หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สมมรรถนะในการขับขี่ลดลงไม่ได้มีเพียงเมาแล้วขับเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องการใช้
โทรศัพท์มือถือในระหว่างการขับขี่อีกด้วย ซึ่งมีสถิติที่น่าตกใจเกี่ยวกับปริมาณผู้ขับรถในประเทศ
อังกฤษที่ยอมรับว่าตนใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขับขี่ได้สูงขึ้นถึง 31% จากรายงานปีก่อนหน้า จน
เป็นเหตุให้ทางการพิจารณาเพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนให้เข้มงวดขึ้นไปอีก
RAC หรือ Road Awareness Charity ซึ่งเป็นองค์กรเกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศ
อังกฤษได้เปิดเผยผลสำรวจในหัวข้อดังกล่าวประจำปี 2016 และพบว่าปริมาณผู้ตอบแบบสอบถาม
ที่ยอมรับว่าตนใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขับขี่ได้สูงขึ้นถึง 31% ซึ่งเพิ่มมากขึ้นจากผลสำรวจปี 2014
ที่มีอยู่เพียง 8% เท่านั้นและปริมาณนี้เทียบเท่ากับคนขับรถปริมาณสูงถึง 11 ล้านคนเลย
เมื่อให้ระบุว่าผู้ตอบแบบสอบถามใช้โทรศัพท์มือถือทำอะไรพบว่า 19% ของผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ
ระหว่างขับรถนั้นพิมพ์ข้อความ, ส่ง email, หรือใช้ social media ซึ่งปริมาณนี้เทียบเท่ากับผู้ใช้รถ
สูงถึง 5 ล้านคนและยังสูงขึ้นจากผลสำรวจปี 2014 ที่มีอยู่เพียง 9% อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้ตอบ
แบบสอบถามอีก 14% ที่ยอมรับว่าตนถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอในขณะที่ขับรถไปด้วย แต่อีกสิ่งที่น่า
กลัวคือทัศนคติของสาธารณชนต่อผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขับขี่กลับเป็นเรื่องที่ยอมรับได้
ไปแล้วในอัตรา 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลย
โฆษกของ RAC ระบุว่าผลสำรวจนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยเพราะปริมาณผู้ตอบแบบสอบถามที่
ยอมรับว่าตนฝ่าฝืนกฎและทัศนคติที่เปลี่ยนไป ดังนั้นทาง RAC จึงอยากขอให้ทางการออกมาตร
การในการสร้างการตระหนักถึงอันตรายจากการกระทำดังกล่าว พร้อมต้องระบุว่าการกระทำเช่นนี้
เป็นสิ่งที่รับไม่ได้
ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวจากทางการแล้วว่ามีการพิจารณาเพิ่มบทลงโทษที่ใช้โทรศัพท์มือถือระหว่าง
ขับขี่จากเดิมที่หักแต้มใบขับขี่ 3 แต้มและปรับขั้นต่ำ 100 ปอนด์หรือราว 4,500 บาทเป็นหักแต้มใบ
ขับขี่ 4 แต้มและปรับขั้นต่ำ 150 ปอนด์หรือราว 6,800 บาทแทน ซึ่งทาง National Police Chief
Council ยังระบุด้วยว่าจะไม่มีเพียงการใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้นเท่านั้นแต่ยังจะมีการให้ความรู้ที่
ถูกต้องอีกด้วย