Honda Freed เป็นรถมินิแวน 7 ที่นั่งที่ประสบความสำเร็จอย่างดีในฐานะรถที่มาแทน
Honda Mobilio รุ่นปี 2001-2008 สำหรับตลาดญี่ปุ่น นั่นคงเพราะ Honda Freed
เป็นมินิแวนขนาดเล็กที่มีพร้อมทั้งแพ๊คเกจภายนอก, ภายในและประสิทธิภาพที่เหมาะสม
กับความต้องการของลูกค้าชาวญี่ปุ่น
ถึงแม้ว่า Honda Freed ไม่ประสบความสำเร็จในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่
Honda Freed ถือเป็นชื่อที่แข็งแกร่งมากในญี่ปุ่น ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม
พวกเราถึงได้เห็น Freed รุ่นที่ 2 กัน
All New Honda Freed (รุ่นที่นั่ง 3 แถว) มาพร้อมกับรุ่นพิเศษ Freed+ (รุ่นที่นั่ง 2
แถวแทนที่ Freed Spike) แท็กทีมถล่มตลาดมินิแวนขนาดคล่องตัวด้วยแนวคิดการ
พัฒนาให้เป็นรถที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการ ทุกที่ และทุกเวลาของไลฟ์สไตล์
เจ้าของ 16 แบบซึ่งเป็นวิวัฒนาการจากแนวคิด “Just Right” ของ Freed รุ่นที่แล้ว
Honda ก็คือ Honda เพราะพวกเขาได้แนะนำระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขุมพลัง Hybrid
เป็นครั้งแรกในตลาดมินิแวนขนาดคอมแพคท์ และรุ่น Hybrid ก็มีออพชั่นห้องโดยสาร
สำหรับผู้ทุพพลภาพให้เลือกด้วย
ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมแนวคิด “ความปราดเปรียวเคียงคู่กับฟังก์ชัน” ผสมผสานความ
ปราดเปรียว, ฟังก์ชัน, คุณค่าและน่าดึงดูดใจเพื่อยกระดับให้มินิแวนคันนี้เป็นรถที่เจ้า
ของขับเอง หาใช่เป็นรถพ่อบ้านสำหรับส่งลูกหลานเหมือนแต่ก่อน
งานดีไซน์ที่ Honda ภูมิใจนำเสนอคือการขึ้นลายสลักตัวถังที่ไม่มีเส้นต่อเนื่องเชื่อมกัน
แต่มีการวาดเส้นให้เป็นทิศทางเดียวกัน เส้นสลักที่เป็นอิสระชัดเจนจากเส้น Belt Line
ก็คือเส้นสลักชายล่างประตูและเส้นสลักเหนือซุ้มล้อหลัง สร้างมิติใหม่เมื่อมองตัวรถในมุมทะแยง
สำหรับ Honda Freed+ จะพิเศษกว่าที่ขอบฝากระโปรงท้ายลากยาวถึงพื้นตัวถัง
นอกจากช่วยเพิ่มความอเนกประสงค์ให้แล้วยังทำให้บั้นท้ายดูสปอร์ตวัยรุ่นขึ้นอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารก็พบกับความเซอร์ไพร์ซด้วยการอัพเกรดคุณภาพภายในให้ดี
เหมือนจะเทียบเท่า Honda StepWGN (แถมดีไซน์แผงแดชบอร์ดก็คล้าย StepWGN
อีกด้วย) ด้วยแนวคิด “Natural Modern Interior” ผ่อนคลายราวกับนั่งในรีสอร์ท
อันสวยหรู เบาะผ้าดูดีและให้ความรู้สึกดี ติดตั้งวัสดุพื้นผิวลายไม้ละเอียดให้ความรู้สึก
เป็นธรรมชาติ
แต่สำหรับภายใน Honda Freed+ จะสร้างความมหัศจรรย์ให้แก่วงการด้วยแนวคิด
“Wonder Pack Interior” ที่สามารถแปลงภายในห้องโดยสารเป็น “เครื่องมือ” ที่
ปรับตัวได้ทุกความต้องการ ใช้เบาะผ้าพิมพ์ลาย 3 มิติ, ใช้วัสดุเมทัลที่ใช้สีตัดกัน, เน้นโทนสีเดี่ยว
Honda Freed ขยายจุดรองรับสะโพกสำหรับเบาะแถวแรกและแถวที่ 3 ถึง 90 มิลลิเมตร
ส่งผลให้ผู้โดยสารทุกที่นั่ง นั่งสบายขึ้นไปอีก ถ้าเป็นรุ่น 6 ที่นั่งก็จะได้เบาะ Captain Seat
โดยเบาะแถวที่ 2 สามารถปรับเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังสูงสุด 360 มิลลิเมตร
มีการออกแบบให้มีช่องว่างกลางระหว่างเบาะเพิ่มขึ้น 50 มิลลิเมตรสำหรับเบาะแถวแรก
, ขยายขึ้นอีก 25 มิลลิเมตรสำหรับเบาะแถวที่ 2
และเพื่อการเข้าออกห้องโดยสารที่สะดวกขึ้นจึงได้มีการขยายขนาดบานประตูสไลด์อีก
20 มิลลิเมตร (หรือมีบานประตูใหญ่ขนาด 665 มิลลิเมตร) ลดความสูงพื้นตัวถังอีก
15 มิลลิเมตร
พิเศษสุดสำหรับ Honda Freed+ มินิแวนเบาะ 2 แถวที่นั่งจะซ่อนห้องสัมภาระพิเศษ
Ultra Low ใต้พื้นห้องสัมภาระอีกทีหนึ่ง (สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น) มีความ
สูงถึง 335 มิลลิเมตร และมีฟังก์ชันพิเศษคือมันสามารถแปลงห้องโดยสารเป็นห้องนอน
เคลื่อนที่เพียงแค่พับเบาะแถวที่ 2 ซึ่งติดตั้งกลไกบอร์ดที่รองรับน้ำหนักได้มากซ่อนอยู่
หลังเบาะ ก็จะได้พื้นที่เตียงเคลื่อนที่ขนาด Three-Quarter (120 เซนติเมตร x 195
เซนติเมตร) หรือขนาด Semi-Double ตามมาตรฐานญี่ปุ่น
โครงสร้างตัวถังเพิ่มจำนวนเหล็กทนต่อการบิดตัวสูงมากขึ้น สำหรับรุ่น Hybrid จะเพิ่ม
เฟรมตัวถัง “Multi-Shell” มีการปรับช่วงล่างหลัง, ซีลบุชให้มีการขับขี่ที่นุ่มนวล
สนุกสนานและเงียบสงบ
All New Honda Freed และ Freed+ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Direct
Injection i-VTEC จับคู่เกียร์ CVT ประหยัดน้ำมันสูงสุด 19 กิโลเมตรต่อลิตร
และขุมพลัง Sport Hybrid i-DCD เกียร์ DCT 7 จังหวะ มอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้ง
แม่เหล็กนีโอมีเดียมประหยัดน้ำมันสูงสุด 27.2 กิโลเมตรต่อลิตร
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่เปิดเผยได้ ณ ขณะนี้คือระบบทำนายไฟสัญญาณการ
จราจรเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถได้อย่างปลอดภัย
ที่มา : Honda