Toyota มีวิวัฒนาการทางด้านงานวิศวกรรมไม่แตกต่างจากผู้ผลิตยักษ์ใหญ่รายอื่นด้วย
การพัฒนาชุดโครงสร้างพื้นตัวถังและงานวิศวกรรมร่วม TNGA (Toyota New Global
Architecture) ที่สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนารถยนต์, การผลิตให้ก้าวไป
อีกระดับโดยมีจุดมุ่งหมายการทำรถให้ดียิ่งขึ้น
ข้อดีของรถยนต์ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐาน TNGA คือ มีความสูงของด้านหน้าที่ต่ำ,
มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ, นำนวัตกรรมใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ช่วยเพิ่มประสิทธิ
ภาพการวิ่งขับขี่, การบังคับเลี้ยวและการเบรก
นอกเหนือจากโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องพัฒนาล้ำหน้าแล้ว เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
ก็ต้องพัฒนาก้าวตามไปด้วย
Toyota จึงได้เผยข้อมูลเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังใหม่เพื่อให้เข้าคู่กับพื้นฐานงาน
วิศวกรรม TNGA โดยรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปี 2017 จะได้ใช้เครื่องยนต์และระบบ
ส่งกำลังใหม่
เครื่องยนต์ชนิดใหม่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ, น้ำหนักเบา, ขนาดกะทัดรัด มีประสิทธิผลการ
ขับเคลื่อนความเร็วสูงด้วยจังหวะเผาไหม้อัตราสูงและมาพร้อมกับเกียร์หลายอัตราทด
นอกจากโฟกัสด้านสมรรถนะการขับขี่แล้วเครื่องยนต์ใหม่ก็จะเน้นประสิทธิภาพในการ
รักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
Toyota คาดหวังว่าเครื่องยนต์และเกียร์พัฒนาใหม่จะช่วยเปลี่ยน “วิถีการขับขี่ Toyota”
มุ่งไปสู่ความแม่นยำและความนุ่มนวลเพื่อให้สมกับสโลแกน ‘Fun To Drive’ ในขณะ
เดียวกันก็พัฒนาอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้เป็นที่น่าพึงพอใจสูงสุด
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังแบบใหม่จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 20%
และมีสมรรถนะที่ดีขึ้น 10% เมื่อติดตั้งลงในรถยนต์ที่ถูกออกแบบที่คำนึงถึงค่าสัมประสิทธิ์
แรงเสียดทาน, การลดน้ำหนักตัวถังและปัจจัยอื่น
Toyota ภูมิใจนำเสนอเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร Direct Injection ที่ถูกพัฒนา
เพื่อรถยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง TNGA โดยมุ่งเป้าประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุดและ
การรักษาสิ่งแวดล้อม ผนวกเทคโนโลยีจังหวะการเผาไหม้สูงสุดและระบบควบคุมแปรผัน
เพื่อบรรลุประสิทธิภาพเชิงความร้อนส่งผลให้มีตัวเลขพละกำลังสูงสุด, ลดการสูญเสียพลัง
งานจากความฝืดเคือง
Toyota เคลมว่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนที่ดีที่
สุดในโลก 40% สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในและ 41% สำหรับรถยนต์ Hybrid
ผนวกกับเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยตอบสนองในทุกย่านความเร็ว
เกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-8AT และ Direct Shift-10AT ที่ถูกพัฒนาให้ลดการ
สูญเสียพลังงานน้อยที่สุดและยกระดับประสิทธิภาพ ผิวฟันเกียร์ถูกออกแบบให้มีค่า
แรงเสียดทานลดลง, มีการกำหนดค่าแรงเสียดทานของวัสดุภายในคลัทช์ ช่วยลดการ
สูญเสียแรงบิดคลัทช์ 50% ขณะหมุน นอกจากนี้ขนาดลูกเกียร์ยังกะทัดรัดและมีน้ำหนัก
เบากว่าเกียร์อัตโนมัติทั่ว ๆ ไป อีกทั้งถูกออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำช่วยเพิ่มความมั่นคง
ขณะขับขี่และขณะขับเข้าโค้ง
ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ขนาดกะทัดรัดประสิทธิภาพสูงสามารถขยายช่วงกว้างของเกียร์ได้
มากขึ้นทำให้มีเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วและนุ่มนวลทันทีที่กดคันเร่ง
สำหรับเกียร์ Direct Shift-10AT จะเป็นเกียร์ที่พัฒนาต่อจากรุ่น 8 จังหวะที่มีการ
ปรับอัตราทดเกียร์ให้เน้นประสิทธิภาพย่านความเร็วต่ำถึงปานกลาง ผลลัพธ์คือมีการ
เปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลขึ้นจนกล้าเคลมว่าเป็นเกียร์ที่เปลี่ยนจังหวะได้เร็วที่สุดในโลก และ
เหมาะสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังอย่างยิ่ง
เทคโนโลยี Toyota Hybrid System II (THS II) สำหรับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรใหม่ก็
จะนำระบบอิเล็กทรอนิคส์จาก Toyota Prius โฉมล่าสุดมาประยุกต์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิ
ภาพย่านความเร็วสูงทั้งสมรรถนะและอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง
และนี่ก็คือหนึ่งในขุมพลังและระบบขับเคลื่อนใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เหมาะสมสำหรับ
รถยนต์ TNGA และภายในปี 2021 Toyota จะแนะนำเครื่องยนต์ใหม่ 9 บล็อก 17
เวอร์ชันที่รวมถึงเครื่องเบนซิน 2.5 ลิตร, ระบบเกียร์ 4 แบบ 10 เวอร์ชัน ที่รวมไปถึงเกียร์
หลายจังหวะและเกียร์ CVT ชนิดใหม่และขุมพลัง Hybrid 6 แบบ 10 เวอร์ชัน
รถยนต์ Toyota และ Lexus ที่จำหน่ายในญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, ยุโรปและจีนภาย
ในปี 2021 จะติดตั้งเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังชนิดใหม่ในอัตราส่วน 60% ของ
จำนวนรุ่นที่มีขายที่จะมีส่วนช่วยลดค่าไอเสีย CO2 ลง 15%
ที่มา : Toyota