Lexus IS Minorchange เริ่มออกจำหน่ายแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น ความเปลี่ยนแปลงจะเน้น
ไปที่การแต่งหน้าทาปาก และ เสริมลูกเล่นต่างๆ ภายนอกมาพร้อมกับไฟหน้าที่ดูโฉบเฉี่ยว
กว่าเดิม พร้อมเปลี่ยนรายละเอียดภายในโคม โดยลดขนาดไฟ Projector วงกลม กับ เพิ่ม
วงแหวน LED Tube ทรงสี่เหลี่ยมล้อมรอบ กระจังหน้ามีความคมบริเวณมุมมากขึ้น อีกทั้ง
ยังเสริม 3D F Mesh เพื่อช่วยปรับปรุงตามหลักอากาศพลศาสตร์ด้วย
ฝากระโปรงหน้าถูกเปลี่ยนให้รับกับหน้าใหม่เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีกันชนหน้า-หลังทรงใหม่,
ล้อ 17 นิ้ว 5 ก้านคู่ลายใหม่, เปลี่ยนปลายท่อไอเสียทรงกลมเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมู, เพิ่ม
ความคมของแนวไฟท้าย และเพิ่ม LED Tube ในไฟท้ายจาก 2 ชั้นเป็น 3 ชั้น นอกจากนี้
มีสีตัวถังเพิ่มใหม่อีก 2 สีประกอบไปด้วย สีน้ำเงิน Deep Blue Mica และ สีเทาดำ Graphite
Black Glass Flake ทำให้มีตัวเลือกทั้งหมด 11 สี
ภายในเพิ่มขนาดของหน้าจอสัมผัสจาก 7 นิ้วเป็น 10.3 นิ้ว, เพิ่มปุ่ม Enter ที่ด้านข้างของ
ส่วนควบคุม Remote Touch interface ตรงคอลโวลกลางให้ใช้งานง่ายขึ้น, เปลี่ยน
ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ, หน้าปัด, ที่วางแก้ว, ที่พักมือ, นาฬิกาแบบเข็ม, วัสดุตกแต่ง
และการเดินด้าย นอกจากนี้ยังเพิ่มลำโพงจาก 8 ตัวเป็น 10 ตัวพร้อมมีเครื่องเสียงจาก
Mark Levinson ที่ให้เสียงแบบ 3D ไว้ติดตั้งเพิ่มอีกด้วย
ขุมพลังมีให้เลือก 3 เช่นเดิมและไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยที่รุ่น IS200t และ IS350
ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ส่วนรุ่น IS300h มีให้เลือก
ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและ 4 ล้อ สำหรับรายละเอียดอื่นๆมีดังต่อไปนี้
– IS 200t เครื่องยนต์เบนซิน 8AR-FTS 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า (PS)
ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 35.7 กก-ม. (350 นิวตันเมตร) ที่ 1,650-4,400 รอบ/นาที
– IS 350 เครื่องยนต์เบนซิน 2GR-FSE V6 3.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 318 แรงม้า (PS)
ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 38.7 กก-ม. (380 นิวตันเมตร) ที่ 4,800 รอบ/นาที
– IS 300h เครื่องยนต์เบนซิน 2AR-FSE 4 สูบ 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า (PS)
ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 22.5 กก-ม. (221 นิวตันเมตร) ที่ 4,200 รอบ/นาที
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 30.6 กก-ม.
(300 นิวตันเมตร) อัตราบริโภคเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยของรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง และ 4 ล้อ
อยู่ที่ 23.2 และ 20.4 กิโลเมตร/ลิตร ตามลำดับ
ช่วงล่างมีการปรับปรุงโช๊คอัพ พร้อมกับเปลี่ยน Lower Arm ด้านหน้าไปใช้วัสดุอลูมิเนียม
ซึ่งช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยน Bush ช่วงล่าง และมี
การเพิ่ม Mode การขับขี่แบบ Customize ให้คนขับตั้งค่าต่างๆได้ตามใจชอบอีกด้วย
ระบบความปลอดภัยมีการเพิ่ม Lexus Safety System + ซึ่งจะเพิ่มระบบตรวจจับคนเดินถนน
พร้อมระบบหลีกเลี่ยงการชน (Pedestrian detection function with collision avoidance),
ระบบแจ้งเตือนรถออกนอกเลนพร้อมควบคุมพวงมาลัย (Lane departure alert with steering
controls), ไฟสูงปรับอัตโนมัติ Automatic high beam, และ Radar cruise control
สำหรับ Lexus IS Minorchange ในไทย คงรอกันหลังจากนี้อีกไม่นานนัก คาดว่า
คงจะเป็นรุ่น IS200t และ IS300h เหมือนเช่นเคย