นานแล้วใช่ไหมที่เราไม่เคยเห็นรถตระกูล 5 จาก Peugeot กันอีกเลยหลังจากที่เห็นแค่ 505 อดีตรถซีดานใหญ่ที่เคยได้รับความนิยมในไทยช่วงยุค 80 มาแล้ว ด้วยคุณงามความดีสารพัดทั้งดีไซน์ที่ดูล้ำสมัยในขณะนั้น ความใหญ่โตของตัวถังและห้องโดยสาร การขับขี่คุณภาพสูงที่สำคัญทำราคาได้ไม่แพ้รถญี่ปุ่น ยิ่งได้เปรียบเข้าไปใหญ่ ตอนนั้นค่านิยมรถยุโรปเหนือชั้นกว่ารถญี่ปุ่นมากมายยิ่งนัก

ถึงแม้ความนิยม 505 ยังคงมีอยู่แต่ด้วยกลยุทธ์ของ Peugeot ขณะนั้นต้องการให้ตระกูล 4 ขยายขนาดตัวถังขึ้นรับหน้าที่ต่อกรตลาด D-segment ด้วยรุ่น 405 และให้ตระกูล 6 รับหน้าที่ทำตลาดซีดานขนาดใหญ่ด้วยรุ่น 605 ทำให้ที่ยืนของตระกูล 5 ต้องสิ้นสุดลงไม่มี 506 ซึ่งน่าจะเป็นรุ่นต่อ 505 อีกต่อไป

ถ้าหากการกลับมาตระกูล 5 ไม่ใช่รถซีดานที่ทุก ๆ คนเคยประทับใจแต่กลับตาลปัตรเป็นมินิแวนคอมแพคท์ระดับเดียวกับ Opel Zafira,Toyota Wish คุณคิดอย่างไรกับมัน?

ในเมื่อตระกูล 4 และ 6 ยังทำหน้าที่ของมันได้ดีก็ไม่จำเป็นต้องมีมัน แล้วเหตุอันใดถึงเอาเลข 5 ปัดฝุ่นขึ้นมา
ก็เพราะว่า Peugeot จำเป็นต้องแตกไลน์รถไปยังประเภทอื่น ๆ ตามความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายไม่ได้เป็นแค่รถซีดานและแฮทช์แบคเหมือนในอดีต เมื่อจำเป็นต้องทำตามกระแสและอนุกรมรุ่นก็ถูกจำกัดอย่างมากด้วยตัวเลขแค่ 3 หลักสำหรับรถเก๋ง ตัวเลข 4 หลักสำหรับรถอเนกประสงค์

เมื่อเป็นรถมินิแวนคอมแพคท์อเนกประสงค์ก็จะต้องขึ้นต้นด้วยเลข 3 ก่อนและต้องเป็นเลข 4 หลักก็คำนวณได้ว่าจะต้องเป็น 3008 แต่

3008 คือรถครอสโอเวอร์ที่ท้าชน Nissan Qashqai และ Ford Fuga เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว จะใช้ชื่อซ้ำไม่ได้เป็นอันขาด

ก็ไม่ทราบเหตุผลกลใดเหมือนกันที่เลือกข้ามสเตปไปตระกูล 5 เลย กลายเป็น 5008 แทน ทำให้ปิดฉากตำนานซีดานเลข 5 อย่างถาวร

จะเหตุผลกลใดที่มิอาจทราบได้แต่รถคันนี้พัฒนาจากพื้นฐาน Citroen C4 Picasso รุ่นฐานล้อยาวซึ่งเป็นมินิแวนระดับคอมแพคท์เช่นกัน พลิกแนวคิดการดัดแปลงมิใช่แค่นำโลโก้มาติดกันง่าย ๆ แต่ลงทุนดัดแปลงตั้งแต่โครงสร้างด้านหน้าจนถึงเสา A แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในสไตล์รถอเนกประสงค์ Peugeot ยุคปัจจุบัน

ขนาดตัวถังไม่แตกต่างจากคู่แข่งนัก ความยาว 4.53 เมตร ความสูง 1.64 เมตร เห็นทรงตัวถังแบบนี้ทำตัวเลขสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานได้ดีเกินคาดเพียง 0.29 เท่านั้น

การออกแบบภายในดีไซน์โดยรวมไม่แตกต่างจาก 3008 มากนักดูค่อนข้างสปอร์ตและน่าจะใช้งานง่ายกว่า C4 Picasso ความโปร่งโล่งห้องโดยสารอยู่ในระดับเฉลี่ยรวม ๆ ไมได้ฉีกจากมาตรฐานอะไรมากมายนัก

เครื่องยนต์มีให้เลือกจุใจมาก ๆ ถึง 6 แบบได้แก่

เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 120 แรงม้า และ 150 แรงม้า
เครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร HDI รุ่น 110 แรงม้าแบ่งเป็นรุ่น 2 รุ่นย่อยตามอัตราสิ้นเปลืองและค่าไอเสียนั่นหมายความว่าถ้าซื้อรุ่นเครื่องที่ไอเสียสะอาดกว่าแม้จ่ายค่ารถแพงกว่าแต่จ่ายค่าภาษีไอเสียน้อยไปด้วย (ขึ้นอยู่กับกฏหมายแต่ละประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปตะวันตก)
เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร HDI 150 และ 165 แรงม้า

รวม ๆ เป็นรถที่ไม่ได้ฉีกแนวแตกต่างจากคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด 
5008 เป็นผู้มาที่หลังในตลาดอาจจะต้องใช้เวลาพิสูจน์ตนเอง
อย่างน้อยความดึงดูดด้านรูปลักษณ์ก็น่าจะเรียกลูกค้าได้ไม่ยาก

คำถามสุดท้ายที่หลายคนต้องถามคือจะนำเข้ามาเมืองไทยหรือไม่
ผู้ตอบคำถามได้คงขึ้นอยู่กับผู้ดูแลแบรนด์ในไทยแล้วล่ะครับ แต่ดูจากแนวโน้มแล้วคงยากมากที่จะสั่ง 5008 มาทำตลาด 3008 ดูมีความเป็นไปได้มากกว่าเพราะสามารถขายความเป็นตัวมันได้ ขณะที่ 5008 มีตัวเปรียบเทียบเยอะแยะไปหมด อย่างน้อยก็ราคารถที่คงแพงกระโดดจากความจริงทำให้ดูไม่คุ้มนัก