นับตั้งแต่ Toyota Motor เปิดตัวรถยนต์ตระกูล Corolla เวอร์ชันตลาดญี่ปุ่นที่มีให้เลือกทั้งตัวถังซีดาน Axio และแบบ
แวกอน Fielder หลังจากนั้นกระแสข่าวรถยนต์ในตระกูลนี้ก็เริ่มเป็นที่จับตามากขึ้นว่า Toyota Corolla สำหรับตลาดโลก
จะมีแนวทางเป็นเช่นไร เพราะดูเหมือน Toyota Motor จะเริ่มปฏิวัติวิธีคิดและการพัฒนา Corolla ให้แยกออกมา
สำหรับ 2 ตลาดโดยเฉพาะ
และจิ๊กซอว์สำคัญที่น่าจะช่วยทำให้ความน่าสงสัยในตัว Toyota Corolla ตลาดโลกลดลงคือเว็บไซต์
noticiasautomotivas.com.br ได้ลงภาพหลุดจากโบรชัวร์ Toyota Auris เจเนเรชั่นใหม่ล่าสุด จากภาพก็แสดงให้เห็น
ว่ามันหลุดมาจากญี่ปุ่นขนานแท้ และก็ชัดเจนว่าสำหรับตลาดญี่ปุ่นก็ยังคงใช้ชื่อ Toyota Auris อยู่เพื่อป้องกันการสับสน
ระหว่างตระกูล Corolla ในท้องถิ่นกับรถคันนี้
แต่สำหรับตลาดโลกมีความเป็นไปได้สูงมากว่าอาจจะกลับไปใช้ชื่อ Toyota Corolla Hatchback แทนที่ Toyota Auris
โดยเฉพาะบางประเทศในยุโรปโดยให้เหตุผลว่าบารมีของ Corolla น่าจะทำให้รถยนต์ C-Segment ท้ายตัดประสบ
ความสำเร็จในยุโรปบ้าง
Toyota Corolla Hatchback/Auris เจเนเรชั่นใหม่ถูกออกแบบให้มีความปราดเปรียวในเส้นสาย ด้านหน้าถูกออกแบบ
ในสไตล์ Keen Look อันเป็นภาพลักษณ์ใหม่ของรถยนต์ Toyota เจเนเรชั่นใหม่ เส้นสายด้านข้างมีความเรียบง่าย
กว่าเดิม
ความยาวตัวถังเพิ่มขึ้นอีก 3 นิ้ว เป็น 4.27 เมตร ความสูงก็ลดลงมาเหลือ 1.46 เมตร ความกว้างเท่าเดิม 1.76 เมตร
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความทันสมัยและได้รับอิทธิพลจาก Toyota GT-86 ไม่น้อย เมื่อสังเกตให้ดี ๆ แผง
คอนโซลก็จะดูคล้ายกับนำแผงคอนโซลของ Toyota Corolla เวอร์ชันญี่ปุ่นโฉมใหม่มาปรับปรุงรายละเอียดให้ลงตัวและ
เหมาะสมกับรสนิยมของคนทั่วโลกมากขึ้น นอกจากนี้ Toyota ยังจัดเนื้อที่ห้องโดยสารให้มีความลงตัวและนั่งสบายขึ้น
รวมไปถึงปรับปรุงส่วนเสริมของชุดเบาะ
ขุมพลังของ Toyota Corolla Hatchback/Auris จะติดตั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 108 แรงม้าไปจนถึง 1.8 ลิตร 144
แรงม้าทุกรุ่นจับคู่เกียร์ CVT ส่วนรุ่น 1.8 มีเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะให้เลือก ระบบช่วงล่างหลังของรุ่น 1.5 ลิตรแบบทอร์ชัน
บีม ส่วนรุ่น 1.8 ลิตรจะเป็นแบบปีกนกสองชั้น ทุกรุ่นจะติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยถุงลมนิรภัย 6 ใบ, ระบบควบคุมการ
ทรงตัว
Toyota Auris จะทำตลาดในญี่ปุ่นเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนตลาดโลกน่าจะทยอยวางจำหน่ายปลายปีนี้ ส่วน Toyota
Corolla ตัวถังซีดานคาดว่าน่าจะได้เห็นโฉมกันภายในสิ้นปีนี้หรือปี 2013