ถึงแม้ในปี 2009-2011 จะเป็นปีที่ Honda ประสบปัญหาคาดไม่ถึงบางประการ ไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดรวม
ไปถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ปลายปี 2011 จนทำให้โรงงาน Honda นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดอยุธยา
ได้รับความเสียหายขั้นรุนแรง แต่เมื่อถึงปี 2012 Honda ก็สามารถกลับมาแก้ลำทุกสิ่งทุกอย่างให้เดินหน้ากันได้

หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจเปิดตัว Honda Civic FB, Honda Jazz Hybrid และ Honda City CNG จนประสบ
ความสำเร็จในด้านการตอบรับ คราวนี้ก็ถึงคิวรถมินิแวนอาถรรพ์ Honda Freed บ้างแล้ว งานนี้อาจจะเป็นงานที่หนัก
หน่วงกว่ารถที่เปิดตัวก่อนหน้านั้นพอสมควรเพราะ Honda Freed ออกสตาร์ทตอนต้นไม่ได้สวยอย่างที่คาดคิด แต่ด้วย
การแข่งขันในตลาดมินิแวน 7 ที่นั่งราคาไม่ถึง 1 ล้านบาทยังไม่ดุเดือดมากนักประกอบกับคุณสมบัติตัวรถที่ยังโดดเด่น
พอที่จะแข่งขันกันได้ และที่สำคัญ Honda Freed ยังพอมีอนาคตที่ดีในการเก็บเกี่ยวยอดขายมากกว่า 400 คันต่อเดือน
ได้ ดังนั้น Honda ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องจัดงานเปิดตัว Freed รุ่น Minorchange อย่างเป็นทางการเพื่อให้คนทั่วไป
รับรู้ความเปลี่ยนแปลงของมัน

alt

วันที่ 4 กันยายน 2012 Honda Automobile ประเทศไทยได้เปิดตัว Honda Freed Minorchange มุ่งหมายสร้าง
กระแสรถยนต์อเนกประสงค์อิสระลงตัวของทุกรูปแบบการใช้ชีวิต มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ใหม่แลดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
ด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ โคมไฟหน้าสีเงินแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ กระจังหน้าแบบโครเมียมดีไซน์ใหม่ ด้านก็เปลี่ยนแปลง
รายละเอียดไฟท้ายและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมพร้อมสปอยเล่อร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่

ภายในห้องโดยสารดูดีขึ้นด้วยเบาะหนังและพนักเท้าแขนทั้งผู้โดยสารแถวหน้าและแถว 2 พร้อมทั้งให้ความบันเทิงเต็ม
รูปแบบด้วยระบบเครื่องเสียงแบบวิทยุ MP3 พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX สำหรับ
อุปกรณ์ต่อพ่วง ผู้โดยสารตอนหลังยังเพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่นดีวีดี พร้อมจอ LCD ขนาด 10 นิ้ว และอำนวยความ
สะดวกให้ผู้ขับด้วยสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยและการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth (เฉพาะ
รุ่น EL) และที่ขาดไม่ได้เลยคือประตูข้างสไลด์อัตโนมัติ ซ้าย-ขวา อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ Honda Freed

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท Honda Automobile (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การเปิดตัว
Honda Freed ใหม่นี้เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่พร้อมเติมเต็มความ
ต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ เทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ผู้บริโภคเริ่มมองหารถยนต์ที่ตอบ
โจทย์เรื่องการใช้งานเป็นหลัก รถยนต์ต้องมีฟังก์ชั่นการใช้สอยแบบสารพัดประโยชน์ รถยนต์อเนกประสงค์ หรือ
Multipurpose Utility Vehicle (MUV) จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาด และเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง
แพร่หลายในตลาดต่างๆ รวมไปถึงในญี่ปุ่นและยุโรป”

“สำหรับในประเทศไทยเอง เราก็มีการศึกษารูปแบบการใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน พบว่า ลูกค้ามีความสนใจรถยนต์
อเนกประสงค์เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งคนในวัยทำงานมีกิจกรรมประจำวันมากขึ้น ทั้งที่
ทำงานและที่บ้าน รวมไปถึงกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวและเพื่อนฝูง หรือแม้แต่การใช้ในการประกอบธุรกิจส่วนตัว
ฮอนด้าเล็งเห็นกระแสความต้องการในตลาด และเป็นผู้สร้างเทรนด์รถยนต์อเนกประสงค์ด้วยการนำ Honda Freed เข้า
มาทำตลาด ด้วยเราเชื่อมั่นว่า รถยนต์อเนกประสงค์มีแนวโน้มจะเติบโตเพิ่มขึ้นในเมืองไทย” นายพิทักษ์กล่าว

Honda Freed เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม 2551 และมีแนวโน้มการเติบโตที่
น่าสนใจ และนับเป็นรถยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งในตลาดญี่ปุ่น ภายในหนึ่งปี ฟรีด สามารถทำยอดการจำหน่ายได้สูงถึง
77,000 คัน และยังได้รับรางวัล “รถยนต์อันทรงคุณค่า” ประจำปี 2551-2552
ในประเทศญี่ปุ่น

สำหรับประเทศไทย Honda มีการนำเข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552 เป็นต้นมา และได้รับการ
ตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยยอดขาย 11,400 คัน (ม.ค. 2553 – ก.ค. 2555)

2012 09 04 Honda Freed MC 4

นายสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการส่วนงานการตลาด บริษัท Honda Automobile (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า
Honda Freed  มีจุดเด่นในด้านห้องโดยสารที่กว้างขวางและการจัดวางพื้นที่ใช้สอย รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ต่างๆ ขับขี่ง่าย  ปลอดภัย  ห้องโดยสารของฟรีดได้รับการออกแบบสไตล์ Open Cafe ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย สามารถ
รองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน เบาะนั่งแถว 3 สามารถปรับพับได้เพื่อการบรรทุกสัมภาระและการใช้งานที่หลากหลาย มีพื้นที่
ว่างแนวกลางที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการเดินถึงกันได้แบบ Walk Through มีประตูสไลด์อัตโนมัติทั้งด้านซ้าย
และขวาให้ความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงหรือขนย้ายสัมภาระแม้จอดในพื้นที่แคบ  

“Honda Freed ถือเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับไลฟ์สไตล์กลุ่มคนเมืองครบทั้ง 3 มิติ มิติที่ 1 เป็นรถยนต์ที่อำนวย
ความสะดวกสำหรับงานอดิเรกในวันว่าง เช่น เล่นกีฬาที่มีอุปกรณ์ เช่น ตีกอล์ฟ เล่นเซิร์ฟบอร์ด  ขี่จักรยาน  มิติที่ 2 เติม
ความสุขให้กับสมาชิกในครอบครัวตลอดการเดินทาง ทั้งยังได้ขยายไปสู่มิติที่ 3 คือให้ความคล่องตัวในการทำงาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องพกพาเครื่องมืออุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ เช่น ช่างภาพ สถาปนิก หรือทำธุรกิจต่างๆ
ฮอนด้า ฟรีด จึงถือได้ว่าเป็นยานพาหนะคู่ใจแบบ All-in-One ที่ครบครันด้วยประโยชน์ใช้สอยเหมาะกับทุกคน ทุก
ครอบครัว ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ผู้เริ่มสร้างครอบครัวไปจนถึงชีวิตครอบครัวใหญ่” นายสมภพ อธิบาย

“สำหรับด้านการสื่อสารการตลาดจะมุ่งไปที่ประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขใน ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ ภายใต้คอน
เซ็ปต์ The Journey of Love  โดย Honda จัดทำภาพยนตร์โฆษณา ซึ่งเป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของการพบรักของเจ้าของ
ร้านดอกไม้กับร้านดนตรี โดยมี Honda Freed เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของความรัก สำหรับเพลงประกอบหนังโฆษณา
ชุดนี้ ได้เลือกใช้เพลง “คนข้างๆ” ของศิลปินแนวอินดี้ วง 25 Hours ซึ่งมีเนื้อร้องที่เข้ากันกับเนื้อเรื่องอย่างลงตัว โดยจะ
ออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 5 กันยายน และนอกจากนี้ยังมีซีรี่ส์ The Journey of Love อีก 3 ตอน ซึ่งสามารถติดตาม
รับชม ซีรี่ส์ของฮอนด้า ฟรีด ใหม่ได้ที่ www.honda.co.th/Freed

Honda Freed ติดตั้งเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ SOHC i-VTEC  ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 118 แรงม้า
เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grade Logic Control ให้การตอบสนองฉับไว สนุกทุกการขับขี่
พร้อม Direct Control และ Shift Hold Control ช่วยรักษาความเร็วขณะเข้าโค้ง ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พี
เนียนและเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.2 เมตร  

2012 09 04 Honda Freed MC 6

Honda Freed Minorchange มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น SE ราคา 839,000 บาท ที่มาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมียม
กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ โคมไฟหน้าสีเงินแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ไฟท้ายและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมพร้อมสปอยเล่อร์หลัง
ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งด้านคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ นอกจากนี้ยังมีพนักเท้าแขนทั้งผู้โดยสารแถวหน้าและแถว 2

รุ่น EL ราคา 949,000 บาท เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ เบาะหนังทุกที่นั่ง ระบบเครื่องเสียงแบบวิทยุ
MP3 พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง สวิตซ์ควบคุมเครื่อง
เสียงบนพวงมาลัยและระบบการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth กล้องส่องภาพด้านหลัง สำหรับผู้โดยสารตอน
หลังได้รับความเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยเครื่องเล่นดีวีดี พร้อม LCD ขนาด 10 นิ้ว

Honda Freed  ใหม่ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาวบริลเลียนท์ (มุก) (เพิ่ม 10,000 บาท) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำ
คริสตัล (มุก) และสีใหม่ คือ สีน้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก)

ลูกค้าที่สนใจ Honda Freed ใหม่ สามารถแวะชมรถหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม Honda ทั่วประเทศ