ในปัจจุบัน Nissan GT-R ที่ออกจำหน่ายในสหรัฐฯ มีช่องว่างระหว่างรุ่น Premium และ
Nismo อยู่เป็นเหตุให้มีการพัฒนา 2017 Nissan GT-R Track Edition ขึ้นมาเติมเต็ม
ช่องว่างนี้ ไว้ให้เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้า Nissan GT-R ที่อยากได้รุ่นที่สปอร์ตขึ้น
จากรุ่นปกติ แต่อาจจะมองว่า GT-R NISMO แรงเกินไป
ภายนอกของ Nissan GT-R Track Edition หยิบยืมชิ้นส่วนตัวถังของ GT-R Nismo มา
หลายชิ้นส่วน ทั้งบังโคลนคู่หน้า, กันชนหน้า-หลัง, สปอยเลอร์หลังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์
และ ล้ออลูมิเนียมอัลลอยขนาด 20 นิ้ว ลาย Nismo 6 ก้าน พร้อมยาง Dunlop Sport Maxx
GT600 ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก 5 สี ประกอบไปด้วย สีแดง Solid Red, สีดำ Jet Black, สีเงิน
Super Silver, สีขาว White Pearl และสีส้ม Blaze Metallic
ภายในเปลี่ยนโทนสีการตกแต่งภายในมาเป็นสีดำ-แดง แทน ทั้งยังตกแต่งแดชบอร์ดกลาง
ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมกับเปลี่ยนมาใช้เบาะนั่ง Recaro หุ้มหนัง แบบปรับอุณหภูมิได้
สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ใน 2017 Nissan GT-R Track Edition จะเหมือนกับ GT-R รุ่นธรรมดา
รุ่นปี 2017 ด้วยการลดจำนวนปุ่มกดต่างๆ ลงจาก 27 ปุ่ม ในรุ่นปี 2016 เหลือ 11 ปุ่ม ทำให้
ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
ตัวปุ่มกดต่างๆ ในห้องโดยสารของ 2017 Nissan GT-R Track Edition ยังเปลี่ยนวัสดุ
มาเป็นอลูมิเนียมแท้ๆ อีกด้วย เพื่อให้มีสัมผัสที่ดีกว่า นอกจากนี้ ยังติดตั้ง Paddle Shift
มาให้ด้วย ส่วนเครื่องเสียง มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และระบบนำทาง
ขุมพลังของ 2017 Nissan GT-R Track Edition เป็นเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่
รหัส VR38DETT ร่วมกับ GT-R รุ่นปกติ ให้กำลังสูงสุด 565 แรงม้า (PS) ที่ 6,800 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 64.56 กก-ม. (633 นิวตันเมตร) ที่ 3,300 – 5,800 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์
อัตโนมัติ Dual Clutch 6 จังหวะ ส่งกำลังลงพื้นทั้ง 4 ล้อ
ช่วงล่างของ 2017 Nissan GT-R Track Edition ได้รับการปรับปรุงโดย Nismo ด้วยการเปลี่ยน
มาใช้โช๊คอัพ และสปริงที่ผ่านการออกแบบมาเพื่อรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะจาก Blistein DampTronic
ทั้งยังปรับรูปแบบการขับขี่ได้ 3 ทางเลือก ประกอบไปด้วย Comfort, Normal และ R ซึ่งอย่างหลังสุด
เหมาะสำหรับการใช้ในสนามแข่ง
Anti-Roll Bar หลังใน 2017 Nissan GT-R Track Edition ถูกเปลี่ยนมาใช้แบบที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
โดยมีขนาด 17.3 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นเดิมมีขนาด 15.9 มิลลิเมตร และตัวถังยังผ่านการ Spot เพิ่มจาก
รุ่นธรรมดาให้มีความแข็งแรงยิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับระบบเบรกเป็นของ Brembo โดยใช้คาลิปเปอร์
ขนาด 6 พอตพร้อมจานขนาด 15.35 นิ้วในด้านหน้า และคาลิปเปอร์ขนาด 4 พอตพร้อมจานขนาด
15 นิ้วในด้านหลัง
Nissan GT-R Track Edition มีเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น และไม่มีอุปกรณ์พิเศษใดๆ ให้ตกแต่งเพิ่ม
มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน New York International Auto Show ที่จะจัด
ขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 เมษายนนี้เป็นต้นไป คาดว่าจะพร้อมเริ่มจำหน่ายก่อนเดือนมิถุนายน และ มี
ราคาเริ่มต้นที่ 127,990 ดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 4,405,000 บาท)
ที่มา: nissannews