จุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมรถยนต์ในวันนี้ไม่ใช่แค่พัฒนาการของงานวิศวกรรมเท่านั้น
แต่มันรวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและระบบสารสนเทศสำหรับ
ติดต่อสื่อสารกับผู้คนภายนอก (และในอนาคตก็จะมีการติดต่อสื่อสารระหว่างยานพาหนะด้วยกัน)
รถรุ่นใหม่ทุกวันนี้มีทั้งเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่สารพัด โดยมีจุดมุ่งหมายคือเพื่อเพิ่ม
ความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารและผู้ขับขี่ในรถทุกคน และนอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งติดรถที่
เรียกว่าหน้าจอสัมผัส Infotainment จนกลายเป็นมาตรฐานของรถยุคใหม่ซึ่งมันก็ดีอยู่
หรอกถ้าหากรถมันนิ่งอยู่กับที่ แต่สำหรับระบบ Infotainment จากหลายบริษัทผู้ผลิตมัก
จะใช้งานยากมากขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่อยู่ เพราะอินเตอร์เฟสของระบบ Infotainment
มันซับซ้อนไม่ต่างจาก Tablet กันเลย
ความยุ่งยากในการใช้หน้าจอสัมผัสกลางแดชบอร์ดถือเป็น “ข้อด้อยหรือข้อจุกจิก” ในสาย
ตาของลูกค้าและรวมถึง J.D.Power อีกด้วย
J.D.Power คงทราบดีว่าปัญหาใช้งานฟังก์ชันไฮเทคและระบบหน้าจอสัมผัสภายใน
รถยนต์นั้นกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่มีทีท่าว่าจะถูกแก้ไขได้อย่างรวดเร็วนัก ดังนั้น J.D.
Power จึงจัดทำสำรวจดัชนีชี้วัดความเป็นมิตรของระบบฟังก์ชันภายในรถยนต์เพื่อให้
ผู้บริโภครับรู้กันว่าแบรนด์ไหน รุ่นไหนใช้งานได้ดีที่สุด
ผลสำรวจที่ J.D.Power คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคที่เพิ่งซื้อรถยนต์คันใหม่จำนวน
17,864 รายเพื่อสำรวจความพึงพอใจเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่าง ๆ พบว่า ระบบช่วยเหลือความ
ปลอดภัย อาทิ กล้องหลังสำหรับช่วยถอยจอดด้านหลัง, ระบบเตือนจุดบอด, ระบบเตือน
ช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถเข้าเลนได้คะแนนความพึงพอใจสูงสุดถึง 754 จาก 1,000 คะแนน
แต่ในทางกลับกันคะแนนดัชนีระบบนำทางกลับได้เพียงแค่ 687 คะแนนจาก 1,000 คะแนน
เท่านั้น ซ้ำร้ายผู้ผลิตรถยนต์ 57% ได้ว่าจ้างผู้ผลิตจากภายนอก (OEM) มาช่วยติดตั้งและ
ดูเหมือนว่าจะผลักภาระการแก้ไขปัญหานี้ไปยังฝ่ายอื่นเสียด้วย
BMW และ Hyundai ต่างมีค่าดัชนีชี้วัดว่าเป็นรถที่มีฟังก์ชันไฮเทคที่ดูเป็นมิตรกับผู้ใช้มาก
ที่สุด เพราะ BMW 2-Series และ 4-Series รวมถึง Hyundai Genesis และ Tucson
ต่างทำคะแนนดัชนีความพึงพอใจกับระบบไฮเทค อาทิ ระบบป้องกันการชนด้านหน้า
, ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่, ระบบความบันเทิง/การเชื่อมต่อ, ระบบนำทาง, ระบบการพ่วง
ฟังก์ชันร่วมกับสมาร์ทโฟน (Smartphone Mirror),ความสะดวกและความสบายโดย
รวมดีที่สุดในแต่ละคลาส
น่าสังเกตว่า ผู้คนเลือกที่จะไม่ใช้งานระบบเตือนจุดบอดแตกต่างจากระบบช่วยเหลือ
ความปลอดภัยอื่น ๆ และถ้าหากเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่สร้างความรำคาญใจให้
มาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดภาพจำที่ไม่ดีต่อเนื่องไปยังเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติใน
อนาคตได้
อย่างไรก็ตาม ตัวแปรความพึงพอใจในการใช้งานฟังก์ชันไฮเทคอย่างมากก็คือดีลเลอร์
รถยนต์ หากมีการสาธิตการใช้งานเทคโนโลยีก็จะทำให้มีดัชนีคะแนนความพึงพอใจ
เพิ่มขึ้น 54% เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่พยายามศึกษาฟังก์ชันด้วยตนเอง
โดยสรุป หน้าที่ของการรักษาความพึงพอใจในการใช้งานคงจะต้องตกอยู่กับบรรดา
ดีลเลอร์ทั้งหลายว่าให้ข้อมูลแก่ลูกค้าครบถ้วนแค่ไหน?
ที่มา : Automotive News
กลุ่มรถ | รุ่นที่มีคะแนนสูงสุด | อันดับ 2 | อันดับ 3 |
Compact | Kia Forte | Scion iM | Mitsubishi Outlander |
Compact Premium | BMW 4 Series | Lexus IS | Lincoln MKC |
Small | Hyundai Tucson | Scion iA | Fiat 500X |
Small Premium | BMW 2 series | Audi A3 | BMW X1 |
Midsize | Chevrolet Camaro | Kia Sorento (tie) | |
Nissan Murano (tie) | |||
Midsize Premium | Hyundai Genesis | Cadillac CTS | Mercedes-Benz GLE-Class |
Large | Nissan Maxima | Chevrolet Silverado LD | GMC Sierra LD |