แรกเริ่มเดิมที Nissan วางแผนเปิดตัวรถยนต์ขุมพลัง e-Power รถไฟฟ้าชนิดขยายระยะทางด้วยเครื่องยนต์ขนาดเล็กปั่นกำลังไฟฟ้าเพิ่มเติมทำตลาดในญี่ปุ่นช่วงแรกไปก่อน และยังไม่มีวี่แววที่จะกระจายไปยังตลาดโลก (นอกจากยุโรปที่ได้ยินว่าอาจจะแนะนำ Nissan Juke e-Power) เนื่องจาก Nissan เองยังไม่แน่ใจผลตอบรับของขุมพลังใหม่ล่าสุดนี้เลย
แต่ทันทีที่ Nissan แนะนำ Note e-Power ช่วงปลายปี 2016 ก็ทำให้ Nissan สามารถพลิกประวัติศาสตร์ใหม่ให้กลับมาเป็นที่น่าจดจำอีกครั้งเมื่อขุมพลัง e-Power ส่งผลให้ยอดขาย Nissan Note Minorchange กลับมาขึ้นอันดับ 1 ในเดือนพฤศจิกายนปี 2016, เดือนมกราคมและเดือนมีนาคม 2017 อย่างน่ามหัศจรรย์ ถือเป็นการกลับมีรถยอดนิยมอันดับ 1 ของ Nissan ในตลาดญี่ปุ่นอีกครั้งในรอบ 30 ปี!!
สาเหตุส่วนหนึ่งที่ Nissan ยังไม่มั่นใจว่าขุมพลัง e-Power จะต่อกรกับรถยนต์ Toyota Hybrid ได้เนื่องจาก Toyota Hybrid มีรายละเอียดงานวิศวกรรมและความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่ลูกค้าทั่วโลกให้การยอมรับมาก ชนิดที่คู่แข่งรายอื่นตีเท่าไรก็ไม่สำเร็จเสียที
เมื่อผลลัพธ์สามารถออกมาสู้ยอดขาย Toyota Prius และ Aqua ได้ Nissan จึงพิจารณานำเทคโนโลยีขุมพลัง e-Power จำหน่ายในตลาดหลักทั่วโลกเพื่อซ้ำรอยความสำเร็จเดียวกับตลาดญี่ปุ่นซึ่ง Daniele Schillaci รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดและการขายกล่าว่า Nissan กำลังมุ่งหน้ารถยนต์ที่ติดตั้งขุมพลังไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่รถไฟฟ้าแบตเตอรี่เท่านั้น แต่หมายถึง e-Power ด้วย
หลักการทำงานของ Nissan Note e-Power คือ ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีพละกำลังสูงแบบเดียวกับรถไฟฟ้า EV โดยนำเทคโนโลยีรถไฟฟ้าจาก Nissan Leaf มาประยุกต์กับเครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปที่ไม่เชื่อมต่อกับล้อ เครื่องยนต์ใช้สำหรับปั่นไฟฟ้าลงสู่แบตเตอรี่ แตกต่างจากรถ Hybrid ทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์ส่งพละกำลังลงสู่ล้อด้วย
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ (เครื่องยนต์ไม่มีหน้าที่ขับเคลื่อนส่งพละกำลังลงสู่ล้อ)
เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานให้มอเตอร์ไฟฟ้า EM57 High Power พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 3,008 – 10,000 รอบ/นาทีแรงบิดสูงสุด 254 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,008 รอบ/นาที
สิ่งที่แตกต่างจาก Chevrolet Volt คือ Nissan Note e-Power ไม่ได้ติดตั้งปลั๊กสำหรับชาร์จประจุไฟฟ้า อาศัยแค่เครื่องยนต์สันดาปภายในปั่นพลังงานเท่านั้น
แหล่งข่าวจาก Automotive News ระบุว่า Nissan Note e-Power มีจุดด้อยด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ประหยัดน้ำมัน 32.7 กิโลเมตรต่อลิตรเมื่อเทียบกับ Toyota Prius โฉมใหม่ที่ประหยัดน้ำมันมากถึง 40 กิโลเมตรต่อลิตร และ Toyota Prius Plug-in Hybrid (Prius Prime) ที่ประหยัดน้ำมัน 37 กิโลเมตรต่อลิตร ภายใต้สภาวะการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานญี่ปุ่น
แต่ถ้าเมื่อดูข้อมูลจากผู้ผลิตโดยตรงก็พบว่า Nissan Note e-Power มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีที่สุด 37.2 กิโลเมตรต่อลิตรเทียบเท่า Toyota Prius Plug-in และเหนือกว่า Toyota Aqua (Prius C) ที่มีอัตราสิ้นเปลืองดีที่สุด 37 กิโลเมตรต่อลิตร
Schillaci ไม่ได้ระบุว่าขุมพลัง e-Power สำหรับตลาดโลกจะเป็นเช่นไร แต่เขาก็มั่นใจว่าจุดขายของขุมพลัง e-Power จะไม่หล่นหายไประหว่างทาง เพราะโดยธรรมชาติของผู้ประกอบการที่มองเห็นว่าเทคโนโลยีนี้มันทำตลาดสำเร็จ ก็ย่อมจะหาตลาดใหม่เพื่อขยายความสำเร็จเช่นกัน
ที่มา : Automotive News