ระบบ Autopilot ของ Tesla ที่ผ่านการ Upgrade ไปในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ได้แสดงศักยภาพให้เป็นที่ประจักษ์ หลังจากที่ระบบสามารถเตือนคนขับว่ากำลัง
จะเกิดอุบัติเหตุข้างหน้า พร้อมกับลดความเร็วให้โดยอัตโนมัติ ได้ทันเวลาอีกด้วย

คลิปวีดีโอที่เห็นมาจากกล้องติดหน้ารถ ที่อยู่ใน Tesla ซึ่งระบุเวลาว่าเกิดขึ้นในวันที่
27 ธันวาคม จากภาพจะเห็นว่ามีรถยนต์วิ่งไปตามปกติ โดยใช้ความเร็วประมาณ
110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทันใดนั้นรถยนต์คันสีชมพูข้างหน้า เหมือนจะเบี่ยงออก
เล็กน้อย แต่ไม่มีการลดความเร็วลง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ระบบ Autopilot
ส่งสัญญาณเตือน พร้อมลดความเร็วลงทันที ก่อนที่รถคันข้างหน้าจะชนท้ายกัน
ทำให้ SUV คันข้างหน้าเกิดพลิกคว่ำ และ รถยนต์สีชมพูที่ไปชนท้ายเสียหลัก
ออกไปที่ไหล่ทาง

Untitled

เนื่องจากมีรูป Tesla Model S ใน Twitter ของ Hans Noordsij ผู้ขับขี่ Tesla คันที่บันทึก
เหตุการณ์ จึงคาดว่า Model S คือ รถคันที่ใช้ระหว่างบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ได้ ทั้งนี้ Noordsij
ระบุว่าระบบ Autopilot ลดความเร็วรถลงโดยอัตโนมัติ ก่อนที่เขาจะเหยียบเบรกเองเสียอีก
และ สิ่งที่น่าประทับใจ คือระบบ Autopilot ไม่ได้ใช้เรดาร์ตรวจจับรถคันสีชมพูที่อยู่ด้านหน้า
เพียงคันเดียว แต่ยังสามารถตรวจจับความผิดปกติของ SUV คันที่อยู่ถัดไปได้ด้วย

คาดว่าระบบน่าจะตรวจจับ คำนวณจากความเร็วของรถ SUV คันที่อยู่ข้างหน้ารถคันสีชมพูด้วย
เมื่อระยะของรถทั้ง 2 อยู่ใกล้กันมากขึ้น แต่รถคันสีชมพูที่ตามหลังมา ความเร็วยังคงเดิม
บวกกับไม่มีการตอบสนองขององศาการหักเลี้ยวที่มากพอ

58639a4bc36188bd228b459e Untitled

Noordsij ระบุด้วยว่าผู้ขับขี่ของรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุทั้ง 2 คัน ไม่ได้รับบาดเจ็บ
สาหัสทั้งคู่ นับว่า เป็นสิ่งดีที่เทคโนโลยีในปัจจุบัน ได้พัฒนาไปจนถึงจุดที่มีระบบ
ช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถ้าหากไม่มีระบบ Autopilot
ทั้ง Noordsij อาจจะเบรกไม่ทัน และ คนขับ SUV อาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
จากอุบัติเหตุซ้ำซ้อนก็เป็นได้

banner_video_tesla_2 (3) banner_video_tesla_2 (4)
tesla-model-s-autopilot

 

ที่มา : mashable