Skoda Octavia พึ่งออกรุ่น Minorchange ไปได้ไม่นาน ตัวแรงในรหัส Skoda Octavia RS
ก็ตามมาซึ่งงานออกแบบต่างๆ เปลี่ยนไปจากรุ่นเดิมที่มาพร้อมกับกระจังหน้าที่กว้างกว่าเดิม
และไฟหน้า Crystalline 4 ดวงแบบ LED นอกจากนี้ยังมีไฟท้าย LED รูปตัว C พร้อมกับไฟ
ส่องป้ายทะเบียนแบบ LED อีกด้วย
สิ่งที่ Skoda Octavia RS แตกต่างจาก Octavia รุ่นธรรมดาคือกันชนหน้าทรงใหม่ที่แบ่งช่อง
ดักลมออกเป็น 3 ช่องตัดขอบด้วยสีดำ, กระจังหน้าเปลี่ยนจากโครเมี่ยมเป็นสีดำ, กระจกมองข้าง
สีดำ, ด้านหลังเปลี่ยนกันชนหลังทรงใหม่ รวมปลายท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยมคางหมูไว้ที่ชายกันชน
ด้านล่าง และมีล้อขนาด 17 – 19 นิ้วให้เลือก
ขุมพลังของ Skoda Octavia RS มีให้เลือก 2 ทางเลือก ทั้งคู่สามารถจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
หรือเกียร์อัตโนมัติ DSG 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้า ยกเว้นขุมพลังดีเซลเกียร์อัตโนมัติ ที่สามารถ
เลือกรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อได้ด้วย ส่วนรายละเอียดเครื่องยนต์มีดังต่อไปนี้
ตัวเลือกแรกเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 233 แรงม้า (PS) แรงบิด
สูงสุด 35.69 กก-ม. (350 นิวตันเมตร) เพิ่มจากเดิม 10 แรงม้า (PS) ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ภายใน 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราบริโภคเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่
15.38 กิโลเมตร/ลิตร
อีกทางเลือกคือ เครื่องยนต์ดีเซล TDI 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 187 แรงม้า (PS) แรงบิด
สูงสุด 38.74 กก-ม. (380 นิวตันเมตร) ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.9 วินาที ความเร็ว
สูงสุดทำได้ 232 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราบริโภคเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 22.22 กิโลเมตร/ลิตร
ช่วงล่างของ Skoda Octavia RS จะเตี้ยกว่ารุ่นปกติ 15 มิลลิเมตร ในขณะที่ระยะฐานล้อหลังจาก
ซ้ายไปขวา กว้างกว่าเดิมอีก 30 มิลลิเมตร นอกจากนี้ยังมีระบบปรับรูปแบบการขับขี่ Performance
Mode Select ในขณะที่ระบบความปลอดภัยติดตั้งมาให้ทั้ง ระบบเบรกอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคน
เดินถนน, ระบบช่วยให้ถอยหลังได้ง่ายขึ้นเมื่อลากจูงรถพ่วง Trailer Assist และระบบปิดกระจก
หน้าต่างพร้อมหลังคาซันรูฟอัตโนมัติ เมื่อพบว่ากำลังจะเกิดอุบัติเหตุ Crew Protect Assist