หลังจากที่ BMW 3-Series (F30) ผ่านการ LCI (Life Cycle Impulse) หรือ
Minorchange ไปไม่นานนัก ค่ายใบพัดฟ้าขาวได้เปิดตัว BMW 4-Series LCI ตามมา
ซึ่งมีครบทั้ง 3 ตัวถัง รวมไปถึงรุ่นสมรรถนะสูงอย่าง M4 ด้วย โดยที่ความเปลี่ยนแปลง
จะเน้นไปที่ภายนอก และภายใน พร้อมกับปรับปรุงช่วงล่างเล็กน้อย ส่วนเครื่องยนต์
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ภายนอกของ BMW 4-Series มาพร้อมกับกันชนหน้า-หลังทรงใหม่ โดยที่รุ่น Sport และ
Luxury จะตกแต่งช่องดักลมกันชนหน้าด้วยโครเมี่ยม ไฟหน้า Bi-LED พร้อม Corona Ring
แบบใหม่ และ ยังมีไฟตัดหมอกหน้า LED ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมกับเปลี่ยน
ไฟท้ายใหม่
นอกจากนี้ยังมีล้อขนาด 18-19 นิ้ว ลายใหม่หลายลาย ปิดท้ายด้วยสีตัวถังสีใหม่ ประกอบ
ไปด้วยสีฟ้าน้ำเงิน Snapper Rocks Blue และ สีส้มแดง Sunset Orange
ภายในเปลี่ยนวัสดุตกแต่งใหม่ โดยที่หนัง Dakota มีให้เลือก 3 สี ประกอบไปด้วย
Midnight Blue, Cognac และ Ivory White โทนสีวัสดุตกแต่งภายในมีทั้ง Carbon
Aluminum, Light Fineline และ High Gloss Black สำหรับอุปกรณ์ปลีกย่อยที่
แตกต่างจากรุ่นเดิมมีทั้งการเดินด้ายคู่บนแดชบอร์ด, พวงมาลัย 3 ก้านแบบใหม่
และระบบ iDrive Interface ที่ผ่านการ upgrade จนใกล้เคียงกับของ 5-Series G30
ขุมพลังของ 2018 BMW 4-Series ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปัจจุบัน เพราะพึ่ง
ผ่านการปรับปรุงในเดือนมิถุนายนปี 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งรายละเอียดของขุมพลังใน
แต่ละรุ่น มีดังต่อไปนี้
กลุ่มเครื่องยนต์เบนซิน
– 420i
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า (PS)
ที่ 5,000 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 270 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,600 รอบ/นาที
– 430i
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า (PS)
ที่ 5,200 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 270 นิวตันเมตร ที่ 1,450 – 4,800 รอบ/นาที
– 440i
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 324 แรงม้า (PS)
ที่ 5,500 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,380 – 5,000 รอบ/นาที
กลุ่มเครื่องยนต์ดีเซล
– 418d
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS)
ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 320 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 3,000 รอบ/นาที
– 420d
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS)
ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที
– 425d
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 224 แรงม้า (PS)
ที่ 4,400 รอบ/นาที แรงบิด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 3,000 รอบ/นาที
– 430d
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า (PS)
ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 560 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 2,750 รอบ/นาที
– 435d
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า (PS)
ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 630 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที
– M4
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง รหัส N55B30 ขนาด 3.0 ลิตร 2,979 ซีซี.
M TwinPower Turbo Technology with Two Mono-Scroll Turbo
กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 89.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด
10.2 : 1 กำลังสูงสุด 431 แรงม้า ที่ 5,500 – 7,300 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลัง
ผ่านเกียร์ M-DCT Dual Clutch 7 จังหวะ พร้อม Manual Shift Mode
– M4 Competition Package
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง รหัส N55B30 ขนาด 3.0 ลิตร 2,979 ซีซี.
M TwinPower Turbo Technology with Two Mono-Scroll Turbo
กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 89.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด
10.2 : 1 กำลังสูงสุด 450 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด
550 นิวตันเมตร ที่ 1,850 – 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ M-DCT
Dual Clutch 7 จังหวะ พร้อม Manual Shift Mode
– M4 GTS
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง รหัส N55B30 ขนาด 3.0 ลิตร 2,979 ซีซี.
M TwinPower Turbo Technology with Two Mono-Scroll Turbo
กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 89.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด
10.2 : 1 กำลังสูงสุด 500 แรงม้า ที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด
600 นิวตันเมตร ที่ 4,000 – 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ M-DCT
Dual Clutch 7 จังหวะ พร้อม Manual Shift Mode
M4 GTS ใช้ถังพักน้ำความจุ 5 ลิตร สำหรับระบบ Water Injection
ฉีดละอองน้ำเข้าไปในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ก่อนจังหวะจุดระเบิด
ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิของเครื่องยนต์ ส่งผลให้กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น
ระบบส่งกำลังของ BMW 4-Series LCI มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ
เกียร์อัตโนมัติ ZF 8 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
xDrive ยกเว้น M4 ที่มากับเกียร์อัตโนมัติ M Dual Clutch 7 จังหวะ ส่งกำลังผ่าน
ล้อคู่หลังเท่านั้น
ช่วงล่างในตัวถัง Coupe และ Gran Coupe ของ 2018 BMW 4-Series ผ่านการ
ปรับตั้งมาใหม่ให้ขับขี่ได้สปอร์ตยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความนิ่มนวล นอกจากนี้ใน
รุ่นที่สูงกว่า 430i และ 430d ขึ้นไปสามารถสั่งซื้อยางสมรรถนะสูงได้ด้วย
สำหรับกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในงาน Geneva Motor Show
และ ออกจำหน่ายในเดือนเมษายน โดยมีราคาจำหน่ายในประเทศอังกฤษ ดังนี้
รหัสตัวถังของ BMW 4-Series
– BMW 4-Series Coupe LCI (F32)
– BMW 4-Series Convertible LCI (F33)
– BMW M4 Coupe LCI (F82)
– BMW M4 Convertible LCI (F83)
