และแล้วรถยนต์รุ่นสำคัญในวงการรถยนต์ ที่เป็นมาตรฐานในการพัฒนารถยนต์หลายต่อหลายรุ่น จากแบรนด์
รถยนต์เพื่อประชาชนอย่าง 2013 Volkswagen Golf อันเป็นรุ่นที่ 7 ก็ได้ถูกเปิดผ้าคลุมออกมาแล้วเมื่อเช้ามืด
ของวันนี้ (5 กันยายน 2012 หรือ 4 กันยายน 2012 เวลาทุ่มตรง ของประเทศเยอรมนี) ท่ามกลางการจับตา
มองของคนทั่วโลก ว่าโฟล์คสวาเก้น จะเดินหมากชิ้นสำคัญของตนออกมาในทิศทางไหน หลังจาก Golf รุ่นที่ 6
ถูกย่นระยะเวลาทำตลาดเหลือเพียง 4 ปีเท่านั้น (2008-2012)
รูปลักษณ์ภายนอกของ 2013 Volkswagen Golf ถูกปรับเส้นสายให้ดูมีการเติบโตมากขึ้น ลดเส้นสายอ่อนช้อย
ลงไป โดย Walter de Silva หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Golf รุ่นใหม่นี้ กล่าวว่ารูปลักษณ์ของ Volkswagen Golf
มีหลายเอกลักษณ์ที่ควรคงค่าไว้ แต่ถูกปรับให้เข้ากับยุคสมัยและเทรนด์ใหม่ๆมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นแนวหลังคา
หรือแนว C-Pillar ที่ตวัดเป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงรูปลักษณ์ด้านหน้า ที่เมื่อพิจารณาให้ดี จะพบว่ามีกลิ่นอายงานดีไซน์
จาก Golf รุ่นแรกเอาไว้
นอกจากการคงเอกลักษณ์งานออกแบบในจุดต่างๆเอาไว้ ทีมออกแบบยังเพิ่มเส้นสายที่ทำให้ดูแข็งแกร่งมากขึ้น
จากรุ่นที่แล้ว โดดเด่นด้วยเส้นเอวด้านข้าง ที่ช่วยทำให้รถดูเคลื่อนไหวตลอดเวลา โดยพยายามไม่ใช้เส้นสายให้
มากเอียนจนเกินไป ถึงแม้ว่างานออกแบบจะทำให้รถดูกะทัดรัด แต่ด้วยมิติตัวถังของรถที่ยาว 4,255 มม. กว้าง
1,799 มม. และ 1,452 มม. จะเห็นได้ว่าจริงๆแล้ว โฟล์ค กอล์ฟใหม่ ยาวขึ้น 56 มม. กว้างขึ้น 13 มม. และ
เตี้ยลง 28 มม. กว่ากอล์ฟรุ่นปัจจุบัน
ด้านรูปลักษณ์ภายใน มีการปรับปรุงรายละเอียดและการใช้วัสดุ รวมถึงคุณภาพในการออกแบบตามจุดต่างๆ
จนถือว่าก้าวกระโดดจากรุ่นปัจจุบัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบตัดตรงในส่วนล่างวงใหม่ ให้ความรู้สึกสปอร์ต
และควบคุมฟังก์ชันต่างๆบนพวงมาลัยได้ดีขึ้น คอนโซลกลางถูกออกแบบให้เข้าหาผู้ขับขี่มากขึ้น รวมไปถึง
การอัพเดทระบบเครื่องเสียง อินโฟเทนเมนท์ และการเปลี่ยนมาใช้เบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่น Auto Hold
ช่วยลดเนื้อที่ที่ไม่จำเป็นในห้องโดยสาร
ระดับการตกแต่งของ 2013 Volkswagen Golf ใหม่ ถูกแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ Trendline มาพร้อมล้ออัลลอย
15 นิ้ว ระบบปรับอากาศ ตกแต่งภายในด้วยชิ้นงานเมทัลลิก พร้อมระบบความปลอดภัยสุดไฮเทคเป็นอุปกรณ์
มาตรฐาน, Comfortline เพิ่มพวงมาลัยหุ้มหนังแท้ ระบบอินโฟเทนเมนท์ Composition Touch ที่มาพร้อมกับ
หน้าจอสีแบบสัมผัส 5.8 นิ้ว ระบบตรวจจับสติของผู้ขับขี่ เซนเซอร์ถอยหลังและล้ออัลลอย 16 นิ้ว, Highline
เพิ่มเบาะหนังอัลคันทารา ตกแต่งด้วยโครเมี่ยม ระบบไฟหน้า Xenon และล้ออัลลอย 17 นิ้ว
นอกจากการปรับรูปลักษณ์และปรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกยกระดับมาตรฐานขึ้น ด้านงานวิศวกรรมเป็นอีก
หนึ่งปัจจัยที่ทำให้ 2013 Volkswagen Golf น่าสนใจ ด้วยการหันมาใช้พื้นฐาน MQB เหมือนกับเพื่อนร่วมค่าย
เช่น Audi A3, Seat Leon แล้ว ทีมวิศวกรยังปรับปรุงระบบต่างๆของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการขึ้นรูปชิ้น
เหล็ก ระบบสายไฟ เครื่องยนต์ ชุดระบบกันสะเทือนและระบบส่งกำลัง จนทำให้มีน้ำหนักลดลงรวม 100 กก.จาก
รุ่นที่แล้ว นอกจากนี้ด้านขุมพลังยังถูกปรับปรุงจนมีพละกำลังและความประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น นำทีมโดยเครื่องยนต์
เบนซินแบบ 4 สูบเรียง 1.2 ลิตร TSI สร้างกำลัง 85 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบเรียง ความจุ 1.4 ลิตร
TSI พร้อมเทคโนโลยีพักสูบการทำงานระหว่างรอบเครื่องเบาเป็นครั้งแรกในเครื่องยนต์ 4 สูบ สร้างพละกำลัง
140 แรงม้า และสร้างอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำเพียง 20.4 กม./ลิตร
ด้านเครื่องยนต์ดีเซล มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง เพียงความจุเดียวเท่านั้น คือ 2.0 ลิตร แต่มาพร้อม
2 พละกำลัง คือ 105 แรงม้า และ 150 แรงม้าให้เลือกใช้กัน และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี BlueMotion ที่ช่วย
เพิ่มความประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 31.25 กม./ลิตร ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลพร้อมจับคู่กับเกียร์ธรรมดา
ที่มีให้เลือกทั้ง 5 และ 6 จังหวะ รวมถึงระบบเกียร์คลัทช์คู่ DSG ทั้ง 6 และ 7 จังหวะให้ได้เลือกใช้กัน
นอกจากนี้ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่บรรดาของเล่น อุปกรณ์ไฮเทค ที่อัดแน่นมาชนิดที่ว่าไม่น้อยหน้าแบรนด์ระดับพรี
เมี่ยมกันเลย ไม่ว่าจะเป็น Driver Profile Selection เทคโนโลยีเดียวกันกับค่าย Audi ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือก
ได้ว่าจะขับขี่ในรูปแบบไหน ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ Eco, Sport, Normal, Individual และ Comfort รวมไปถึง
อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่แน่นที่สุดในประวัติศาสตร์โฟล์ค กอล์ฟ ทั้งระบบ Multicollision Braking (ระบบ
หยุดรถฉุกเฉิน), ระบบ PreCrash (ปิดกระจกและซันรูฟอัตโนมัติหากตรวจจับว่ากำลังเกิดอุบัติเหตุ และรั้ง
เข็มขัดนิรภัยรอบคันเพื่อช่วยซับแรงกระแทก), Adaptive Cruise Control, ระบบ Front Assist with City
Emergency Braking (ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติเมื่อตรวจจับสิ่งกีดขวางในความเร็วต่ำ), ระบบ XDS หรือ
electronic locking differential, ระบบรักษาเสถียรภาพรถในเลนถนนพร้อมระบบตรวจจับสติของผู้ขับ, ระบบ
Light Assist (ช่วยปรับไฟต่ำ-ไฟสูงอัตโนมัติจากกล้องในกระจกบานหน้า) และอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้
2013 Volkswagen Golf คือกอล์ฟที่ไฮเทคที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา
2013 Volkswagen Golf พร้อมเปิดตัวสู้สายตาสาธารณชนทั่วโลกอย่างเป็นทางการ และการพรีวิวเวอร์ชันตัวแรง GTI
จะมีขึ้นในงาน Paris Motor Show ที่จะถึงในเดือนตุลาคมนี้ การเปิดรับจองเริ่มขึ้นในประเทศเยอรมนีแล้ว ส่วนประเทศ
อื่นๆในยุโรป และภูมิภาคอื่นจะตามมาในปี 2013 ที่จะถึงนี้ครับ