Isuzu D-Max ได้ออกจำหน่ายในประเทศอังกฤษมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงถึงเวลา
ที่จะปรับโฉมเป็นรุ่น Minorchange ตามหลังประเทศไทย ที่มีการปรับปรุงรูปลักษณ์ทั้ง
ภายนอกและภายใน พร้อมกับนำเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.9 ลิตรมาใช้ ซึ่งเมื่อเทียบกับ
รุ่นที่ออกจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว พบว่าไม่ต่างกันมากนักเพราะมีเพียงเรื่องไฟท้าย,
หน้าจอ, เบาะ และ พละกำลังของเครื่องยนต์เท่านั้น

Isuzu D-Max เวอร์ชั่นอังกฤษ มีตัวถังให้เลือกด้วยกัน 3 แบบทั้งตอนเดียว Single Cab, มีแค็บ
Extended Cab และ 4 ประตู Double Cab พร้อมตัวเลือกระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง (เฉพาะตัวถัง
ตอนเดียวรุ่นเริ่มต้นเท่านั้น) และ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมระบบ Shift-On-The-Fly สำหรับ
รุ่นย่อย ในแต่ละตัวถังแบ่งออก เป็น 5 ตัวเลือก มีอุปกรณ์แตกต่างกันออกไป ดังรายละเอียดต่อไปนี้

– Utility ภายนอกมาพร้อมกับไฟหน้า LED DRL ส่วนภายในมีกระจกไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศ
และ ระบบเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ส่วนความปลอดภัยมีทั้งระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน และ
ระบบควบคุมความเร็วระหว่างลงทางลาดชัน

โดยที่รุ่น Utility มีให้เลือกครบทุกตัวถัง และมีตัวถังตอนเดียว Single Cab รุ่นเดียวที่ใช้ระบบ
ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่วนตัวถังอื่นๆ มากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

– Eiger ภายนอกเพิ่มล้อขนาด 16 นิ้วพร้อมกันชนสีเดียวกับตัวถัง ภายในมากับเครื่องเล่นซีดี
พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง ปิดท้ายในเรื่องของความปลอดภัยด้วยกล้องมองหลัง ในรุ่นนี้มีแต่
ตัวถัง 4 ประตู Double Cab เลือกได้เพียงเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น

– Yukon มากับล้อขนาด 18 นิ้ว, บันไดข้างสีเทา, พื้นปูกระบะ และไฟท้าย LED สำหรับภายนอก
ภายในเพิ่มพวงมาลัยหุ้มหนัง, หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วและ ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ Cruise
Control ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 20,499 ปอนด์ (ราว 883,000 บาท) รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งตัวถังมีแค็บ
Extended Cab และ 4 ประตู Double Cab ทั้งยังเลือกระบบส่งกำลังว่าได้ทั้งเกียร์ธรรมดา และ
เกียร์อัตโนมัติ

– Utah เพิ่มราวหลังคามาให้สำหรับภายนอก ภายในเสริมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, เบาะหนัง,
Push Start พร้อม Keyless Entry, เครื่องเสียงพร้อมระบบ Android Auto + Apple CarPlay,
และระบบนำทางผ่านดาวเทียม ส่วนสิ่งที่เสริมมาให้ในเรื่องของความปลอดภัยคือ เซนเซอร์หลัง
มีเพียงตัวถัง 4 ประตู Double Cab เท่านั้น เลือกได้เพียงเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติ

– Blade เสริมสปอร์ตบาร์, กระจกสีชา และไฟส่องพื้นให้สำหรับภายนอก ทั้งยังมีรีโมทล็อค
ฝาท้าย ภายในเพิ่มหน้าจอขนาด 9 นิ้วมาให้ ปิดท้ายด้วยเซนเซอร์หน้า-หลัง ส่วนราคาเริ่มต้น
อยู่ที่ 26,999 ปอนด์ (ราว 1,164,000 บาท) ในรุ่นนี้มีแต่ตัวถัง 4 ประตู Double Cab เลือกได้
เพียงเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น

ขุมพลังของ Isuzu D-Max เวอร์ชั่นอังกฤษ เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 1.9 ลิตร เทอร์โบ
ให้กำลังสูงสุด 164 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 36.70 กก-ม.
(360 นิวตันเมตร) ที่ 2,000 – 2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

[ขุมพลัง Isuzu D-Max บ้านเรา ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 35.69 กก-ม. (350 นิวตันเมตร) ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที ส่งกำลัง
ลงพื้นผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ]
*แรงบิดของเวอร์ชั่นไทย มาในรอบที่ต่ำและกว้างกว่า

อุปกรณ์ความปลอดภัยที่ติดตั้งมาให้ใน Isuzu D-Max เวอร์ชั่นอังกฤษ มีทั้งระบบเบรก
ABS-EBD-BA, ระบบช่วยการทรงตัว ESC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ถุงลมนิรภัย 6 จุด
(ด้านหน้า, ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย), ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน Hill Start Assist
และ ระบบควบคุมความเร็วระหว่างลงทางลาดชัน Variable Hill Descent Control

ปิดท้ายในเรื่องของการรับประกันที่ Isuzu D-Max ขึ้นชื่อว่าเป็นรถกระบะคันแรก ที่มีการ
รับประกันยาวนานที่สุดในเกาะอังกฤษเป็นระยะเวลานาน 5 ปีหรือ 125,000 ไมล์
(ราว 201,000 กิโลเมตร) ฟรีค่าแรงเช็คระยะทาง 24 เดือน หรือ 12,000 ไมล์
(ราว 19,000 กิโลเมตร) พร้อมให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี, รับประกันสีตัวถัง 3 ปี
และ ประกันสนิมอีก 6 ปี

ที่มา: carscoops, netcarshow