มองเผิน ๆ BMW คงจะเป็นบริษัทรถยนต์หรูที่มีความคล่องแคล่วอย่างสง่างาม
มีความสงบเสงี่ยม คงประมาณว่าเป็นหนุ่มหล่อรวย เล่นกล้าม ใจดี มีเมตตาแต่
ท้ายที่สุดแล้ว BMW ก็แอบเผยธาตุแท้อันโหดร้ายเมื่อ Mercedes-Benz บังอาจ
แย่งตำแหน่งเจ้าตลาดรถระดับหรูของโลกเมื่อปี 2016 เป็นการกระตุกหนวดเสือ
ที่ไม่น่าให้อภัยจนทำให้ BMW เลือดร้อนขึ้นหน้าไม่ใช่เล่น
BMW AG ได้วางแผนเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 40 รุ่นอย่างหนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์
เพื่อถล่ม Mercedes-Benz ที่มาแย่งตำแหน่งเจ้าตลาดรถหรูระดับโลกไป อาทิ BMW
X2 ครอสโอเวอร์สปอร์ตที่แทรกกลางระหว่าง X1 และ X3 และ X7 เอสยูวีหรูขั้นสุด
โดยแผนการดังกล่าวอยู่ภายในงบลงทุนถึง 10,800 ล้านดอลลาร์สำหรับการพัฒนา
รถยนต์, เทคโนโลยีที่รวมไปถึงการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ยุครถแท็กซี่ขับขี่ด้วยตนเอง
Harald Krueger ซีอีโอ BMW ก็ยังยืนในงานแถลงประชุมประจำปีว่า พวกเขากำลัง
เปิดตัวรถรุ่นใหม่ดุกร้าวที่สุดเท่าที่เคยมีมา เราได้เริ่มต้นเปลี่ยนแปลง แตกต่างจากสิ่ง
ที่เคยเห็นมาก่อน
สาเหตุที่ทำให้ BMW ต้องมีแผนการเข้มข้นขนาดนี้นอกจากโดน Mercedes-Benz
แย่งแชมป์แล้ว Krueger ต้องรักษาคำมั่นสัญญาที่จะกอบกู้ผลกำไรที่ต่ำลงตลอด 6 ปี
ให้จงได้
ปัจจุบัน BMW 7-Series รถยนต์รุ่นท็อปไม่ประสบความสำเร็จในการเทียบรัศมีกับ
Mercedes-Benz S-Class อย่างที่คาดคิด และเกรงว่า 5-Series จะซ้ำรอยเดิมอีก
อีกทั้ง Krueger ยังดำเนินนโยบายสร้างผลกำไรมากกว่าสร้างยอดขายเพื่อระดมทุน
พัฒนาเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติและรถไฟฟ้าซึ่งจะเตรียมคลอดรถยนต์โปรเจคท์
iNext ภายในปี 2021 นี้
ถ้าเมื่อมีการลงทุนหนักขนาดนั้นแล้วก็มีความเป็นไปได้ว่าผลกำไรในปี 2017 จะผงาด
ขึ้นเล็กน้อย และกำไรมาร์จิ้นจะยังคงอยู่ที่ 8-10% เช่นเคย
ขณะที่ Mercedes-Benz จะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 13 รุ่นภายในปี 2021 อาทิรถรุ่น
เปลี่ยนโฉม GLA, GLC และรถยนต์ที่อุดช่องว่างทางการตลาด
นอกเหนือจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 40 รุ่นของ BMW แล้ว BMW ก็ยังทุ่มเทกับตลาด
ไฮเอนด์เกรดเดียวกับ 7-Series เพื่อเป็นการวางสถานว่า BMW เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
ที่สุดในเซกเมนต์นี้
ที่มา : Bloomberg