ความฝันของ Carlos Ghosn ที่ต้องการให้กลุ่มพันธมิตรทางยานยนต์ Renault-Nissan
Alliance มียอดผลิตหรือยอดขายที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกกำลังจะเป็นจริงเพียงแค่กระ
พริบตาเท่านั้น เพราะในวันนี้ GM ก็ถอดใจกับธุรกิจรถยนต์ Opel/Vauxhall ที่ไม่ทำเงินไปแล้ว
ประกอบกับกลุ่มพันธมิตรเพิ่งได้ Mitsubishi Motors มาอยู่ร่วมเป็นเพื่อน
Forbes ได้เผยตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ทั่วโลกประจำเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2017
เบื้องต้นพบว่า Toyota (ยอดผลิตรวมแบรนด์ Daihatsu และ Hino) สามารถกลับมาครอง
บัลลังก์ยอดผลิตอันดับ 1 ได้อีกครั้งถึง 1,714,227 เติบโต 9.4% ซึ่งผู้สื่อข่าวชี้ให้เห็นว่าตลาด
อาเซียนกำลังเริ่มมีความแข็งแกร่งขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
Volkswagen Group ได้รับผลกระทบยอดขายรถยนต์ในจีนหดตัวลงเกือบ 10% มากที่สุด
ถึงแม้ตลาดยุโรปและอเมริกายังแข็งแกร่งอยู่ แต่ก็ไม่อาจชดเชยยอดขายที่หดตัวลงในจีนได้
ปัญหาใหญ่หลวงคือยอดขายรถยนต์แบรนด์ทำเงิน Audi ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้หดตัว
ลงถึง 7.7% เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทแม่ต้องควานหารบริษัทร่วมทุนรายใหม่นาม SAIC
เพื่อร่วมกันขายรถยนต์ Audi ในจีน โดยแบ่งแยกโชว์รูมต่างหากจากบริษัทร่วมทุน FAW
และที่น่าแปลกใจ Renault-Nissan กลับมียอดผลิตสองเดือนแรกของปีนี้มาวินเป็นอันดับ 2
ของโลก เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ได้อันดับ 4 ของโลกด้วยยอดผลิต 1,626,562 คัน แบ่งออกเป็น
Nissan 922,312 คัน Renault 507,123 คัน (รวม Dacia และ AvtoVaz) และ Mitsubishi
197,127 คัน
สำหรับ GM นั้นยังไม่มีการส่งยอดผลิตประจำ 2 เดือนแรกของปีนี้ แต่ GM จะส่งยอดผลิต
ประจำไตรมาสแทน เนื่องจาก GM เพิ่งขายธุรกิจ Opel/Vauxhall ให้แก่ PSA Group ไปได้ไม่นานนัก
ที่มา : Forbes