ทันทีที่ Mitsubishi Grand Lancer เปิดเผยโฉมอย่างเป็นทางการ ทันใดนั้นกระแสของ
Lancer รุ่นซูเปอร์แซยิดทั่วโลกก็กระหน่ำกันเข้ามา เพราะผู้ที่ติดตามข่าวสารรถยนต์ทราบ
ดีว่า Mitsubishi Lancer รุ่นปัจจุบันจะเตรียมยุติการผลิตในเร็ว ๆ นี้และยังไม่แน่ใจเลยว่า
พวกเราจะได้เห็น Lancer รุ่นใหม่กันไหม?

Mitsubishi Grand Lancer คือการปรับปรุงโฉมของ Lancer รุ่นปัจจุบันเพื่อทดแทน
Lancer iO โดยยกระดับ Lancer รุ่นปัจจุบันให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้นไปอีก

แนวคิดการออกแบบใหม่ของ Mitsubishi Grand Lancer คือการนำความโฉบเฉี่ยวและ
แข็งแกร่ง Dynamic Shield จากเอสยูวีรุ่นปัจจุบันมาประยุกต์ลงในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
เป็นครั้งแรก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Grand Lancer จึงมีใบหน้าคล้าย Pajero Sport
เอามาก ๆ

ความพิเศษอยู่ตรงที่การออกแบบเส้นสายตัวถังด้านข้างที่มีการดีไซน์เป็นเส้นเว้าลึก J-Line
และจุดที่สร้างความแปลกตาในระดับหนึ่งคือการออกแบบแนวกรอบกระจกหน้าต่างประตูหลัง
ที่ดูมีขนาดกะทัดรัดขึ้นและมีเส้นตวัดขึ้นเพื่อให้รับกับเส้นสายตัวถังที่สปอร์ตขึ้น

ด้านหลังถูกออกแบบใหม่จัดชุดใหญ่ไฟ LED พร้อมออกแบบฝากระโปรงท้ายและบั้นท้าย
ใหม่ที่ดูแปลกตากว่ารถคอมแพคท์ทั่วไปมาก ๆ

จุดที่เชิดหน้าชูตาให้แก่ Mitsubishi Grand Lancer มากที่สุดคงหนีไม่พ้นการยกเครื่อง
การออกแบบภายในห้องโดยสารใหม่ที่บอกแค่ครั้งแรกก็รู้เลยว่ามันดูคล้ายกับ Pajero
Sport เอามาก ๆ ดูดีประณีตขึ้นด้วยการใช้วัสดุบุนิ่มบนแผงแดชบอร์ดพร้อมลายตะเข็บ
คล้ายรถระดับหรู

ออกแบบแผงแดชบอร์ดกลางให้ใช้งานง่ายและมีตำแหน่งของหน้าจอสัมผัส, ปุ่มปรับ
อากาศที่ดูใกล้เคียงแผงแดชบอร์ดกลางของรถเอสยูวี

จุดขายสำคัญอยู่ที่แผงมาตรวัดหน้าจอสีดิจิตอลเต็มขั้น SMART ที่มีหลักการทำงาน
คล้ายกับ Audi Virtual Cockpit

และด้วยจุดด้อยของ Mitsubishi Lancer รุ่นปัจจุบันที่มีการเก็บเสียงไม่เป็นที่พึงพอใจ
สำหรับลูกค้าชาวไต้หวัน Mitsubishi จึงเพิ่มวัสดุซับเสียงบริเวณซุ้มล้อทั้งหมด, ผนังห้อง
เครื่องยนต์, อุโมงค์กลาง, บริเวณหลังคาและโครงสร้างเหนือห้องสัมภาระท้าย

อุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มพิกัดคือจุดขายสำคัญของ Mitsubishi Grand Lancer
ด้วยการติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 ใบ, ระบบช่วยเหลือการทรงตัว ASC, ระบบป้องกันการลื่นไถล
TCL, ระบบช่วยออกตัวขณะขึ้นทางชัน HSA, ระบบเปิดไฟเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS
และระบบเตือนป้องกันอุบัติเหตุ เป็นต้น

เครื่องยนต์เบนซิน 4J10 MIVEC SOHC 1.8 ลิตร 140 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิด 17.9 กิโลกรัมเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์ INVECS-III CVT จาก
JATCO มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงถึง 15.7 กิโลเมตรต่อลิตร โดยทาง Mitsubishi
เคลมว่า Grand Lancer จะประหยัดน้ำมันกว่าคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Toyota Corolla
Altis 1.8 ลิตรและ Nissan Sentra 1.8 ลิตร

โดยรวมถือเป็นการปรับปรุงตัวรถบนพื้นฐานของรถรุ่นเดิมจนมีจุดขายเพิ่มขึ้นชัดเจน
จนน่าจะทำให้ลูกค้าชาวไต้หวันพอยอมรับกันได้

ลูกค้าชาวไต้หวันสามารถจับจอง Mitsubishi Grand Lancer ล่วงหน้าได้ประมาณ
อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป และจะสามารถปล่อยรถคันจริงได้ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนเป็นต้นไป

ที่มา : Paultan