มากันเป็นคู่แฝดสปอร์ตเย้ายวนใจทั้งเวอร์ชันเปิดประทุนและเวอร์ชัน Nismo พร้อมขายหลังกลางปีนี้กับตระกูล 370Z หรือที่เรียกในญี่ปุ่นว่า FairladyZ แถมเปิดตัวหลังเวอร์ชันปกติไม่นานนักผิดธรรมเนียมของรุ่นก่อน

เวอร์ชัน Roadster กลายเป็นว่าดีไซน์ตั้งแต่ประตูจนถึงท้ายค่อนข้างแตกต่างเวอร์ชันคูเป้ที่ด้านท้ายจะลาดเอียงมากละม้ายพวก Porsche Cayman อันเป็น Benchmark ที่นิสสันตั้งเอาไว้ เมื่อปิดหลังคาแล้วรถกลับดูเป็นคูเป้มากกว่ารุ่นธรรมดาเสียอีก

รายละเอียดทางเทคนิคจะไม่แตกต่างกันมากกับเวอร์ชันธรรมดา แต่ใครคิดหวังหลังคาเหล็กแข็งคงต้องเสียใจ นิสสันตั้งใจลดน้ำหนักรุ่นนี้ให้มากที่สุดจึงมีแต่หลังคาผ้าใบให้เลือกเท่านั้นที่เราไม่แน่ใจว่าจะทนต่อการฉีกขาดได้แค่ไหนเพราะโจรกรรมในบ้านเรามันเยอะ หากวันไหนฝนตกไม่ต้องกลัวระบบเปิด-ปิดหลังคาใช้เวลาไม่นานนักแค่ 20 วินาที

มิติตัวถังรถสั้นและเบาลงกว่าเดิม ความยาว 4,247 มม. (รุ่นเก่า 4,313 มม.) ฐานล้อยาว 2,550 มม. (รุ่นเก่า 2,649 มม.) เพื่อความสมดุลการขับขี่ให้ได้มากที่สุดจึงต้องลดน้ำหนักลงด้วยการใช้วัสดุอลูมิเนียมที่ฝากระโปรง,ประตู,บริเวณห้องสัมภาระ และยิ่งเป็นรถเปิดประทุนแบบนี้จึงต้องเพิ่มความแข็งแกร่งโครงสร้างตัวถังให้เหนือกว่า Coupe บริเวณหลังคาคู่หน้าและโครงตัวถังด้านข้าง ช่วยการทรงตัวและลดการบิดตัว

 
 

เครื่องยนต์ยังยืนเป็น VQ37VHR 332 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะพร้อมระบบ SyncroRev Match ทำให้ขับรถแบบนักซิ่งมืออาชีพได้ง่ายขึ้นหรือชอบสบายต้องเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะจาก Jatco

Nismo 370Z

เวอร์ชันแรงของ 370Z Coupe เพิ่มความแรงบล๊อก VQ37VHR เป็น 350 แรงม้าที่ 7,400 รอบต่อนาที 276 lb-ft ที่ 5,200 รอบต่อนาที เพราะปรับปรุงระบบหมุนเวียนอากาศและติดตั้ง ECM เพิ่มด้วย

ปรับปรุงระบบกันสะเทือนให้ดีกว่ารุ่นธรรมดาด้วยปรับค่าความหนืดของสปริงหน้า 15% และสปริงหลัง 10% เพิ่มความแข็งของเหล็กกันโคลงหน้า 15% และด้านท้ายมากถึง 50% เพิ่มขีดความสามารถการทรงตัวถัง 15%

เมื่อปรับปรุงสมรรถนะแล้วต้องใช้ยางดีๆ อย่าง Yokohama ADVAN Sport-Y คุณภาพเยี่ยมพร้อมล้ออัลลอย 19 นิ้วทรงเอกลักษณ์ ระบบเบรคที่ถูกจูนมาอย่างดี

กำหนดจำหน่ายของ Nismo 370Z ในอเมริกาเดือนมิถุนายนนี้แต่ 370Z Roadster จะจำหน่ายในอเมริการาวไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนประเทศไทยมีโอกาสสัมผัส 370Z Roadster พร้อมกับตลาดอเมริการาวไตรมาส 3 นี้