ใครที่มักติดตามวงการรถยนต์มาโดยตลอด ก็ย่อมต้องรู้จักงานแสดงรถยนต์
Mondial de l’Automobile หรือ Paris Motorshow ช่วงปลายของปีที่ลงท้าย
ด้วยเลขคู่ เรียกว่าเป็นงานแสดงที่ยิ่งใหญ่คู่คี่สูสีกับ Geneva Motorshow
แต่ด้วยสภาวะแห่งการดิ้นรนและบีบคั้นที่รุนแรงขึ้นทุกวัน ๆ ก็ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ชั้น
นำ อาทิ Bentley, Mazda, Rolls-Royce , Aston Martin, Lamborghini, Fiat และ Ford
ยกทัพกันโบกมือลางานแสดงรถยนต์ยักษ์ใหญ่นี้
มีการวิเคราะห์ไว้ว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทรถหลายค่ายพากันมองข้ามงานแสดง
รถยนต์แห่งนี้ไปก็คือค่าใช้จ่ายในการจัดบูธที่สูง ประกอบกับในงานนี้มีแต่ผู้ผลิตที่ต้องการ
สร้างความโดดเด่นให้แก่บูธและรถรุ่นใหม่ของตัวเอง จึงทำให้ต้องออกแรงแข่งขันกันเด่น
ให้มากที่สุด นั่นก็อาจทำให้ความเข้มข้นของการสื่อสารกับผู้ชมโดนลดทอนลงไป
จนบริษัทหลายรายแอบไปจัดงานอีเวนท์หรือจัดกิจกรรมการตลาดที่สื่อสารกับลูกค้าโดย
ตรงแทน
สรุปแล้วว่าวันนี้ศักดิ์ศรีความยิ่งใหญ่ของงาน Paris Motroshow ในยุคนี้เริ่มมีภาพความ
เป็นงานแสดงรถยนต์รองบ่อนกว่า Geneva Motorshow ด้วยจังหวะและสภาวะที่ไม่เป็น
ใจเอาเสียเลย
อย่างไรก็ตาม Paris Motorshow ก็คือ Paris Motorshow อยู่วันยังค่ำ เพราะมีบริษัท
รถยนต์มากหน้าหลากตาเต็มใจที่จะนำรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดและรถต้นแบบมาอวดโฉมกัน
คับคั่งเช่นเคย บางรุ่นก็สร้างความน่าตื่นเต้นสุด ๆ บางรุ่นก็อาจต้องเอามือปิดปากหาว
เสียหน่อย
Audi
Audi A5/S5 โฉมใหม่เปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ด้วยตัวถังคูเป้และสปอร์ตแบ็ค เป็นการแสดง
แสนยานุภาพงาน Design Language ที่มีความเร้าใจมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงที่สุด
เพราะ Audi จะเตรียมแนะนำ Design Language ใหม่เต็มรูปแบบใน Audi A8 รุ่นใหม่
ล่าสุดก่อนเป็นคันแรก
All New Audi A5/S5 Coupe และ Sportback มีใบหน้าที่เหมือนกันด้วย
กระจังหน้า Single Frame ที่ขยายใหญ่ไปเกือบจะสุดขอบตัวถัง แต่
กันชนหน้าและกรอบไฟตัดหมอกหน้ามีดีไซน์ที่แตกต่างกัน
All New Audi A5/S5 Coupe และ Sportback จะเป็นการนำรถรุ่นเดิมมาขัดเกลาตัวถังใหม่
ที่มีวิวัฒนาการการออกแบบร่วมกันคือ การออกแบบชายล่างประตูให้ดูคม สร้างมิติใหม่ให้แก่
ผู้พบเห็น, ขัดเกลาเส้น BeltLine ให้คมขึ้นและขัดเกลากรอบกระจกรอบคันให้ดูพรีเมี่ยมขึ้น
มีบั้นท้ายถูกออกแบบให้เชิดขึ้นในสไตล์ Short Deck ดูลงตัวด้วยการลากแนวไฟท้ายให้
โอบล้อมตัวถังด้านข้างมากขึ้น, ออกแบบไฟท้ายเรียวยาวให้กับบั้นท้ายที่มีสปอยเลอร์ในตัว
ทำให้มีภาพลักษณ์ตัวรถโดยรวมสง่างามขึ้นเหมือนคนไหล่ตั้งตรง
ภายในห้องโดยสารแทบจำหน้าตาแบบเดิมไม่ได้เลยเพราะแปลกตากว่าเดิมด้วยแผง
แดชบอร์ดแนวนอนที่อุดมไปด้วยแผงช่องแอร์ยาว เน้นการจัดวางอุปกรณ์ที่ใกล้มือ
ผู้ขับขี่มากที่สุด
All New Audi A5 Coupe มีเครื่องยนต์ให้เลือก 5 แบบได้แก่ เบนซิน TFSI 2
เครื่องและดีเซล TDI 3 เครื่อง มีพละกำลังตั้งแต่ 190 แรงม้าจนถึง 286 แรงม้า
ถือว่าแรงขึ้น 22% แต่ประหยัดน้ำมันขึ้น 17% สำหรับ Audi S5 Coupe ติดตั้ง
เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร TFSI ให้กำลัง 354 แรงม้า แรงกว่าเดิม 21 แรงม้า
A5/S5 Sportback มาพร้อมเครื่อง TFSI บล็อกใหม่ที่พัฒนาให้แรงขึ้น 17% ประหยัด
น้ำมันขึ้น 22% ได้แก่เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร G-Tron (รุ่นติดก๊าซ CNG) 170 แรงม้า
แรงบิด 270 นิวตันเมตร, เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 190 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร
, เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 252 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร
TFSI ให้กำลัง 354 แรงม้าแรงบิด 500 นิวตันเมตร
All New Audi Q5 ใหม่ มองเผิน ๆ นึกว่าเป็นรุ่น Minorchange แต่หารู้ไม่ว่านี่คือ
รุ่นเปลี่ยนโฉม แต่อย่างว่างานวิศวกรรมของรถรุ่นใหม่ใคร ๆ ก็ดูกันออกว่าเอาของเก่า
มายำใหม่
เส้นสายรอบคันของ All New Audi Q5 จะเป็นการผสมผสานระหว่างใบหน้าใหม่ของ
Q7 ด้วยกระจังหน้า Single Frame กรอบสีเทาขนาดใหญ่ที่มีซี่ตะแกรงเด่นชัดวางตำแหน่ง
ที่ติดชิดกับขอบไฟหน้า พร้อมกันชนหน้าที่เหมือนจะถอดมาจาก Q7 ส่วนแนวเส้นตัวถังรถ
คล้าย ๆ กับ A5/S5 รุ่นใหม่
งานวิศวกรรมที่เด่น ๆ ก็คือมันมีน้ำหนักตัวถังเบาลง 90 กิโลกรัม และยังมีค่าสัมประสิทธิ์แรง
เสียดทานแค่ 0.30 เท่านั้น
Audi Q3 รุ่นปรับโฉมที่ถอดเบ้าหน้าจาก Q5 รุ่นใหม่เปลี่ยนกันชนหน้าทรงใหม่ พร้อมช่องดักลม
ทรงที่ดูดุดันขึ้น กระจังหน้าเป็นชิ้นเดียวกับกันชน พร้อมด้วยสเกิร์ตหน้าพ่นสีเดียวกับตัวถัง
นอกจากนี้ชายล่างกันชนหน้า และ โป่งล้อรอบคันยังพ่นสี Stone Gray มาให้เป็นมาตรฐาน
สำหรับสีตัวถังจะมีสีเขียว Camouflage Green มาแทนสีน้ำตาล Thundra Brown ของรุ่นเดิม
พิเศษมีรุ่น Audi Q3 S-Line จะเปลี่ยนรังผึ้งในกระจังหน้า ให้เป็นทรงเพชรแทนพร้อมกับพ่นสี
กระจังหน้า, ช่องดักลมกันชนหน้า, ฝาครอบกระจกมองข้าง, ขอบกระจกหน้าต่าง, โป่งล้อรอบคัน,
สปอยเลอร์หลังคา, ราวหลังคา, และ ชายกันชนหลังด้วยสีดำเงา นอกจากนี้ยังมีล้อสีดำเงาลายใหม่
ขนาด 19 นิ้วอีกด้วย
สำหรับ Audi A5/S5 ใหม่และ Q5 ใหม่ต้องลุ้นกันว่าจะมีสิทธิ์ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในไทยหรือไม่?
BMW
BMW X2 Concept มาพร้อมแนวคิดที่แปลกมาก แทนที่จะเป็นเอสยูวีบั้นท้ายลาดแบบคูเป้เหมือน
X4 และ X6 แต่นี่กลับเหมือนกับนำ VW Scirocco มาจับยกสูงขึ้น นั่นก็ทำให้รถคันนี้ดูแตกต่างและ
สร้างความประหลาดใจที่เกินคาด
จุดเด่นสำคัญของ BMW X2 Concept คือการออกแบบแพ๊คเกจอัจฉริยะ ตัวรถมีบุคลิกบึกบึนพร้อม
ลุยแบบ X-Series แต่พยายามออกแบบตัวรถให้ดูหลอกตาว่าตัวรถมันก็จะเตี้ยติดพื้นดิน ด้วยกระจัง
หน้าโหลดต่ำ, การออกแบบกระจกรอบคันที่ดูเพรียวและออกแบบสันขอบบั้นท้ายให้ดูสปอร์ตมาก
จุดแตกต่างจาก BMW X4 และ X6 คือการออกแบบแนวหลังคาที่ลากยาวคล้ายเอสยูวีทั่วไป
แต่เพิ่มสปอยเลอร์ท้ายให้ยื่นยาวออกไปรับกับสัดส่วนตัวรถที่ออกแนวเพรียวยาว
BMW X2 Concept อาจเป็นทางเลือกใหม่ของเอสยูวีสปอร์ตที่ไม่เดินตามเกมส์ใคร คาดว่าน่าจะ
ได้เห็นภายในไม่เกิน 2 ปีนับจากนี้
Citroen
Citroen CXPerience Concept อาจจะเป็นรถต้นแบบที่บ่งบอกความเปลี่ยนอะไรบางอย่างในอนาคต
ว่ากันว่ามันอาจจะเป็นต้นแบบเพื่อสำรวจปฏิกิริยาของรถขนาดกลางสำหรับทศวรรษหน้า
โดยมีภารกิจคือการกระตุ้นฟื้นให้รถซีดานขนาดกลางห่างไกลจากความตาย(ซึ่งในปัจจุบัน
รถ D-Segment ในยุโรปก็ค่อย ๆ มียอดขายลดลงเรื่อย ๆ )
จุดขายของรถต้นแบบคันนี้คือแพ๊คเกจความสบายที่สบายอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อนด้วย
Citroen Advanced Comfort Programme ชุดโปรแกรมการพัฒนาที่มอบ
ความสบายให้แก่ผู้โดยสารด้วยช่วงล่างไฮโดรลิคยุคใหม่ ที่ไม่ใช่ไฮนิวเมติคแบบดั้งเดิม
โดยใช้เทคโนโลยีไฮโดรลิคในการควบคุมระยะรีบาวด์และช่วยดูดซึมแรงกระเทือนแทน
ระบบกลไกแบบที่ผ่านมา ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่รู้สึกว่าตัวรถมีอาการกระเด้งกระดอน
เหมือนช่วงล่างทั่ว ๆ ไป
Citroen Advanced Comfort Programme ไม่ได้มาแค่ช่วงล่างนุ่มสบายเท่านั้น แต่มา
พร้อมกับบรรยากาศห้องโดยสารที่ถูกออกแบบอย่างผ่อนคลาย ใช้วัสดุธรรมชาติที่ใช้
สีนวลตา
ผู้เขียนไม่แน่ใจว่า Citroen จะนำแรงบันดาลใจจากรถคันนี้มาปั้นเป็นรถรุ่นใหม่ได้ตอนไหน
Ferrari
แรกเริ่มเดิมที Ferrari แนะนำ GTC4Lusso T เครื่องยนต์ V12 จนคนรวยหลายคนมองว่ามันแรงไปมั๊ย?
ถ้าหากคิดจะซื้อเพื่อเอาหน้าตา Ferrari ก็จึงจัดรุ่นเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบมาให้เป็นทางเลือกหนึ่ง
ขุมพลังยกมาจาก California T, 488 GTB, และ Maserati Quattroporte GTS กับ F154 เบนซิน
V8 4.0 ลิตรเทอร์โบคู่ให้กำลังสูงสุด 610 แรงม้า (PS) ที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 77.49 กก-ม.
(760 นิวตันเมตร) ที่ 3,000-5,250 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านล้อหลังให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ภายใน 3.5 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง
นอกจากเครื่องยนต์ที่ต่างกันแล้ว GTC4 Lusso T จะไม่มีระบบ 4RM-S อันเป็นระบบขับเคลื่อนและ
บังคับเลี้ยว 4 ล้อแต่จะแทนที่ด้วย SSC3 ที่เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ
และ Side Slip Control
Honda
หัวใจสำคัญของบูธ Honda หนีไม่พ้น Honda Civic Type-R Prototype รถที่บ่งบอกถึงสายพันธุ์แรง
ที่จะมีหน้าตารถคันจริงไม่ต่างจากนี้เท่าไรนัก โดยมีไฮไลต์สำคัญการเป็นรถ Civic Type-R คันแรก
ที่จะเปิดตัวในตลาดอเมริกา
รูปร่างหน้าตาของ Honda Civic Type-R Prototype จะเป็นรถที่ถูกฉีดสเตียรอยด์รอบคัน ดุดันไปจนถึงกล้าม
เนื้อ รายละเอียดทางเทคนิคยังไม่มีใครกล้าระบุว่ามันจะแรงได้สักกี่น้ำ แต่ข่าวลือก็แจ้งมาว่ามันอาจเป็นเครื่อง
เบนซิน 2.0 ลิตรเทอร์โบที่น่าจะต้องแรงกว่า 306 แรงม้า
นิยามของ Honda Civic Type-R คันนี้จะคือรถแข่งที่สามารถวิ่งบนถนนจริงได้ แต่น่าเสียดายที่คนไทยอาจ
มีโอกาสสัมผัสน้อย
Hyundai
Hyundai งวดนี้กลับมาแปลกกว่าที่เคยเพราะแทนที่จะมาด้วยความโฉบเฉี่ยวและเป็น
ทางเลือกใหม่ที่หลุดกรอบจากรถตลาดเดิม ๆ กลับกลายเป็นว่า Hyundai i30 พยายามจะ
ทำตัวเป็นรถยนต์สำหรับประชาชน อารมณ์ก็คงคล้าย ๆ กับ VW Golf เวอร์ชันเกาหลีใต้
ผู้เขียนเชื่อว่า Peter Schreyer ที่เป็นทั้งประธานและผู้บริหารฝ่ายออกแบบ Hyundai
คงตั้งโจทย์เอาไว้ว่า Hyundai ต้องเป็นรถที่ดูดีและมียอดขายเพิ่มขึ้นด้วยแน่ ๆ ไม่อย่างนั้น
ก็คงไม่กล้าออกแบบให้ Hyundai i30 ดูอนุรักษ์นิยมมากขนาดนี้
เส้นสายรวม ๆ เหมือนกับลอกความสำเร็จจาก Peugeot 308 และเหยาะส่วนผสมความเป็น
กิมจิที่รับประทานง่ายมากขึ้น เน้นการใช้งานและความพรีเมี่ยมที่คาดไม่ถึง
องค์ประกอบงานออกแบบใหม่ล่าสุด Cascading Grille หรือกระจังหน้าที่ไม่เป็นทรง
เลขาคณิตแตกต่างจากกระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยมจะกลายเป็นแนวทางใหม่สำหรับรถยนต์
Hyundai รุ่นใหม่
สัดส่วนตัวถังที่ดูเรียบง่าย มีระยะโอเวอร์แฮงค์รอบคันสั้น มีพื้นที่ด้านหน้ายาวแต่ร่น
เสา A ขยับด้านหลังจะช่วยให้ตัวรถดูสง่างามขึ้น
ก็ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้ Hyundai i30 ใหม่จะทำยอดขายเพิ่มขึ้น, เท่าเดิม
หรือถอยลง
2017 Hyundai i10 Minorchange เวอร์ชันยุโรปมีการ
ปรับปรุงรายละเอียดเล็กน้อยเพื่อเรียกความสดใหม่ ด้วยการเปลี่ยนชุดกันชนหน้าใหม่
ที่มีช่องดักลมหน้าทรงแปลกที่ Hyundai เรียกว่า “Cascading Front” ติดตั้งไฟ
DRL LED หลอดกลม ๆ พร้อมช่องดักลมบริเวณไฟตัดหมอกทรงบูมเมอแรง
บั้นท้ายก็มีความเปลี่ยนแปลงตรงกันชนท้ายที่ติดตั้งแผงทับทิมสีแดงทรงกลมรับกับ
ทรงกันชนท้ายที่ดูวัยรุ่นขึ้นและปรับเปลี่ยนรายละเอียดไฟท้ายใหม่
Kia
บริษัทรถฝาแฝด Hyundai อย่าง Kia ก็มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ไม่น้อยหน้าใครเลย
โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ Kia Rio โฉมใหม่ล่าสุดที่ต้องบอกไว้เลยว่ามันก็คือ
Hyundai i20 มาพัฒนาให้กลายเป็นรถ Kia นั่นเอง
วิวัฒนาการการออกแบบจะเห็นชัดได้จากการออกแบบกระจังหน้า Tiger Nose ที่ลาก
ยาวจรดกับไฟหน้าทำให้มิติตัวรถดูกว้าง, ไฟหน้าผอมเพรียวกว่ารุ่นเดิมพร้อมไฟ DRL
U-Shape, ติดตั้งไฟตัดหมอกในตำแหน่งที่สูง มิติสัดส่วนตัวถังก็เหมือนกับ Hyundai
i20 เป๊ะ ๆ เพียงแต่มันจะมีรายละเอียดที่แตกต่างจาก Hyundai i20 หลายอย่าง อาทิ
ดีไซน์ด้านหน้าทั้งหมด, การออกแบบกรอบกระจกประตูหน้าที่ดูมน ๆ ขึ้น, ลายเส้นตัวถัง
ด้านข้างที่เน้นมิติเว้าลึกบริเวณชายล่างประตู, เปลี่ยนตำแหน่งมือจับประตูภายนอก
, ตัดแถบสติ๊กเกอร์ Floating ทิ้ง และบั้นท้ายใหม่ที่ดูเป็นรถยุโรปมากขึ้น
ภายในห้องโดยสารแตกต่างจาก Hyundai i20 มาก ด้วยแผงแดชบอร์ดดีไซน์ใหม่ที่
มีรูปแบบเหมาะกับสรีระมากกว่ารุ่นก่อน เน้นเส้นสายเส้นตรงและเน้นแนวกว้างที่ทำ
ให้ห้องโดยสารดูกว้างขวางขึ้น, ติดตั้งหน้าจอสัมผัส infotainment ที่ลอยเด่นเน้น
การใช้งานที่ง่ายขึ้น
Kia Karens ใบหน้าใหม่พร้อมกับกระจังหน้าใหม่ที่ดูเหมือนรถตระกูล DS มากพร้อมปรับ
ไฟหน้าให้มีสีสดใส พร้อมกันนี้ยังมีการปรับปรุงเบาะนั่งใหม่, หน้าจอสัมผัสขนาด 7-8 นิ้ว
Land Rover
Land Rover คงมั่นใจแล้วว่าการอัพเกรด Discovery ให้มาทับความหรูเทียบเคียงกับ
Range Rover นั้นเป็นสิ่งสมควรทำเพราะว่ามันถึงเวลาแล้วที่ Discovery จะต้อง
เติบโต และดูเหมือนว่าพวกเขาจะมั่นใจว่า Defender โฉมใหม่จะสานต่อหน้าที่ของ
Discovery ได้แน่นอน
ดีไซน์ภายนอกฉีกแนวไปจาก Land Rover Discovery เดิมมาก ทั้งหล่อเท่ห์
และดูสปอร์ตเพรียวบางขึ้นมาก ขณะเดียวกับ Land Rover ก็เพิ่มความเข้มข้นในการ
โปรโมตว่ามันเป็นรถที่ลุยได้นะ
สำหรับความสามารถในการลุยของ Discovery รุ่นนี้ยังคงอยู่ทุกประการไม่ว่าจะเป็นความสูงจากพื้นรถ
ที่สามารถเพิ่มเป็น 283 มิลลิเมตรด้วยช่วงล่างแบบ Air Suspension ส่งผลให้มุมไต่อยู่ที่ 34 องศาและ
30 องศาสำหรับมุมจาก นอกจากนี้มันยังสามารถลุยน้ำที่มีความสูงถึง 900 มิลลิเมตรและยังมีระบบ
All Terrain Progress Control ที่ระบบจะควบคุมการเร่งและเบรกจนถึงความเร็ว 30 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
ให้คนขับได้ตั้งสมาธิกับการบังคับพวงมาลัยอย่างเต็มที่
Lexus
Lexus เคยตั้งใจที่จะรุกตลาดยุโรปด้วยการส่ง CT200h เพื่อตีตลาดคอมแพคท์หรูให้ถล่ม
ทลายแต่ผลตอบรับปรากฏว่า “เงียบสนิท” เพราะลูกค้ายังไม่รู้สึกว่ามันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
ประกอบกับความสำเร็จของ Lexus NX และ RX โฉมใหม่ก็ทำให้ Lexus ต้องเปลี่ยนวิธีคิด
Lexus UX Concept รถต้นแบบที่พยายามนำเสนอไอเดียการออกแบบที่เป็นรูปธรรมสะท้อน
มิติแห่งสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอก ทุกอย่างดูล้ำสมัยและพยายามเฉไฉประเด็นหลัก
ไปมาก เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่ารถคันนี้มันมาหยั่งเชิงว่าถ้าเป็นเอสยูวีขนาดย่อมสำหรับขับขี่ในเมือง
มีหน้าตาอย่างนี้พวกเรา ๆ ท่าน ๆ จะชอบไหม?
Simon Humphries ประธานศูนย์การออกแบบ ED2 ฝรั่งเศสตอนใต้กล่าวว่า Lexus
UX Concept คือรถต้นแบบหน้าใหม่ที่นักออกแบบพยายามค้นหาสิ่งใหม่และความเป็น
ต้นแบบที่ยังมีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าและแบรนด์ ที่น่าจะช่วยสร้างความประทับใจ
ดีไซน์แสดงออกถึงความก้าวหน้า, แข็งแรงแต่วิจิตรและยังคงความพรีเมี่ยมในแบบ Lexus
ลายเซ็นของการออกแบบสะท้อนถึงแนวคิดการออกแบบแต่ละรุ่นให้เป็นอัตลักษณ์
, มีบุคลิกที่ยืนพื้นในความเป็นตัวเองด้วยแนวคิดที่แข็งแกร่ง เพิ่มพลังการออกแบบ
ภายในให้เปล่งประกายสู่ภายนอก
Lexus UX เวอร์ชันขึ้นสายการผลิตจริงคาดว่าน่าจะได้เห็นภายในเร็ว ๆ นี้
และมีสิทธิ์ที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยด้วยเช่นกัน
Mercedes-Benz
Mercedes-Benz Generation EQ คือคำตอบสุดท้ายที่จะมาต่อกรกับ Tesla มองเผิน ๆ
นึกว่าเอา GLC ทำให้หรูหราล้ำสมัยขึ้น แต่ถ้าศึกษาจริง ๆ ก็พบว่า มันคือต้นแบบรถไฟฟ้าที่
จะเป็นซับแบรนด์ย่อยเพื่อสร้างชื่อเสียงใหม่ให้แก่ Daimler AG
Mercedes-Benz Generation EQ Concept เปิดตัวพร้อมกับสถาปัตยกรรมและระบบส่งกำลัง
ที่ยืดหยุ่นได้เหมาะสำหรับการพัฒนารถไฟฟ้าที่เป็นตัวถังซีดาน, แวกอน, คูเป้หรือแม้กระทั่งรถเปิดประทุน
2-4 ที่นั่งเป็นต้น
จุดที่น่าสนใจของรถต้นแบบคันนี้คือขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้ามอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้กำลัง 402 แรงม้า
แรงบิด 700 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 5 วินาที มีระยะทางวิ่งสูงสุด
500 กิโลเมตร โดยแบตเตอรี่แพ๊คจะเก็บอยู่ระหว่างกลางใต้พื้นตัวถังรถ
ก็แน่นอนว่าเกิดเป็นรถไฟฟ้าอัจฉริยะก็ต้องมีโซลูชั่นการชาร์จประจุแบตเตอรี่ล้ำสมัยให้เป็นทางเลือกใหม่
กับลูกค้าทั้งแบบชาร์จไร้สายและชาร์จไฟด่วนที่แค่ผู้ขับขี่ชาร์จไฟนานเพียง 5 นาที ก็สามารถวิ่งได้ระยะทาง
100 กิโลเมตรแล้ว
Mercedes-AMG GT C Roadster ก็เผยตัวให้คนพร้อมจับจองกันแล้ว โดยมีศักดิ์ศรีความแรง
เหนือกว่า GT S แต่ยังด้อยกว่า GT R
ภายนอกมาพร้อมกับกระจังหน้าแนวตั้ง 15 ซี่ จาก AMG GT R พร้อมระบบ Active Air Management
ที่เปิด-ปิดได้ภายใน 1 วินาที เพื่อลดแรงต้านอากาศหรือส่งไอเย็นเข้าสู่ห้องเครื่อง ด้านข้างมากับ
สเกิร์ตข้างที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อเสริมมิติหลังจากที่หลังคาหายไป ส่วนล้อมีขนาด 19 นิ้วทั้ง 4 ล้อ
ในรุ่น GT แต่ GT C จะมากับล้อหลังขนาด 20 นิ้ว วัสดุหลังคาเป็นผ้าใบดังที่เคยรายงานไว้
สามารถเปิดปิดได้ภายใน 11 วินาที เมื่อใช้ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง
หลังคาผ้าใบมีความหนา 3 ชั้น มาพร้อมโครงหลังคาที่ทำจาก Magnesium, เหล็ก, และอลูมิเนียม
สามารถเลือกสีได้ 3 สีประกอบไปด้วยแดง, ดำ, และเบจ ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกถึง 11 สี ภายในมา
พร้อมกับพวงมาลัย 3 ก้านจาก AMG และมีเครื่องเสียงจาก Burmester ให้เลือก 2 รุ่น นอกจากนี้
ยังสามารถเลือกติดตั้ง AMG Performance Seat ที่จะมาพร้อมกับระบบ Airscarf หรือ ระบบเป่า
หลัง และ ต้นคอด้วยลมร้อน ส่วนโทนสีตกแต่งภายในมีให้เลือก 10 เฉดสี
Mitsubishi
Mitsubishi GT-PHEV Concept ดูแล้วน่าจะเป็นร่างทรงของ Next Outlander ใหม่ ถ้าเป็น
เช่นนั้นจริงก็บอกได้เลยว่านี่คือการปฏิวัติบุคลิกของ Outlander ที่เป็นเอสยูวีดูเรียบ ๆ ง่าย ๆ
ให้กลายเป็นเอสยูวีที่มีกลิ่นความเป็นรถพรีเมี่ยมสูงมาก ถ้าไม่อวยเกินไปมากมันก็แอบคล้าย
Range Rover ในหลาย ๆ มุม
ภายนอก ด้านหน้ามาพร้อมกับ Dynamic Shield ที่คุ้นเคย ส่วนไฟท้ายเป็นเส้นเดียวกันจาก
ฝั่งซ้ายจวบจนฝั่งขวาในรูปแบบของ Horizontal เพื่อคงเอกลักษณ์ของค่าย นอกจากนี้
ใต้สปอยเลอร์หลัง ยังเป็นไฟเบรกด้วยที่ 3 แบบยาวทั้งชิ้นอีกด้วย อีกหนึ่งจุดเด่นของรถยนต์
ต้นแบบคันนี้คือกระจกมองข้างที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ ซึ่งอันที่จริงแล้วเป็นที่ติดตั้งกล้องมองข้าง
ไว้แทนกระจกแบบเดิม
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ-น้ำตาลแดง แผงแดชบอร์ดเป็นแบบวางยาว Horizontal
เช่นเคย เสริมด้วยโครเมี่ยมเพื่อเพิ่มความหรูหรา สำหรับหน้าจอแสดงผลมี 3 จอด้วยกัน โดยที่
ตรงกลางจะทำหน้าที่เหมือนมาตรวัดรถยนต์แสดงข้อมูลทั่วไป ส่วนหน้าจอที่อยู่ด้านซ้าย และ
ด้านขวาจะมีขนาดเล็กกว่า ทำหน้าที่รับสัญญาณแสดงภาพจากกล้องที่ติดอยู่ตรงตำแหน่ง
ที่เคยเป็นกระจกมองข้าง พวงมาลัยเป็นแบบ 4 ก้านเหมือน Pajero Sport แต่มีการขยับ
สัดส่วนใหม่ ให้กะทัดรัดกว่าเดิม
Nissan
สมรภูมิรถยนต์ B-Segment ในงาน Paris Motorshow 2016 ระอุถึงขีดสุดเมื่อ Nissan
ส่ง All New Micra รุ่นใหม่ที่ฉีกทุกดีไซน์ของความเป็น Micra เดิมทิ้งไป จนกลายเป็นรถ
แฮทช์แบคทรงโฉบเฉี่ยวสปอร์ต
มิติตัวถังถือเป็นความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเพราะ Nissan Micra/March โฉมใหม่จะยาว
กว่าเดิม 174 มิลลิเมตรเป็น 3,999 มิลลิเมตร, กว้างขึ้น 77 มิลลิเมตรเป็น 1,743 มิลลิเมตร
, เตี้ยลง 55 มิลลิเมตรเป็น 1,455 มิลลิเมตร มีความยาวฐานล้อ 2,525 มิลลิเมตรหรือยาวขึ้น
75 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าใหญ่กว่าเดิมเยอะมาก ๆ
จุดขาย All New Nissan Micra ถือว่าเต็มพิกัดทั้งดีไซน์ภายนอกใหม่และภายในที่ดูหรูหราขึ้น
พร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่สารพัดจากรถรุ่นใหญ่อาทิ ระบบ Active Ride Control ช่วยเพิ่มความ
สบายขณะขับขี่และระบบ Active Trace Control ที่ลดอาการอันเดอร์สเตียร์และช่วยให้
การบังคับควบคุมเฉียบขึ้น พร้อมพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Brushless ที่ทำให้พวงมาลัยตอบสนองดีขึ้น
เป็นต้น รวมถึงชุดระบบเครื่องเสียงที่พัฒนาร่วมกับ Bose
สำหรับตลาดไทยเป็นสิ่งที่คาดเดายาก เพราะข้อมูลสำหรับวันนี้ Nissan Thailand จะตัดสินใจ
ไม่ผลิต Nissan March โฉมต่อไปในไทย แต่สมมติถ้าหากมาจริงก็น่าจะได้เห็นกันในปี 2019 มากกว่า
Peugeot
Peugeot 5008 เป็นพระเอกขี่ม้าขาวตัวล่าสุดในสภาวะที่ตลาดมินิแวนกำลังประสบภาวะง้อย
เปลี้ยเอามาก ๆ นั่นเพราะผู้คนทั่วไปต่างพากันซื้อรถเอสยูวีมากกว่ามินิแวนมาก ๆ นั่นเอง
All New Peugeot 5008 มันก็คือ Peugeot 3008 มายืดความยาวตัวถังและติดตั้ง
เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 3 โดยวางตำแหน่งตลาดเป็นเอสยูวีระดับ C-Segment คันใหญ่
(และวาง 3008 ให้เป็นเอสยูวีระดับ C-Segment ที่มีขนาดย่อมลงมา)
จุดขายสำคัญนอกเหนือจากดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉียบคมด้วยดีไซน์ด้านหน้าที่ถูกออก
แบบให้มีเส้นสายค่อนข้างขนานกับพื้นถนนแล้ว นั่นก็คือความยาวฐานล้อ 2.84 เมตร!!!
ยาวเฟื้อยแตะระดับ D-Segment SUV ในระดับโลกได้เลย ภายใต้ขนาดตัวถังที่มีความ
ยาวกำลังดีคือประมาณ 4.64 เมตร หรือยาวกว่า Peugeot 3008 ราว 11 เซนติเมตร
จน Peugeot เคลมว่ามีเนื้อที่ห้องสัมภาระจุสูงสุด 1,060 ลิตรหากพับเบาะนั่งแถวที่ 3 ลง
Renault
หาก Renault Dezir Concept คือรถต้นแบบที่สะท้อนถึง New Design Language
ของ Renault ยุคปัจจุบัน Renault Trezor Concept ก็คงเป็นรถต้นแบบที่สะท้อนถึงแนวทาง
การออกแบบในอนาคตข้างหน้าเช่นกัน
Renault Trezor Concept มันน่าจะเป็น Dezir ที่กลายร่างให้ดูหรูหราขึ้นในลักษณะของ
รถ Grand Tourer ที่น่าจะสะท้อนแนวคิดการออกแบบบางส่วนสำหรับรถยนต์ Renault
รุ่นใหม่ คาดว่าไฟหน้าทรง C-Shape ที่มาพร้อมกับช่องดักลมแทรกน่าจะเป็นเทรนด์การออก
แบบใหม่ ส่วนแนวกระจังหน้าที่เห็นคาดว่าน่าจะส่งอิทธิพลต่อรถไฟฟ้าของ Renault มากกว่า
Renault Trezor Concept ติดตั้งขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับการแข่งขัน Formula E ให้
กำลัง 350 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน
ไม่เกิน 4 วินาที
ล้ำสมัยด้วยระบบขับขี่อัตโนมัติที่มีเลย์เอาท์แผงแดชบอร์ดมุมมองใหม่คือแทบจะไม่มีอุปกรณ์
อะไรติดตั้งให้รกตา
ดู ๆ ไปแล้วคาดว่า Renault Trezor Concept คงไม่น่าจะเป็นรถที่ผลิตออกมาจริงในอนาคต
Skoda
Skoda Kodiaq ดูเหมือนเป็นรถที่ Skoda ภาคภูมิใจพอสมควรเพราะมันเป็นเอสยูวี
ขนาดกลาง 7 ที่นั่งที่เปิดตัวรุ่นแรก ๆ ของ Volkswagen Group และแน่นอนว่า
Skoda คงคาดหวังความสำเร็จ
เส้นสายตัวถังจะมีเส้นที่สะท้อนถึงมิติที่กระทบกับแสงเงาที่ดูมีเสน่ห์อย่างประหลาด
ซึ่งเป็นวิถีการออกแบบที่ทำให้ Skoda ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาก
ตัวรถถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นตัวถัง MQB มีมิติ ยาว x กว้าง x สูง : 4,697 x 1,882 x 1,676
มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,791 มิลลิเมตร
ภายในตกแต่งได้ตามใจลูกค้ากับทางเลือกวัสดุมากมายไม่ว่าจะเป็นผ้า, หนัง, หรือ Alcantara
พร้อมโทนการตกแต่ง 5 รูปแบบ และ สีของไฟในห้องโดยสารที่สามารถปรับได้ 10 เฉดสี
นอกจากนี้จะมีอุปกรณ์มากมายติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเสียงพร้อมหน้าจอ
TFT, ระบบอุ่นเบาะ, และระบบ Wireless Charger
Volkswagen
หลังจากโซซัดโซเซไปพักใหญ่หลังจากเกิดเหตุการณ์โกงค่าไอเสีย DieselGate จนทำให้
บอร์ดบริหาร Volkswagen Group ตัดสินใจพลิกแผนนำของดีใน Pipeline ที่กำลัง
พัฒนาให้กลายเป็นโปรเจคท์ยักษ์พลิกชีวิตกลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้กลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง
Volkswagen I.D Concept รถต้นแบบไฟฟ้าที่จะสานต่อตำนาน Volkswagen Beetle
และ Golf ในด้านการเป็นรถของประชาชน ถ้าให้ขยายความอีกนิดมันก็น่าจะเป็นรถไฟฟ้าที่
ชาวประชามวลหมู่สามารถซื้อหามันได้ ถึงแม้ว่ามันจะมีเทคโนโลยีล้ำสมัยเหนือกาลเวลาก็ตาม
Think New คือคำขวัญยุทธศาสตร์ใหม่สำหรับ Volkswagen ที่ไม่ใช่การแก้ตัวหรือแก้ไข
แต่มันคือการเปลี่ยนทิศทางลมใหม่ไปสู่การสร้างรถไฟฟ้าที่คาดการณ์กันว่า VW จะทำยอด
ขายได้ 3 ล้านคันในปี 2025
Volkswagen I.D Concept ถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถังสำหรับไฟฟ้า MEB ติดตั้งขุมพลัง
มอเตอร์ไฟฟ้า 168 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8 วินาที
ทำความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระยะทางวิ่งสูงสุด 400-600 กิโลเมตร
ต่อชั่วโมง
จุดเด่นที่น่าจะโดนใจคนทั่วไปคือขนาดห้องโดยสารที่กว้างขวางเท่ากับ VW Passat
แม้ว่าจะมีขนาดตัวถังพอ ๆ กับ VW Golf นั่นเป็นเพราะใช้เนื้อที่ติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิคส์
น้อย
Volkswagen I.D Concept จะเปิดตัวในปี 2020 ตั้งราคาพอ ๆ กับ VW Golf
——————————————————————————————————-