต่ละทีมเสียเวลากันพอสมควร บางคันก็ต้องออกจากการแข่งขันไปเลยก็มี
แต่ทีม Toyota Gazoo Racing Team Thailand ตัดสินใจเข้าเปลี่ยนจากยางสลิค เป็นยางสำหรับถนนเปียกได้ทันเวลา จนนาทีสุดท้าย Toyota Corolla Altis Esport ทั้ง 2 คัน ก็วิ่งเข้าผ่านธงหมากรุกเข้าเส้นชัยได้เป็นที่สำเร็จ ถึงแม้จะจบไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็ตาม
ผลสรุปจากการแข่งขัน ADAC Zurich 24h-Rennen Nurburgring 2017
Toyota Corolla Altis ESport รถหมายเลข 123
วิ่งจำนวนรอบสนามได้ 95 รอบ ได้อันดับที่ 8 ของรุ่น SP3 จากทั้งหมด 15 คัน
และ อันดับที่ 115 ของรายการจากทั้งหมด 157 คัน
Toyota Corolla Altis ESport หมายเลข 124
วิ่งจำนวนรอบสนามได้ 94 รอบ ได้อันดับที่ 9 ของรุ่น SP3 จากทั้งหมด 15 คัน
และ อันดับที่ 116 ของรายการจากทั้งหมด 157 คัน
โดยอันดับของกลุ่ม SP3 มีดังนี้
อันดับที่ 1 Renault Clio RS Cup Avia Rac หมายเลข 131
อันดับที่ 2 Renault Clio Cup หมายเลข 128
อันดับที่ 3 Toyota GT86 หมายเลข 132
อันดับที่ 4 Renault Clio RS หมายเลข 129
อันดับที่ 5 Renault Clio RS Cup หมายเลข 118
อันดับที่ 6 VW Golf 3 16V หมายเลข 120
อันดับที่ 7 Renault Clio Cup III 9 หมายเลข 125
อันดับที่ 8 Toyota Corolla Altis หมายเลข 123
อันดับที่ 9 Toyota Corolla Altis หมายเลข 124
อันดับที่ 10 Opel Calibra หมายเลข 117
อันดับที่ 11 Opel Calibra TJ-R หมายเลข 116
อันดับที่ 12 Renault Clio Cup หมายเลข 127
อันดับที่ 13 Toyota GT86 หมายเลข 126
อันดับที่ 14 Toyota GT86 หมายเลข 130
อันดับที่ 15 Opel Manta หมายเลข 122
หลังจบการแข่งขัน คุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้จัดการทีม Toyota Gazoo Racing Team Thailand ได้เปิดใจว่า “ปัญหาหลักของการแข่งครั้งนี้ คือชุดเพลาขับเคลื่อน ในปีนี้เราได้มีการปรับแต่งเครื่องยนต์ตัวนี้ให้มีความแรงมากขึ้น แต่ชุดเพลายังไม่แข็งแรงพอที่จะรับความแรงของเครื่องขับด้วยระยะทางเป็นเวลานานๆ จึงส่งผลให้รถ ต้องเข้ามาเปลี่ยนเพลาและเสียเวลานานในการซ่อมแซม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวเครื่องยนต์สามารถทนต่อการแข่งขันได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
รายการ ADAC Zurich 24h-Rennen Nurburgring ประจำปี 2017 นี้ ถือว่าเป็นปีที่มีรถแข่งอุบัติเหตุมากที่สุด ตั้งแต่เคยร่วมเข้าแข่งขันมา แต่ฝีมือนักแข่งและทีมงานก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคและแรงกดดันจนวิ่งครบการแข่งขัน 24 ชั่วโมงได้ โดยไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ” เราได้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในปีนี้แล้วจะแก้ไขและกลับมาใหม่ในปีหน้า ” ต้องติดตามร่วมลุ้น และ เชียร์ทีมคนไทยหนึ่งเดียวของรายการ ADAC Zurich 24h-Rennen Nurburgring ในปีต่อๆไปครับ
PHOTO by Sirisak Setpattanachai
PHOTO by อาคม รวมสุวรรณ via Thairath Online
PHOTO by Toyota Gazoo Racing Team Thailand
ชม Highlights การแข่งขันรายการ ADAC Zurich 24h-Rennen Nurburgring 2017 ได้ที่ Video Clip ด้านล่างนี้