ถึง BMW i ซึ่งเป็นส่วนที่แยกออกมาจาก BMW เพื่อทำตลาดรถพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ
พึ่งก่อตั้งมาได้เพียง 3 ปีเท่านั้น แต่ทางผู้ผลิตได้มียอดขายทั่วโลกครบ 100,000 คัน เป็นที่
เรียบร้อยแล้ว โดยที่มี i3 ซึ่งเปิดตัวเป็นรุ่นแรกในเดือนพฤศจิกายนปี 2013 กับ ตัวเลขยอดขาย
มากกว่า 60,000 คัน เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ ทั้งที่ตลาดรถพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก
ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตอะไรเลย
ส่วน i8 ที่สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์นั้น แม้ว่าจะมีรูปลักษณ์ดึงดูดสายตา แต่ยอดขายกลับ
ไม่ดีเท่าไรนัก ด้วยตัวเลขยอดขายราว 10,000 คัน ตั้งแต่เปิดตัวในช่วงกลางปี 2014 แต่
คาดว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น หลังมี i8 Roadster มาช่วยเสริมทัพ สำหรับยอดขายอีก
30,000 คันที่เหลือ มาจากรถยนต์ Plug-in Hybrid รุ่นต่างๆของ BMW ที่จัดอยู่ในจำพวก
iPerformance ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าตลาด segment นี้จะโตในเร็ววันนี้ และ BMW ก็เล็ง
ที่จะขยายตัวเลือกผลิตภัณฑ์มารองรับด้วย
Harald Kruger ประธานบอร์ดบริหารของ BMW กล่าวว่า เราได้ประสบความสำเร็จในการ
นำเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้ามาใช้งานจริงบนถนนแล้ว ดังนั้นเทคโนโลยีขั้นสูงต่อไปที่เรา
ตั้งเป้าไว้ คือเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ ซึ่ง BMW iNEXT จะเป็นผู้ตั้งมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะตามมาในอนาคต ประกอบไปด้วย
ปี 2018
– MINI Countryman PHEV
– BMW i8 Roadster
ปี 2019
– MINI EV
ปี 2020
– BMW X3 EV
และ มี EV ที่ไม่บอกว่าคือรุ่นอะไรอีก 1 รุ่น ในปี 2021 ซึ่งเราต้องติดตามต่อไป กับทิศทาง
ของ BMW i รวมไปถึงหน้าตาของรถพลังงานไฟฟ้าลึกลับที่จะตามมาในอนาคต