พักนี้ Nissan ญี่ปุ่นเริ่มเปิดตัวรถรุ่นใหม่ช้ากว่าตลาดโลกนานเป็นปี ทั้ง ๆ Nissan เคยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ครั้งแรกในโลกที่
ญี่ปุ่นเสมอ นั่นเป็นเพราะว่า Nissan เริ่มใช้นโยบายย้ายฐานการผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นจึงทำให้ตลาดญี่ปุ่นได้ใช้
รถรุ่นใหม่ช้ากว่าตลาดโลกพอสมควร

alt

ล่าสุด Nissan ประเทศญี่ปุ่นเพิ่งเปิดตัว All New Nissan Latio ซีดานคอมแพคท์รุ่นใหม่ไร้เงาชื่อ Tiida ให้เห็นเลย
(แสดงว่า Nissan คงจงใจจะลบชื่อ Tiida ออกจากสารบบรถระดับโลกค่อนข้างแน่นอนแล้ว) ตามหลังตลาดโลกถึง 1 ปีกว่า
ซึ่งประเทศไทยเป็นฐานการส่งออกรถยนต์รุ่นนี้ไปยังประเทศญี่ปุ่น (สอดคล้องกับข่าวก่อนหน้านั้นว่า Nissan
ต้องการย้ายไลน์ Latio มาประเทศไทย)

Nissan Latio โฉมใหม่น่าจะเป็นการถอยหลังจากรุ่นเดิมไปครึ่งก้าวเพื่อจับตลาดรถซีดานคอมแพคท์ที่เน้นความคุ้มค่า, มี
ขนาดกะทัดรัด, มีห้องโดยสารที่กว้างขวางและราคาประหยัดซึ่งมันก็ไปในแนวทางการพัฒนาของ Toyota Corolla โฉม
ใหม่เวอร์ชันญี่ปุ่นอยู่บ้าง (แต่ดูเหมือนว่ามาตรฐานของ Toyota Corolla เวอร์ชันญี่ปุ่นจะสูงกว่า Nissan Latio โฉมใหม่
อยู่ไม่น้อย)

รูปร่างหน้าตาเป็นฝาแฝดเดียวกับ Nissan Almera ในตลาดเมืองไทยหรือ Nissan Sunny ในตลาดจีนและอินเดีย ไม่มี
ชิ้นส่วนใดที่แตกต่างจากตลาดโลกเลย ชูจุดขายที่ห้องโดยสารกว้างขวางโดยเฉพาะเนื้อที่ห้องโดยสารหลังที่กว้างขวางกว่า
ใคร(เพราะมีความยาวห้องโดยสารมากถึง 2,120 มม. ถือว่ายาวมาก), มีเนื้อที่ห้องสัมภาระมากถึง 490 ลิตร

ขุมพลังของ All New Nissan Latio ติดตั้งเครื่องยนต์เพียงแค่แบบเดียวคือ HR12DE (แบบเดียวกับ Nissan March
และ Almera ในตลาดเมืองไทย) บล๊อก 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว CVTC 1,198 ซีซี 79 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 10.8 กิโลกรัมเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาทีจับคู่เกียร์ XtronicCVT ทั้งหมด มีอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐาน
การทดสอบโหมด JC08 ถึง 22.6 กิโลเมตรต่อลิตรถือว่าประหยัดที่สุดในบรรดารถซีดานระดับเดียวกัน

ออพชั่น All New Nissan Latio ที่ไม่มีในเวอร์ชันไทย อาทิ ระบบ VDC, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
และเข็มขัดคู่หน้าปรับระดับได้ (หน้าจอมอนิเตอร์สำหรับระบบนำทางและกล้องส่องถอยหลังถือเป็นออพชั่นสั่งพิเศษ)
ส่วนออพชั่นที่ด้อยกว่าเวอร์ชันไทยคือ ไม่่มีปุ่มกดบนพวงมาลัยและล้ออัลลอยเลยสักรุ่น

Nissan ตั้งเป้ายอดขาย Latio โฉมใหม่เบาะ ๆ แค่ 1,200 คันต่อเดือน ก็ถือเป็นเป้าที่ Nissan น่าจะยอมรับได้ว่านี่คือช่วง
ขาลงของตลาดซีดานคอมแพคท์ในญี่ปุ่นแบบสุด ๆ