แม้ว่าค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Ford จะพยายามเร่งตัวเองให้มีที่ยืนกว้างๆในใจลูกค้ารถยนต์
ทั่วโลก ด้วยการพัฒนารถยนต์ของตนให้มีความโดดเด่นและดีขึ้นผิดหูผิดตาด้วยนโยบาย One Ford
หรือ 1 รุ่นรถยนต์ ขายทั่วโลก แต่ก็ไม่สามารถหนีความจริงที่ต้องขาดทุนเป็นจำนวนเงิน 1 พันล้านยูโร
ในทวีปยุโรปไปได้

ด้วยเหตุนี้ ฟอร์ดจึงเร่งหาจุดอ่อนที่ทำให้การขาดทุน และเร่งอุดรอยรั่วต่างๆในบริษัท ทั้งในด้านโครงสร้าง
การเงิน ตัวผลิตภัณฑ์ และการทำตลาดของค่าย เพื่อทำให้สร้างกำไรในยุโรปให้ได้ โดยนักการตลาด
ได้แนะนำให้ฟอร์ดปิดโรงงานผลิตรถยนต์ของตนในยุโรปอย่างน้อย 1 แห่ง เนื่องจากในปัจจุบัน ฟอร์ดใช้
กำลังผลิตจากโรงงานทั้งหมดในยุโรปเพียง 63% ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ต้นทุนบานปลาย โดยจะใช้
โมเดลการบริหารของฟอร์ดประจำสหรัฐอเมริกาเป็นตัวอย่างในการเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ฟอร์ดยังทบทวนด้านผลิตภัณฑ์และการทำตลาดของตนในทวีิปยุโรป ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการมอบ
ส่วนลดในจำนวนมากเหมือนคู่แข่ง เนื่องจากพยายามรักษาปริมาณกำไรในการขายรถยนต์ต่อคันเอาไว้
ส่งผลให้ในครึ่งปีแรก ยอดขายของฟอร์ดในยุโรปน้อยลงกว่าปีที่แล้ว 10% และลดลง 6.3% ในภาพรวมยอด
ขายทั่วโลก ในขณะที่ตลาดสหรัฐอเมริกาที่สร้างกำไรให้ฟอร์ดมากที่สุด โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ร้อยล้าน
เหรียญสหรัฐฯ

ในความเป็นจริงแล้ว ปัจจัยเรื่องผลิตภัณฑ์ การทำตลาดและการบริหาร ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ฟอร์ดขาดทุนใน
ยุโรปโดยตรง เพราะอย่าลืมว่าในช่วงปีที่ผ่านมา ทวีปยุโรปประสบวิกฤตด้านเศรษฐกิจอย่างหนัก จนทำให้
หลายวงการต้องได้รับผลกระทบกันไปตามๆกัน ซึ่งคาดกันว่า กว่าฟอร์ดจะกลับมาสร้างกำไรในยุโรปอีกครั้ง
อาจไม่ใช่ภายใน 2-3 ปีนี้ครับ