Renault Clio ซับคอมแพคท์ยอดนิยมชาวยุโรปก็เดินทางมาถึงเวลาที่จะเปลี่ยนโฉมเป็นเจเนเรชั่นที่ 4 กันแล้ว คราวนี้
Renault ก็เลือกแผนการเปิดตัวบนกับสื่อมวลชนผ่านออนไลน์ก่อนที่จะอวดโฉมในงาน Paris Motorshow 2012 ใน
เดือนกันยายนนี้ พร้อมชูจุดเด่นหลายข้อ
Renault Clio จัดเป็นตระกูลรถซับคอมแพคท์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของค่ายข้าวหลามตัด Renault เริ่มแนะนำ
Clio เจเนเรชั่นแรกในปี 1990 เพื่อมาแทนที่ Renault 5 รถเล็กที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูงมาแล้วในยุค 70s-80s
Renault Clio เจเนเรชั่นแรกเคยได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการว่าเป็นหนึ่งในรถยอดเยี่ยมประจำปี 1991
(European Car of the Year 1991) จนค่อย ๆ ทะยานขึ้นเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสูงลำดับต้น ๆ ของตลาดยุโรป แล้ว
ก้าวเข้ามาสู่แบรนด์รุ่นรถที่มียอดขายคงที่ตลอดอายุตลาด
Renault Clio เจเนเรชั่นที่ 2 เริ่มแนะนำตัวในปี 1998 ด้วยรูปลักษณ์ที่เริ่มฉีกขนบธรรมเนียมการออกแบบรถขนาดเล็กใน
ยุโรปและเริ่มนำเทคโนโลยีการลดน้ำหนักตัวถังมาใช้เพื่อช่วยลดค่าบำรุงรักษาในสมัยที่ยังไม่เข้มงวดด้านอัตราสิ้นเปลือง
เชื้อเพลิงเหมือนวันนี้ Clio เจเนเรชั่นถือว่ามีความหลากหลายมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาไม่ว่าจะเป็นตัวถังซีดาน(บางประเทศ
ยังลากขายในชื่อ Platina/Symbol), เวอร์ชันสปอร์ตสุด ๆ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์วางหลังกันเลยทีเดียว
Renault Clio เจเนเรชั่นที่ 3 แนะนำตัวในปี 2006 ในยุคที่ Carlos Ghosn ดูแลกิจการ การออกแบบมีความคมคาย
ภายใต้เส้นสายที่เรียบง่ายไว้เช่นเคย
Renault Clio เจเนเรชั่นล่าสุดจะก้าวเดินไปยังทิศทางใหม่ที่เริ่มมีความตื่นตาตื่นใจทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบที่
มีความแปลกใหม่มากขึ้น, การบรรจุเทคโนโลยีระบบส่งกำลัง, การยกระดับภายในห้องโดยสารใหม่
งานออกแบบภายนอกได้รับอิทธิพลจากรถต้นแบบ Renault Dezir Concept โดยเฉพาะดีไซน์ด้านหน้าเอกลักษณ์ใหม่
ของ Renault ประจำยุค 2012 ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญของ Laurens van den Acker หัวหน้าดูแลทีมการออกแบบ
Renault คนใหม่ (เคยเป็นอดีตผู้ดูแลงานออกแบบของ Mazda ในช่วงยุคแนวคิด Nagare Design)
Laurens van den Acker ได้อธิบายงานออกแบบของ Renault Clio โฉมใหม่ว่ามันเป็นงานออกแบบที่รวม
ประติมากรรมความรัญจวนใจช่วยกระตุ้นความปรารถนายิ่งนัก มันดูเหมือนมัดกล้าม มันมีเส้นโค้งซึ่งแสดงออกถึงความมี
ชีวิตชีวา ไม่มีมุมแหลมหรือเส้นดุกร้าวแต่อย่างใด มีเพียงเส้นโค้งเย้ายวนเท่านั้นที่จะนำพาคุณไปหาและกอดรัดมัน
มิติตัวถัง Renault Clio โฉมใหม่ไม่ได้ระบุรายละเอียดตัวเลขมาให้ แต่ได้ระบุเอาไว้ว่าเป็นรถที่มีความสูงลดลงและมี
แทร๊คล้อที่กว้างขึ้น แต่มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นเดิมถึง 100 กิโลกรัม
ภายในห้องโดยสาร Renault Clio โฉมใหม่จะใช้ชิ้นส่วนภายในร่วมกับ Renault Zoe หลายชิ้น ชิ้นที่เห็นได้เด่นชัดมาก
คือแผงแดชบอร์ดกลางทั้งหมด ส่วนรายละเอียดทั้งหมดก็จะแตกต่างจาก Renault Zoe อย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะการให้
ความรู้สึกดูมีคุณภาพและน่าจับต้องได้ภายใต้การออกแบบที่สะอาดตาและเรียบง่าย อุปกรณ์มาตรฐานที่ Renault ภูมิใจ
นำเสนอคือระบบ R-Link ที่ทำงานร่วมกับหน้าจอสัมผัสเพื่อรายงานข้อมูลบันเทิงโดยตรงสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่
ติดตั้งแอพพลิเคชั่น R-Link เพื่อทำกิจกรรมออนไลน์หรือส่งข้อความผ่านหน้าจอสัมผัสในรถได้
นอกจากนี้ยังมีของเล่นใหม่คือแอพพลิเคชั่น R-Sound Effect สามารถสั่งการให้มีเสียงเครื่องยนต์จำลองเปล่งเสียงผ่าน
ลำโพงภายในรถได้ถึง 6 เสียง เสียงที่เปล่งจะสัมพันธ์กับการกดคันเร่งและความเร็วรถ
ลูกค้า Renault Clio โฉมใหม่สามารถเลือกสีรถภายนอกที่สามารถเติมสีบริเวณประตู, กันชนหน้า, กันชนท้ายและภายใน
ที่สามารถเปลี่ยนสีแดชบอร์ด, แผงข้างประตู, พวงมาลัย, แผงเกียร์, กรอบช่องแอร์หรือแม้กระทั่งพรมปูพื้นได้อิสระ
ในช่วงปลายปี 2012 ขุมพลังของ Renault Clio เจเนเรชั่นที่ 4 จะมีขายเพียงแค่เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 900 ซีซี TCe
เทอร์โบชาร์จ 90 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลือง 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย
CO2 แค่ 99 กรัมต่อกิโลเมตร และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 1.5 ลิตร 90 แรงม้า (PS) ประหยัดน้ำมันถึง 3.2 ลิตรต่อ 100
กิโลเมตร
ต้นปี 2013 จะแนะนำเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.2 ลิตร TCe เทอร์โบชาร์จ 120 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร
จับคู่เกียร์คลัทช์คู่ในชื่อ EDC 6 จังหวะ หลังจากนั้นสักพักก็จะแนะนำ RenaultSport Clio โฉมใหม่ที่ติดตั้งเครื่องยนต์
เบนซิน 1.6 ลิตร เทอร์โบ 200 แรงม้า ที่คาดว่าน่าจะเป็นเครื่องเดียวกับ Nissan Juke Turbo และ Tiida Turbo
Renault Clio โฉมใหม่จะถูกผลิตขึ้นในฝรั่งเศสและตุรกีสำหรับทำตลาดในยุโรป พร้อมทั้งอวดโฉมในงาน Paris
Motorshow 2012 อีกด้วย