ด้วยกระแสความต้องการของรถกระบะบรรทุกเชิงพาณิชย์ที่มีสูงขึ้น ทำให้ทาทา มอเตอร์ส เร่งพัฒนารถยนต์กระบะของตน
ส่ง ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ เครื่องยนต์ดีเซล และซีเอ็นจี เสริมทัพไลน์กระบะพาณิชย์ และเป็นครั้งแรกของเมืองไทย
กับกระบะใช้เพลา เฮฟวี่ ดิวตี้ สนองความต้องการลูกค้า ให้มั่นใจในคุณภาพและสมรรถนะ หลังเสริมความแข็งแกร่งให้
บรรทุกหนักได้มากขึ้น สร้างความคุ้มค่าคุ้มราคายิ่งขึ้น พร้อมพัฒนาเครื่องยนต์ซีเอ็นจีให้มีความทนทานกว่าเดิม
เตรียมบุกตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่เต็มตัว เปิดตัวเรียบร้อยแล้ววันนี้ (15 สิงหาคม 2555) สนนราคาเริ่มต้นที่ 519,000 บาท
บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองการก้าวสู่ปีที่ 5 ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการส่ง
ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ (TATA Xenon Giant Heavy Duty) กระบะเพื่อการพาณิชย์รุ่นแรกในเมืองไทย
ที่ติดตั้งเพลาแบบ เฮฟวี่ ดิวตี้ ซึ่งผลิตออกมา 2 รุ่น ทั้งในรุ่นซีนอน เฮฟวี่ ดิวตี้ เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ
อินเตอร์คูลเลอร์ และซีนอน เฮฟวี่ ดิวตี้ ซีเอ็นจีพลัส เครื่องยนต์เบนซินซีเอ็นจี 2.1 ลิตรใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการ
ให้กับลูกค้าที่ใช้รถเพื่อดำเนินธุรกิจขนส่งต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคามากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะในส่วนของ ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ ซีเอ็นจีพลัส นั้น ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ใช้ประสบการณ์
ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมาในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายรถซีเอ็นจีเป็นรายแรกในไทย สร้างความเข้าใจถึงความต้องการ
และวิธีการใช้งานรถของผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการ ซึ่งเน้นที่การนำรถไปใช้งานหนักในการดำเนิน
ธุรกิจ การขนส่งสินค้า เป็นอย่างดี เพื่อเป็นพื้นฐานในการการพัฒนาเครื่องยนต์และอุปกรณ์ชิ้นส่วนของไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้
ซีเอ็นจีพลัส ที่มีความแข็ง แกร่งทนทานต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น พร้อมการติดตั้งถังบรรจุก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจีมากถึง 3 ถัง
ซึ่งจะสามารถวิ่งได้ในระยะทางไกลกว่า 350 กิโลเมตร ทั้งนี้ นอกจากความคุ้มค่าคุ้มราคาจากสมรรถนะของ ไจแอนท์ เฮฟวี่
ดิวตี้ แล้ว ลูกค้ายังได้รับความคุ้มค่าจากการได้สิทธิ์คืนเงินตามนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลด้วย
นายอจิต เวนคาทารามาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ทาทา มอเตอร์ส ยังกล่าวถึงการเปิดตัว ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่
ดิวตี้ ในเมืองไทยครั้งนี้ว่า “ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ เป็นการขยายตลาดไปยังลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความต้องการใช้งานรถที่บรรทุก
ได้มากขึ้น ขณะที่รถกระบะทาทา ซีนอน ไจแอนท์ เครื่องยนต์ดีเซล รุ่นเพลามาตรฐาน ก็ยังมีการผลิตและจำหน่ายต่อไป เนื่องจาก
ลูกค้าในส่วนที่ใช้งานบรรทุกทั่วไปแบบปกติก็ยังคงมีอยู่ ทั้งนี้เรามั่นใจว่าการเปิดตัว ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ ทั้งสองรุ่นในครั้งนี้
จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งการเปิดตัวรถทั้งสองรุ่นยังถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในดำเนินธุรกิจในตลาดรถ
เพื่อการพาณิชย์ ด้วยการนำ เสนอผลิตภัณฑ์ที่รวมแล้วมากถึง 6 รุ่นในปัจจุบัน ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุดในตลาด”
Tata Xenon Single Cab Heavy Duty มาพร้อมทางเลือก 2 รุ่นด้วยกัน คือรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล สนนราคา 519,000 บาท
และเครื่องยนต์เบนซิน CNG สนนราคาที่ประมาณ 569,000 บาท พร้อมกับการปรับปรุงการบริการหลังการขายให้ดีมากขึ้น
ด้วยการเพิ่มศูนย์บริการเป็น 65 แห่งภายในปีงบประมาณ 2555 นำระบบการจัดการผู้แทนจำหน่าย DMS (Dealer Management System)
เข้ามาใช้กับดีลเลอร์ทั่วประเทศ เพื่อให้ดีลเลอร์สามารถจัดระบบบริหารและตอบสนองลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น