ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เราได้รายงานไปว่า GM อาจหยุดจำหน่าย Chevrolet ที่ประเทศอินเดีย และจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม บัดนี้พวกเขาได้ประกาศแล้วว่าจะหยุดดำเนินธุรกิจในอินเดีย ทั้งยังมีแผนที่จะหยุดดำเนินการในแอฟริกาใต้ และแอฟริกาตะวันออก รวมไปถึงลดจำนวนพนักงานสิงคโปร์อีกด้วย
มาเริ่มต้นกับประเทศอินเดียก่อนที่ GM ระบุว่าจะหยุดจำหน่าย Chevrolet เนื่องจากพวกเขามีส่วนแบ่งทางการตลาดต่ำกว่า 1% ณ วันที่ 31 มีนาคม ทั้งที่ตลาดรถยนต์ในอินเดียเติบโตไม่หยุดจนแตะระดับ 3 ล้านคันแล้ว นอกจากนี้ ประเทศอินเดียยังเตรียมบังคับใช้ มาตรฐานทดสอบการชนเป็นครั้งแรกในปีนี้อีกด้วย ซึ่งนั่นหมายถึงการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิต เพื่อทำให้รถยนต์ผ่านมาตรฐาน
อย่างไรก็ตามโรงงาน Talegaon ผลิตรถยนต์ Chevrolet ในประเทศอินเดียซึ่งมีกำลังผลิตสูงสุด 165,000 คันต่อปี จะยังคงผลิตรถยนต์ต่อไปเพื่อส่งออกไปยังเม็กซิโก, อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ส่วนโรงงาน Halol อีกแห่งของ GM ซึ่งตั้งอยู่ในอินเดียเช่นกันจะถูกขายต่อให้กับหุ้นส่วนสัญชาติจีนอย่าง SAIC
สำหรับการหยุดดำเนินการธุรกิจในแอฟริกาใต้ของ GM จะเป็นการขายต่อโรงงาน Struandale ที่ผลิตกระบะและ Chevrolet Spark ให้กับ Isuzu ทั้งยังขายหุ้น 30% ของรถบรรทุก Isuzu ที่ GM ถืออยู่ไปด้วย ส่วน Cruze, Captiva และ Trailbrazer จะไม่ถูกนำเข้ามาจำหน่ายอีกต่อไป
อันที่จริง GM นำ Opel มาจำหน่ายที่แอฟริกาใต้ 5 รุ่นด้วยกัน แต่ทั้งหมดจะยังคงออกจำหน่ายอยู่ โดยที่มีรายงานว่าอยู่ระหว่างการเจรจาขายต่อให้กับ PSA Peugeot Citroen และดูเหมือนว่าจะตกลงซื้อทั้ง Opel และ Vauxhall ไปเรียบร้อยแล้ว
ในตอนนี้ website ของ GM ทั้งในอินเดียและแอฟริกาใต้ต่างให้รายละเอียดการหยุดดำเนินธุรกิจ พร้อมแจ้งว่าจะเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายในอินเดีย เป็นศูนย์บริการอย่างเป็นทางการโดยที่ไม่ได้ระบุว่าจะเหลืออยู่กี่แห่ง ส่วนในแอฟริกาใต้จะลดตัวแทนจำหน่าย Chevrolet และ Opel ลงจาก 137 แห่งเหลือ “ประมาณ 90 แห่ง” โดยที่จะเปลี่ยนไปขายรถบรรทุกเล็ก Isuzu แทน แต่ยังมีการให้บริการหลังการขายเช่นเคย
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยจาก GM ด้วยว่าจะออกจากแอฟริกาตะวันออก พร้อมขายหุ้นทั้งหมดที่ GM มีอยู่ในเคนย่าจำนวน 57.7% ให้กับ Isuzu ทั้งยังมีแผนลดจำนวนพนักงานในสำนักงานใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ของ GM ด้าน International Operation ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบตลาดในอเมริกาใต้และจีนด้วย ทั้งนี้ทางการยังไม่ระบุว่าจะลดลงพนักงานเป็นจำนวนเท่าใด
มาตรการเหล่านี้คาดว่าจะช่วย GM ประหยัดเงินไปได้อีก 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี (ราว 3,432 ล้านบาท) ซึ่ง Mary Barra ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ GM ระบุว่าบริษัทอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนแผน ด้วยการหันไปเจาะจงตลาดที่เหมาะสมมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลกำไรไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ GM จะนำมาตรการอะไรมาใช้ในลำดับถัดไป ยังเป็นสิ่งที่เราต้องติดตามต่อไป
ที่มา: motortrend, caranddriver