วันนี้ 30 สิงหาคม 2012 Nissan Motor ประเทศไทยได้ฤกษ์เปิดตัว Nissan Sylphy เจเนเรชั่นที่ 3 ของตลาดโลก ถือ
เป็นการเปิดตัวลำดับที่ 2 ตามหลังตลาดจีนไปในช่วงเดือนเมษายน 2012 (พร้อมส่งมอบเดือนมิถุนายน 2012) และถือ
เป็นการเปิดตัวตัดหน้าตลาดอเมริกาเหนืออย่างฉิวเฉียดกันเลยทีเดียว
ความจริงแล้ว Nissan Sylphy ก็เคยบุกมาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อเดือนกันยายน 2000 ด้วย อย่าเพิ่งงุนงงกันครับ
เพราะตอนนั้น สยามกลการ (ผู้แทนจำหน่าย Nissan ในประเทศก่อนที่จะถูกเทคโอเวอร์โดยบริษัทแม่) ได้ตัดสินใจ
เดินหน้าผลิต Nissan Bluebird Sylphy (ปัจจุบันเหลือแต่เพียงชื่อ Sylphy) มาสวมชื่อ Sunny Neo เพราะตัวแทน
จำหน่ายหลายประเทศในเอเชียในสมัยนั้นลงมติกันว่าสมควรนำรูปโฉม Bluebird Sylphy มาผลิตแทนที่ Nissan Sunny
B15 จะดีกว่ามาก ๆ
Nissan Sylphy เจเนเรชั่นใหม่สำหรับตลาดเมืองไทยชูจุดเด่นรถยนต์นั่งระดับกลางที่มีรูปลักษณ์ในแนวหรูหราพรีเมี่ยม,
ห้องโดยสารกว้างขวางหรูหรา, ตอบสนองการขับขี่อย่างทันใจ, ประหยัดน้ำมัน, ราคาจำหน่ายเหมาะสม สำหรับตลาดโลก
นั้น Nissan Sylphy ก็ยังมีแนวคิดการทำตลาดคล้ายกับเมืองไทยคือจับกลุ่มลูกค้าที่มีความเฉลียวฉลาด มองหาห้อง
โดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย สมรรถนะในการขับขี่ที่ดี และต้องประหยัดน้ำมัน
แนวคิดการพัฒนา Nissan Sylphy (หรือ Sentra สำหรับตลาดอเมริกาเหนือ) ในระดับโลก
มร. โทรุ โคมิโซ หัวหน้าทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท Nissan Motor จำกัด ได้กล่าวว่า “เราจะถามตัวเองเสมอว่า ใน
ฐานะผู้ขับขี่ จุดเด่นต่างๆ จะใช้งานได้จริงหรือไม่ ซึ่งรถคันนี้จะต้องมีทั้งคุณภาพและจุดเด่นต่าง ๆ ที่สมดุลและสามารถ
ดึงดูดลูกค้าได้ โดยเราตอบโจทย์นี้ด้วยการ นำขึ้นอีกครึ่งก้าว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเนื้อที่ห้องโดยสารเบาะหลัง และความ
เงียบของห้องโดยสารให้เทียบเท่ากับรถยนต์นั่งระดับหรูขนาดใหญ่ ส่วนด้านอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของ Nissan Sylphy
นั้นอยู่ในระดับเดียวกับรถยนต์รุ่นซับคอมแพคท์ (B-Segment) เลยทีเดียว”
หัวหน้าวิศวกรผลิตภัณฑ์ บริษัท Nissan Motor จำกัด มร. เคนนิจิ มิโยชิ ให้ความเห็นว่า “เรามีแนวทางในการพัฒนา
รถยนต์คันนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ คุณภาพสูง และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในแต่ละตลาดที่
แตกต่างกันได้ ดังนั้นเราจึงต้องสร้างรูปแบบที่เป็นสากล แต่อาจมีรายละเอียดแตกต่างกันไปบ้าง รถยนต์รุ่นนี้ได้รับการ
ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ถึงแม้ว่าจะเป็นรถยนต์นั่งระดับกลาง แต่เราต้องการให้ลูกค้าได้ใช้รถที่มีคุณภาพสูงกว่า
ระดับกลางทั่วไป”
ส่วนแนวคิดในการออกแบบ มร. คินอิจิ ไซโต หัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ ได้กล่าวว่า “เราต้องการให้รถยนต์รุ่นนี้เป็น
รถคุณภาพสูง ดูหรูหราโดยธรรมชาติ สิ่งสำคัญคือ ส่วนหน้ารถโดยเฉพาะไฟหน้า เป็นครั้งแรกที่เราใช้หลอดไฟ LED เรา
ต้องการให้เกิดการสื่อสารผ่านไฟหน้าที่เปรียบเสมือนดวงตา และหากเรามองจากทางด้านข้าง จะสังเกตุเห็นส่วนที่นูนออก
จากกันชนด้านหน้าและยาวต่อเนื่องไปยังด้านข้างและไฟท้าย ที่เราต้องการสื่อความรู้สึกของความพริ้วไหวของลายเส้น
ดังกล่าว”
Nissan Motor ตั้งเป้าจำหน่าย Nissan Sylphy/Sentra ในระดับโลกรวม 550,000 คันจาก 120 ประเทศทั่วโลก
ภายในปี 2014
จุดขายหลักของ Nissan Sylphy เวอร์ชันตลาดไทย
1) ดีไซน์ที่ดูหรูหราคล้ายกับรถ D-Segment
– Nissan Sylphy ถูกออกแบบให้มีความสมดุลมากขึ้น แลดูสง่างามโดยมีขนาดตัวถังใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับ
รถยนต์ในระดับเดียวกัน และยังได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำเพียง
0.29 ส่งผลดีต่อสมรรถนะที่ดีขึ้นและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ
– ขยายพื้นที่บริเวณกระจกหน้า เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ กันชนขนาดใหญ่และกระจังหน้าพร้อมช่องระบาย
อากาศแบบรังผึ้งที่ออกแบบมาให้ดูมีมิติมากขึ้น เพิ่มความปลอดภัยและช่วยควบคุมการถ่ายเทอากาศ
– ไฟหน้าแบบ Multi-reflector พร้อมไฟแบบ LED ที่ได้ติดตั้งทั้งในตำแหน่งไฟหรี่ด้านหน้า ชุดไฟท้าย ไฟเบรค
ดวงที่สาม และไฟเลี้ยวบริเวณกระจกมองข้าง และไฟอ่านแผนที่รวมรอบคัน 54 ดวง เพิ่มความ
– ห้องโดยสารภายในที่กว้างที่สุดเทียบเท่ารถยนต์นั่งหรูระดับกลาง (D-Segment) และพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถที่
มีขนาดความจุมาก 510 ลิตร ซึ่ง Nissan เคลมว่าใหญ่ที่สุดในระดับเดียวกันและเทียบเท่ารถยนต์นั่งหรูระดับใหญ่ พร้อม
ช่องกลางทะลุถึงห้องโดยสารด้านหลัง สะดวกสบายต่อการใช้งาน
– ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และชุดโครเมียมบริเวณกระจังหน้า ที่เปิดประตูและด้านกระโปรงท้าย
2) ความสบายภายในห้องโดยสาร
– พื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาดใหญ่ ช่วยให้เข้า – ออกห้องโดยสารได้สะดวกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
– สีภายในแบบเบจโทนใหม่ และบริเวณคอนโซลใช้วัสดุคุณภาพสูงที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษ Micro-grain เพื่อ
ลดแสงสะท้อน ให้ความรู้สึกอบอุ่น พร้อม
บุวัสดุบุนุ่ม (soft pad)บริเวณด้านหน้าคอนโซลและด้านข้างประตู
– เบาะนั่งขนาดใหญ่ ใช้วัสดุหนัง ( ในรุ่น 1.8V Navi 1.8V และรุ่น 1.6V) พร้อมที่พักแขนและที่วางขวดหรือแก้วน้ำ
และพนักพิงศรีษะปรับระดับได้บริเวณที่นั่งด้านหลัง เพิ่มความสะดวกสบาย โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกล มีพนักเท้า
แขนด้านหน้าพร้อมช่องเก็บของมีฝาสไลด์ปิด
– แผงคอนโซลด้านหน้าออกแบบให้ใช้ง่ายตามหลักสรีระศาสตร์หรือ Ergonomic design เพื่อสะดวกต่อการใช้
งานซึ่ง Nissan เคลมว่าได้แรงบันดาลจากปีกนางนวล
– แผงคอนโซลกลางตกแต่งด้วยชุดลายไม้ (ในรุ่น1.8V Navi 1.8V และ 1.6 V) เพิ่มความหรูหรา และชุดเมทัลลิก
ให้ดูโฉบเฉี่ยว (ในรุ่น 1.6E และ 1.6S ลิตร)
– พวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่นแบบ 3 ก้าน ปรับได้ 4 ทิศทางหุ้มหนัง (ในรุ่น1.8V Navi 1.8V และ 1.6 V) สไตล์สปอร์ต
พร้อมระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) และเพิ่มความสะดวกสบายกับสวิทซ์ควบคุมเครื่องเสียงและหน้าจอ MID ที่พวงมาลัย
และระบบควบคุมเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) เพื่อความปลอดภัย
– แผงหน้าปัดเรืองแสง (Fine Vision Meter) ขนาดใหญ่พร้อมจอแสดงข้อมูล Multi Information Display
ในทุกรุ่น เพื่อแสดงข้อมูลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งในแบบใช้จริง และเฉลี่ย/ชั่วโมง มาตรวัดระยะทางย่อยและ
ระยะทางรวม สะดวกต่อการใช้งาน
– ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมแยกปรับอุณหภูมิอิสระได้ซ้าย –ขวา และระบบช่องแอร์ด้านหลังสำหรับ
ผู้โดยสารด้านหลัง (เฉพาะรุ่น 1.8V Navi 1.8 V และ 1.6 V)
– ชุดเครื่องเสียงแบบ Built-in ลำโพง 6 ตัว พร้อมหน้าจอสีขนาด 4.3นิ้วในรุ่น1.8 V เล่นซีดี 1 แผ่นและเครื่องเล่น
MP3 และช่องต่อ AUX และอุปกรณ์เชื่อมต่อ USB บริเวณช่องเก็บของ
– สำหรับรุ่น 1.8V Navi เพิ่มเติมระบบนำทาง Navigation system บนหน้าจอ 5.8นิ้ว สะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่น
การค้นหาสถานที่
– กล้องมองหลัง (เฉพาะรุ่น 1.8V และ 1.8V Navi) มองได้ไกลถึงสามเมตร เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น
– ระบบกุญแจอัจริยะ Intelligent key พร้อมปุ่มเปิดท้ายรถและระบบ Immobilizer และ Panic alarm กระจก
มองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ
– และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push start button
3) เทคโนโลยีเพื่อความคุ้มค่าและความปลอดภัย (Clever Efficiency)
– เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ใหม่ รหัส MRA8DE ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นด้วยการเพิ่มช่วงชักกระบอกสูบ
ผสานไปกับการทำงานของระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC (Twin Continuously-Variable Timing Control) เพิ่ม
ระยะชักกระบอกสูบให้ยาวขึ้นทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย เพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเคลือบแข็งระบบสปริงวาล์ว
Diamond-like carbon coating ช่วยลดน้ำหนัก แรงเสียดทานและแรงเฉื่อยของวาล์ว เสริมประสิทธิภาพการทำงาน
ของเครื่องยนต์ เงียบขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้น Nissan เคลมว่าจะประหยัดกว่าเดิม 14%
ความจุกระบอกสูบ : 1,798 ซีซี
แรงม้าสูงสุด PS (กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) : 131(96/6000)
แรงบิดสูงสุด นิวตัน-เมตร (กก-ม)/รอบต่อนาที : 174 (17.8)/3600
ระบบขับเคลื่อน : XTRONIC CVT
– เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว รหัส HR16DE ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ และได้ติดตั้งระบบวาล์วแปร
ผันคู่ Twin C-VTC (Twin Continuously Variable Timing Control) ผสานกับการทำงานของระบบหัวฉีดคู่ Dual
Injector System นับเป็นครั้งแรกในรถยนต์ระดับเดียวกัน เพื่อช่วยให้เกิดการเผาไหม้เกิดการเสถียรได้ดียิ่งขึ้น เพื่อ
สมรรถนะที่ดีกว่าและประหยัดน้ำมันสูงสุด โดย Nissan เคลมว่าประหยัดกว่ารุ่นเดิม (คาดว่า Sylphy 1.6 เจเนเรชั่นที่
แล้ว) ประมาณ 18%
ความจุกระบอกสูบ : 1,598 ซีซี
แรงม้าสูงสุด PS (กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) : 116 (85/5600)
แรงบิดสูงสุด นิวตัน-เมตร (กก-ม)/รอบต่อนาที : 154 (15.7)/4000
ระบบขับเคลื่อน : MT/XTRONIC CVT
– ทุกเครื่องจะจับกับระบบเกียร์อัจฉริยะแปรผัน XTRONIC CVT เพื่อทุกการขับขี่ที่นุ่มนวล จากการพัฒนาระบบ
เกียร์ให้มีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบาลง แต่ให้อัตราทดเกียร์ที่กว้างขึ้น ตอบสนองทุกรูปแบบของการขับขี่และประหยัดน้ำมัน
มากขึ้น
– โครงสร้าง Zone Body Concept เอกสิทธิ์เฉพาะนิสสัน แข็งแกร่ง ทนทาน รองรับน้ำหนักและลดแรงกระแทกได้
อย่างดีเยี่ยม ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สัน สตรัท และระบบช่วงล่างด้านหลังทอร์ชั่น บีม พร้อมเหล็กกัน
โคลง ลดการสั่นสะเทือนทุกสภาพถนน ช่วยให้ทุกการขับขี่นุ่มนวล
– ระบบความปลอดภัย Safety Shield แนวคิดยานยนต์เพื่อความปลอดภัยจากนิสสัน ที่จะมอบความปลอดภัย
ให้กับผู้ขับขี่ก่อนที่ความเสี่ยงจะมาถึง นิสสัน ซิลฟี ใหม่ จึงมาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยที่ให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้มากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบดิสก์เบรค 4 ล้อ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED โดดเด่นชัดเจนในระยะไกล
เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS Airbags) ใน
ทุกรุ่นเพื่อลดความรุนแรงจากกการบาดเจ็บในกรณีที่เกิดแรงปะทะจากด้านหน้า ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) เพื่อ
ป้องกันล้อล็อคและลื่นไถลเมื่อต้องมีการเบรกกะทันหัน ระบบเสริมแรงเบรก (BA) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ช่วย
ให้ระบบเบรกมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดระยะเบรกลงได้ 10-15 เปอร์เซ็นต์ และมั่นใจมากขึ้นกับระบบป้องกันการโจรกรรม
Immobilzer
คุณประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส การตลาดและขายแห่ง Nissan Motor ประเทศไทย
ได้เปิดเผยกลยุทธ์ส่งเสริมการขาย Nissan Sylphy ว่า ทาง Nissan ได้จัดโรดโชว์อวดโฉม Sylphy ทั่วประเทศภายใน
เดือนกันยายน, เพิ่มตัวแทนจำหน่าย Nissan ทั่วประเทศให้ครบ 180 แห่งในช่วงสิ้นปีงบประมาณปี 2012 (และจะมีแผน
เปิดให้ครบ 210 แห่งในภายสิ้นปีงบประมาณปี 2013)
การสื่อสารทางการตลาดได้ใช้แนวคิด “ความสุนทรีย์ของการใช้ชีวิต” ตอกย้ำให้ลูกค้าทราบว่า Nissan Sylphy เป็น
รถยนต์ C-Segment ที่มีความหรูหรามากกว่ารถระดับเดียวกันจนเทียบเคียงกับรถที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ เพื่อให้การสื่อสาร
เข้าใจถึงกลุ่มลูกค้าที่มองรถระดับพรีเมี่ยม Nissan จึงได้ว่าจ้างสองพรีเซนเตอร์สุดร้อนแรงถึง 2 คน คือ ชมพู่ อารยา เอ
ฮาร์เก็ต และโป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ มาถ่ายทอดบุคลิก ตัวตนของผู้ที่ใช้รถยนต์รุ่นนี้คือ คนรุ่นใหม่ที่ประสบ
ความสำเร็จด้านอาชีพการทำงาน เป็นผู้ซื้อที่ฉลาด มองหาความโดดเด่นและความเหนือระดับ ความมีสุนทรียภาพของ
การใช้ชีวิต
Nissan Motor ยังขนแคมเปญในช่วงเปิดตัว Nissan Sylphy อย่างคับคั่งจนผิดวิสัยในรถระดับนี้ เริ่มจาก
Nissan เสนอเงื่อนไขทางการเงินโดย Nissan Leasing ดังต่อไปนี้
-อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%
-ผ่อนสบายกับโปรแกรม Easy Pay เริ่มต้นเดือนละ 7,999 บาท
-ดาวน์ขั้นต่ำ 29,999 บาท
-ผ่อนนานสูงสุด 84 เดือน
Nissan ยังเสนอแคมเปญพิเศษ Premium Package สำหรับผู้ที่จองรถยนต์ Nissan Sylphy ภายใน 31 ธันวาคม
2012 ได้แก่
-ใช้สิทธิ์ซื้อประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection ราคา 5,555 บาท
-ติดฟิล์มรอบคันจาก Lamina ฟรี
-พรมแท้คุณภาพสูงจาก Nissan ฟรี
และมาแปลกงานนี้ Nissan ถึงกับกล่าวรายละเอียดการสร้างความประทับใจในการบริการหลังการขายด้วยการชูจุดเด่น
ค่าบำรุงรักษาในระยะ 100,000 กิโลเมตรหรือ 60 เดือนเพียงแค่ 18,898 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์คู่แข่งก็จะมีค่า
บำรุงรักษามากกว่า 20,000 บาท
ราคาจำหน่ายเกรดต่าง ๆ
1.6 S MT ราคา 746,000 บาท
1.6 S CVT ราคา 776,000 บาท
1.6 E CVT ราคา 799,000 บาท
1.6 V CVT ราคา 833,000 บาท
1.8 V CVT ราคา 899,000 บาท
1.8 V CVT Navi ราคา 931,000 บาท
Nissan Motor ประเทศไทยได้ตั้งเป้ายอดจำหน่าย Nissan Sylphy Sedan ใหม่ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2012 จนถึง
เดือนมีนาคม 2013 (เดือนปิดปีงบประมาณประจำปี 2012) หรือตกประมาณเดือนละประมาณ 2,857 คัน และตั้งเป้า
พร้อมส่งมอบภายในสิ้นปี 2012 ที่ 10,000 คันหรือประมาณเดือนละ 2,500 คัน (เป้าจำหน่ายนี้ไม่รวมกับ Sylphy
Sport ตัวถัง 5 ประตูที่จะจำหน่ายต้นปี 2013)