Jeep ผู้ยิ่งใหญ่ในตลาดเอสยูวีสายพันธุ์เฉพาะทางก็เคยมีปัญหาในการสร้างบุคลิก
ใหม่ระหว่างเปลี่ยนถ่ายจากรถจี๊ปยุคเก่าไปสู่ยุคใหม่ คือ Jeep ไม่รู้จะเลือกทางไหน
ดีระหว่างสืบสานตำนานจี๊ปด้วยทรงอนุรักษ์นิยมด้วยมรดกงานออกแบบ Jeep Willys
หรือจะเป็นจี๊ปยุคใหม่ที่มีหน้าตาหล่อ ๆ ในสไตล์ Grand Cherokee
ปัญหาดังกล่าวก็ทำให้ Jeep วางกลยุทธ์ การพัฒนาเอสยูวีขนาดกลางเพื่อมาสู้กับ
Toyota RAV4 และ Honda CR-V ออกมาค่อนข้างผิดพลาดเพราะ Jeep ดันนำ
สไตล์การออกแบบด้านหน้า Jeep Willys มาใส่ใน Jeep Compass และ Jeep
Patriot โดยหวังว่าการนำ Retro Style จะเป็นจุดเด่นในการสู้กับคู่แข่ง แต่ดูเหมือน
ว่าใจของลูกค้ายอมรับใบหน้าแบบนี้กับ Jeep Wrangler เท่านั้น คงเพราะ Wrangler
มันเป็นรถสืบสานตำนาน Willys โดยตรงมากกว่ารถครึ่ง ๆ กลาง ๆ อย่าง Compass
และ Patriot ที่พยายามจะทำเป็น Modern Retro
ยอดขายของ Jeep Compass และ Patriot ในปีแรกที่แนะนำตัว (ปี 2006) ถือว่า
ไม่สู้ดีนักเพราะมียอดขายรวมกัน 58,000 คัน แต่ที่ย่ำแย่ที่สุดคงหนีไม่พ้น Jeep Compass
Jeep Compass ทำยอดขายแย่กว่า Patriot ค่อนข้างมากเพราะแนวการออกแบบ
ตัวถังของ Jeep Compass จะเป็นรถทรงสมัยใหม่ ขณะที่ Jeep Patriot เป็นเอสยูวี
ที่ดูคล้าย Cherokee ในยุคนั้นทำให้ลูกค้าชาวอเมริกาเหนือตอบรับ Patriot มากกว่า
แต่พอ Jeep Compass ลงทุนปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอกและภายในจนเกือบจะลืมของ
เดิมในปี 2011 ก็ทำให้ Compass กลายเป็นรถขายดีขึ้นชนิดพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินกันเลย
ส่วน Jeep Patriot รุ่นปรับโฉมก็ทำยอดขายดีขึ้นด้วยเช่นกัน
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา Jeep คงมองเห็นศักยภาพในการทำตลาดภายใต้ชื่อ Compass
มากกว่า Patriot เพราะ Compass ดูจะเป็นเอสยูวีที่เข้าสมัยนิยมมากกว่า ดังนั้น Jeep
จึงจำเป็นต้องยุบรวม Compass และ Patriot ไว้เป็นรถคันเดียวกันแทน
All New Jeep Compass คือการกำหนดทิศทางเอสยูวีคอมแพคท์แบบใหม่ของ Jeep
ด้วยการเลือกทางเดินแบบเดียวกับ Jeep Cherokee, Grand Cherokee และ Renegade
ใบหน้าของ Jeep Compass ดูดุกร้าวแบบสุภาพชนด้วยกระจังหน้าบานเกล็กทรงตั้ง 7
ช่องขนาดผอมเพรียวเข้าคู่กับไฟหน้าขนาดกะทัดรัด เส้นสายตัวถังจะเป็นการผสมผสาน
ระหว่าง Cherokee และ Renegade ส่วนดีไซน์ภายในห้องโดยสารถอดแบบมาจาก
Cherokee รุ่นปัจจุบัน
จุดเด่นของ Jeep Cherokee คือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีความสามารถยอดเยี่ยมที่สุด
, เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน, ดีไซน์พรีเมี่ยม, ขับขี่บนทางออนโรดสบาย และมีเทคโนโลยี
หรือระบบความปลอดภัยอีกมากมาย
ทุกคนสามารถเห็นโฉมคันจริงที่งาน LA Autoshow 2016 นี้ก่อนที่จะทำตลาดในอเมริกา
เหนือช่วงไตรมาสแรกของปี 2017
ที่มา : Motor1